นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยในภาคใต้ว่า ฝนที่ตกหนักในภาคใต้ตั้งแต่วันที่ 21พฤศจิกายน 2556 ทำให้มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 12 จังหวัด สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 7 จังหวัด ได้แก่ ยะลา สตูล ระนอง ประจวบคีรีขันธ์ ปัตตานี สุราษฎร์ธานีและชุมพร ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ 5 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง ตรัง และนราธิวาส รวม 29 อำเภอ 142 ตำบล 735 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ 33,584 ครัวเรือน 122,227 คน ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ร่วมกับจังหวัดดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ภายใต้การปฏิบัติการของศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่มระดับจังหวัด โดยประสานจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลาย ให้เร่งสำรวจและประเมินความเสียหาย ช่วยเหลือสงเคราะห์เยียวยาผู้ประสบภัยและฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย พร้อมซ่อมแซมสิ่งสาธารณประโยชน์ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ทั่วถึง เป็นธรรม ครอบคลุมตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ส่วนจังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดนำเครื่องสูบน้ำติดตั้งในพื้นที่ลุ่ม ริมสองฝั่งแม่น้ำ เร่งระบายน้ำที่ท่วมขัง พร้อมบูรณาการสรรพกำลังทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน หน่วยทหารและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยนำเครื่องอุปโภคบริโภคแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และประสานการอพยประชาชนทันทีที่สถานการณ์รุนแรง ตลอดจนระดมวัสดุอุปกรณ์ ทั้งเรือเล็ก เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ สุขาเคลื่อนที่ รถไฟฟ้าส่องสว่าง เครื่องกำเนิดไฟฟ้า รถบรรทุกน้ำ ออกให้บริการอำนวยความสะดวกและสนับสนุนการปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทุกพื้นที่
นายฉัตรชัย กล่าวต่อไปว่าเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในภาคใต้ ปภ. ได้สั่งการ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด จัดชุดเคลื่อนที่เร็วและวัสดุอุปกรณ์ปฏิบัติการประจำจุดเสี่ยงต่างๆ ทั้งดินถล่มบริเวณ ที่ลาดเชิงเขา น้ำล้นตลิ่งริมฝั่งแม่น้ำ และคลื่นซัดฝั่งริมชายฝั่งทะเล เพื่อให้สามารถปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภาคใต้ได้อย่างทันท่วงที ท้ายนี้ ขอฝากเตือนประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ให้ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด ปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัย ทั้งที่ลาดเชิงเขา ที่ลุ่มริมแม่น้ำ ซึ่งมีปริมาณฝนตกมากอยู่แล้ว หากมีฝนตกลงมาเพิ่ม อาจทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น สำหรับประชาชนที่ประสบภัย สามารถติดต่อแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
                            
                            NT หนุนพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแห่งชาติ "T-Alert" ยกระดับความปลอดภัยประชาชนทั่วประเทศ
                        
                            เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา
                        
                            SAM ห่วงใยลูกหนี้ ออกมาตรการเร่งด่วนครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งผู้ประสบสาธารณภัยพายุ "วิภา" พักเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 3 เดือน ส่วนผู้เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล จัดดอกเบี้ยต่ำ 3-5% ผ่อนยาว 10 ปี เพื่อส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทยเริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน
                        
                            มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จับมือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงนามบันทึกความเข้าใจ ยกระดับ MOU ร่วมให้ความรู้
                        
                            NT พร้อมแจ้งเตือนภัยผ่าน Cell Broadcast หลังการทดสอบประสบผลสำเร็จ ได้รับข้อความแจ้งเตือนภัยรวดเร็ว แม่นยำ
                        
                            ชาวเชียงใหม่ อยุธยา อุดรฯ นครศรีฯ และกรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม!
                        
                            NT ร่วม ปภ. ทดสอบระบบ Cell Broadcast ในพื้นที่ครั้งแรก แจ้งผลมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ครอบคลุม เสริมความพร้อมระบบเตือนภัยแห่งชาติ
                        
                            NT ยืนยันความพร้อม ร่วมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ในพื้นที่จริง
                        
                            ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แนะ 7 วิธี เช็กระบบไฟฟ้า เพิ่มความปลอดภัย รับมือหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์