กระทรวงเกษตรฯ จับมือ 4 หน่วยงานลงนามความร่วมมือพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยด้านการประมงระยะ 5 ปี

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

           กระทรวงเกษตรฯ จับมือ 4 หน่วยงานลงนามความร่วมมือพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยด้านการประมงระยะ 5 ปี มุ่งแลกเปลี่ยนข้อมูลและเทคโนโลยีระหว่างหน่วยงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวัง - แจ้งเตือนภัย หวังลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ และช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและชาวประมงทั่วประเทศได้ทันท่วงที
          นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในโอกาสเป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านสารสนเทศและการสื่อสารระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมง กับ 4 หน่วยงาน ได้แก่ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ว่า นับวันสภาวะการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ(Climate Change) ได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตภาคเกษตร ทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ และประมง โดยเฉพาะสภาพภูมิอากาศและฤดูกาลแปรปรวน ปรากฏการณ์เอลนีโญ่ ลานีญ่า ฝนทิ้งช่วง เกิดภัยแล้งยาวนาน และเกิดพายุขนาดใหญ่ สร้างความสูญเสียต่อระบบเศรษฐกิจและเกษตรกรคิดเป็นมูลค่านับแสนล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
          จากสถานการณ์ดังกล่าว ในฐานะที่กำกับดูแลกรมประมงได้มอบหมายให้กรมประมงจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อร่วมดำเนินโครงการบูรณาการข้อมูลสำหรับแจ้งเตือนภัยด้านการประมง ระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2556-2560 โดยมี แผนบูรณาการข้อมูลและเทคโนโลยีระหว่างหน่วยงานเพื่อสร้างองค์ความรู้ด้านการเตือนภัย การฝึกอบรมเกษตรกร การสร้างเครือข่ายในการเฝ้าระวัง และแจ้งเตือนภัยพิบัติ สำหรับเป็นเครื่องมือในการแจ้งเตือนภัยแก่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและชาวประมงได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการด้านการประมง 
          ขณะเดียวกันยังมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้สามารถแจ้งเตือนการเกิดภัยธรรมชาติที่อาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้ล่วงหน้า ซึ่งทำให้เกษตรกรสามารถเตรียมการรองรับสถานการณ์ได้ทัน ทั้งยังช่วยลดความเสียหายทางเศรษฐกิจ พร้อมช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และชาวประมง อีกทั้งยังเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านงบประมาณของภาครัฐในการให้ความช่วยเหลือหรือจ่ายเงินชดเชยแก่ผู้ประสบภัยด้านการประมงด้วย
          “สำหรับปีนี้ กรมประมงได้สำรวจและจัดเก็บข้อมูลพิกัดฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ขึ้นทะเบียนแล้ว จำนวนกว่า 500,000 ฟาร์ม ซึ่งสามารถบูรณาการข้อมูลดังกล่าวร่วมกับเทคโนโลยีการติดตาม การตรวจสอบและการพยากรณ์การเกิดภัยพิบัติที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งคาดว่าจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติ และสามารถแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าให้แก่เกษตรกรในแต่ละพื้นที่ได้อย่างเหมาะสมและทันเหตุการณ์” นายศิริวัฒน์ กล่าว
          นายศิริวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ระยะแรกโครงการฯ นี้ได้มีแผนสร้างองค์ความรู้ในการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยมีการถ่ายทอดความรู้และฝึกอบรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศแก่กลุ่มเกษตรกรเป้าหมาย อาทิ เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัย ชาวประมง ประมงอาสา เป็นต้น โดยจะคัดเลือกจังหวัดต้นแบบ 1 จังหวัด จากนั้น ในระยะที่ 2 จะขยายผลต้นแบบให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งความร่วมมือในการบูรณาการข้อมูลเพื่อแจ้งเตือนภัยด้านการประมง ดังกล่าวนี้ จะเป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า ทำให้เกษตรกรและชาวประมงแต่ละพื้นที่สามารถเตรียมรับมือกับสถานการณ์ได้ทัน ซึ่งจะช่วยลดความเสียหายให้น้อยลงได้ หรืออาจลดความสูญเสียได้ทั้งหมด
 
 

ข่าวการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์+กระทรวงเกษตรและสหกรณ์วันนี้

"รมว.อรรถกร"นำ กระทรวงเกษตรฯ ผนึกกำลังภาคเอกชน พัฒนา 'จุลสาหร่าย' สู่พลังงานสะอาด-นวัตกรรมอาหารสัตว์ ยกระดับทรัพยากรชีวภาพ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการส่งเสริมการเพาะเลี้ยงจุลสาหร่ายเพื่อผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืนและผลิตอาหารสัตว์จากกากจุลสาหร่าย ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย นางสาวภัทราภรณ์ โสเจยยะ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บริษัท แอดวานซ์ ไบโอคาร์บอน จำกัด โดย นางสาวปิ่นมณี แก้วดวงสี กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม และบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) โดย นายเดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ณ

มกอช. หนุนกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ขอนแก่น ใช้... มกอช. หนุนกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ขอนแก่น — มกอช. หนุนกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ขอนแก่น ใช้เครื่องหมาย Q ผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน พร้อมต่อยอด...

แนะเกษตรกรผู้ปลูกลำไยขึ้นทะเบียนเกษตรกรรอ... "รมช.อัครา" ลุยพะเยาต่อเนื่อง! มอบนโยบายจัดทำการเกษตรแบบเป็นระบบ — แนะเกษตรกรผู้ปลูกลำไยขึ้นทะเบียนเกษตรกรรอมาตรการช่วยเหลือไร่ละ 1,400 บาท พร้อมเตรียมสร้...

นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกร... กระทรวงเกษตรฯ ตั้ง "War room ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตร ชายแดนไทย-กัมพูชา" — นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ค...

กรมประมง...ส่งเสริมการเพาะเลี้ยง "ปูทะเล"... กรมประมง…หนุนเกษตรกรเปลี่ยน "บ่อกุ้งร้าง" เพื่อสร้างรายได้ด้วยการเลี้ยง "ปูทะเล" — กรมประมง...ส่งเสริมการเพาะเลี้ยง "ปูทะเล" ในบ่อกุ้งร้าง หวังฟื้นแหล่งผล...