(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.19 น.ของวันที่ 14/11/13)ออกมา คือ ออกมา คือ
แนวโน้มวันที่ 15 พฤศจิกายน 2556
นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า ก่อนจะก้าวลงจากตำแหน่งประธานเฟดในวันที่ 31 มกราคม 2014 ว่า "วาระการดำรงตำแหน่งของผมจะสิ้นสุดลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าและผมก็หวังว่าผมจะก้าวลงจากตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานอยู่ที่ 5 % แทนที่จะเป็น 7 % และสิ่งที่สำคัญก็คือ เราจะยังคงให้การสนับสนุนที่จำเป็นต่อไปเพื่อช่วยให้ประชาชนกลับมามีงานทำ และเพื่อสกัดกั้นอัตราเงินเฟ้อไม่ให้ดิ่งลงต่ำเกินไปจากระดับเป้าหมายที่เฟดตั้งไว้ที่ 2 % ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด แถลงว่า อัตราว่างงานในสหรัฐอยู่ที่ 7.3% ซึ่งยังถือว่าสูงเกินไปและสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศยังขาดศักยภาพ นักลงทุนขานรับแถลงการณ์ดังกล่าว โดยคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปอีกระยะหนึ่ง และเฟดจะไม่รีบร้อนปรับลดขนาด QE ลงในเร็วๆนี้ ขณะที่ถ้อยแถลงของนายเบน เบอร์นันเก้ และ นางเยลเลน ช่วยกระตุ้นความต้องการลงทุนในทองคำ โดยสกุลเงินดอลลาร์ร่วงลงนักลงทุนขานรับร่างคำแถลงนี้ และกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตร รัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีให้ดิ่งลง หลังจาก แตะจุดสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือนที่ 2.792 % ในวันอังคาร โดยการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรส่งผลกระทบต่อดอลลาร์ อย่างไรก็ตามทิศทางการของราคาทองคำยังคงขึ้นอยู่กับเม็ดเงินลงทุนไหลไหลกลับเข้ามายังตลาดทองคำ ซึ่งส่งผลบวกต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตามเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง ดังนั้นแล้วนักลงทุนควรจะมีความระมัดระวังในการลงทุนเช่นกัน เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำมีโอกาสค่อยๆขยับขึ้น ซึ่งหากราคาทองคำสามารถผ่านระดับ 1,297-1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ ราคาทองคำจะขยับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับแนวรับยังคงอยู่ในโซน 1,270-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,270 หรือ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,297-1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%
แนวรับ 1,270 (18,930บาท) 1,260 (18,780บาท) 1,250 (18,630บาท)
แนวต้าน 1,300 (19,380บาท) 1,307 (19,490บาท) 1,320 (19,680บาท)
GOLD FUTURES (GFZ13)
แนวรับ 1,270 (19,140บาท) 1,260 (18,990บาท) 1,250 (18,840บาท)
แนวต้าน 1,300 (19,590บาท) 1,307 (19,690บาท) 1,320 (19,890บาท)
SILVER FUTURES (SVZ13)
แนวรับ 20.45 (674 บาท) 20.20 (680 บาท) 19.95 (690 บาท)
แนวต้าน 21.10 (654 บาท) 21.30 (646 บาท) 21.60 (638 บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.20-32.70 ติดตามข้อมูลสหรัฐและค่าเงินหยวน
Bitget มองตลาดคริปโทไปต่อ คาดบิตคอยน์ฟื้นตัวสู่ 130,000 ดอลลาร์
"โกลเบล็ก" ระบุราคาทองคำยังน่าจับตา! นักลงทุนแห่ถือครองรับความเสี่ยงเศรษฐกิจโลก
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.50-33.10 ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ
ความกังวลขัดแย้งและนโยบายดอกเบี้ยสหรัฐฯ ดันดัชนีทองคำ ต.ค. 68 และ Q4/2568 ปรับเพิ่มขึ้น
Bitget เผย 3 ปัจจัยหนุนบิทคอยน์สร้างจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง FED ลดดอกเบี้ย SEC อนุมัติ ETF ของ Altcoin และบริษัทเอกชนหันลงทุนคริปโท
ทองคำพุ่งแรงสุดในรอบเกือบครึ่งศตวรรษ สถาบันการเงินโลกชี้ราคาไป 4,000 ดอลลาร์
เมอร์เคิล แคปปิตอล วิเคราะห์ หลัง Fed ลดดอกเบี้ย จับตา Bitcoin Ethereum Altcoin เตรียมเข้าสู่รอบใหม่
ธ.ทิสโก้เปิด 3 สินทรัพย์ สร้างกำไรช่วง Fed ลดดอกเบี้ย