ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่มีประกัน “บ. น้ำตาลขอนแก่น” เป็น “A” จาก “A-”และคงแนวโน้ม “Stable”

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

           ทริสเรทติ้งปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ “A” จากเดิมที่ระดับ “A-” โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” สืบเนื่องจากสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้นหลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดโรงงานน้ำตาลแห่งใหม่ที่อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้งมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงความเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ของประเทศไทย ตลอดจนการขยายกิจการไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจน้ำตาล ทั้งนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตดังกล่าวยังคำนึงถึงความเสี่ยงทั้งในด้านกฎระเบียบและการดำเนินธุรกิจอ้อยและน้ำตาลในประเทศลาวและกัมพูชา รวมทั้งความผันผวนของราคาน้ำตาลและปริมาณผลผลิตอ้อยด้วย ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่า
          กลุ่มน้ำตาลขอนแก่นจะยังคงดำรงสถานะการเป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ของไทยเอาไว้ได้ โดยระบบแบ่งปันผลประโยชน์ในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลและการเติบโตของธุรกิจเอทานอลและไฟฟ้าจะช่วยรองรับการดำเนินงานในช่วงวงจรขาลงของธุรกิจน้ำตาลได้
บริษัทน้ำตาลขอนแก่นก่อตั้งในปี 2488 โดยตระกูลชินธรรมมิตร์และคณะ ปัจจุบันตระกูลชินธรรมมิตร์ถือหุ้นในบริษัทรวม 70.0% ของหุ้นทั้งหมด บริษัทเป็นเจ้าของและบริหารโรงงานน้ำตาล 5 แห่งในประเทศไทย โดยมีกำลังการหีบอ้อยรวม 92,000 ตันอ้อยต่อวัน กลุ่มน้ำตาลขอนแก่นสามารถหีบอ้อยได้ 7.7 ล้านตันอ้อยในปีการผลิต 2555/2556 และผลิตน้ำตาลได้ 738,952 ตัน ซึ่งจัดเป็นกลุ่มผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่อันดับ 4 ของประเทศไทย ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 7.4% ในปีการผลิต 2555/2556 รองจากกลุ่มมิตรผลซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาด 19.9% กลุ่มไทยรุ่งเรือง 16.3% และกลุ่มไทยเอกลักษณ์ 9.3% 
          ตั้งแต่ปี 2549 บริษัทได้ขยายการลงทุนไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจน้ำตาลเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากอ้อยอันประกอบด้วยธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้าและเอทานอล โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา รายได้จากธุรกิจพลังงาน (ไฟฟ้าและเอทานอล) คิดเป็นสัดส่วนโดยเฉลี่ย 10% ของรายได้รวม ในขณะที่กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จากธุรกิจพลังงานคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของ EBITDA รวมของบริษัท ปัจจุบันธุรกิจน้ำตาลในประเทศลาวและกัมพูชามีสัดส่วนไม่มากเมื่อเทียบกับธุรกิจน้ำตาลในประเทศไทย โดยผลผลิตน้ำตาลในทั้ง 2 ประเทศในปีการผลิต 2555/2556 มีเพียง 35,000 ตัน คิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 5% ของผลผลิตน้ำตาลในประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานของโรงงานของบริษัทในทั้ง 2 ประเทศ นี้จะถึงจุดคุ้มทุนในปีการผลิต 2556/2557 
          จากพื้นที่ปลูกและปริมาณอ้อยที่มีจำกัดในเขตพื้นที่โรงงานน้ำตาลเดิม บริษัทได้สร้างศูนย์การผลิตแห่งใหม่ในอำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี โดยใช้เงินลงทุน 7,250 ล้านบาท หลังจากศูนย์การผลิตน้ำตาลและเอทานอลสร้างเสร็จในเดือนตุลาคม 2555 ทำให้กำลังการหีบอ้อยของกลุ่มเพิ่มขึ้น 43.8% จาก 64,000 ตันต่อวันเป็น 92,000 ตันต่อวัน ส่วนแบ่งการผลิตของบริษัทก็เพิ่มขึ้นจาก 6.4% ในปีการผลิต 2553/2554 เป็น 7.4% ในปีการผลิต 2555/2556 และกำลังการผลิตเอทานอลรวมก็เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว คือจาก 150,000 ลิตรต่อวันเป็น 350,000 ลิตรต่อวัน 
          แม้ว่าราคาน้ำตาลลดลง แต่ผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงปีการเงิน 2555-2556 ก็ยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 35% เป็น 22,212 ล้านบาทในปีการเงิน 2555 จาก 16,460 ล้านบาทในปีการเงิน 2554 เนื่องจากศูนย์การผลิตแห่งใหม่ในจังหวัดกาญจนบุรีและจังหวัดเลยเริ่มเปิดดำเนินการ EBITDA ในปีการเงิน 2555 สูงขึ้นเป็น 4,580 ล้านบาทจาก 3,891 ล้านบาทในปี 2554 EBITDA จากธุรกิจเอทานอลและไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจาก 500 ล้านบาทในปี 2554 เป็น 1,000 ล้านบาทในปี 2555 โดยปริมาณขายเอทานอลเพิ่มขึ้นมากกว่า 200% จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นในศูนย์การผลิตที่บ่อพลอยและความต้องการใช้เอทานอลที่เพิ่มขึ้นหลังจากมีการยกเลิกการใช้น้ำมันเบนซิน 91 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 
          โครงสร้างเงินทุนของบริษัทค่อนข้างคงที่ โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนอยู่ที่ระดับ 50%-55% ในแต่ละปีการเงินซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ตุลาคม ส่วนในระหว่างปี 2557 ถึง 2559 บริษัทมีแผนลงทุนในโครงการต่าง ๆ ประมาณ 2,000 ล้านบาท ถึง 3,000 ล้านบาทต่อปี เมื่อพิจารณาจากการคาดการณ์ EBITDA ประมาณ 3,000 ล้านบาท ถึง 4,000 ล้านบาทต่อปี คาดว่าบริษัทยังคงสามารถรักษาระดับเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนที่ระดับนี้ต่อไปได้
          ปริมาณผลผลิตอ้อยและราคาน้ำตาลในตลาดโลกมีความผันผวนเป็นอย่างมาก ในปีการผลิต 2555/2556 ปริมาณผลผลิตอ้อยของไทยมีจำนวน 100 ล้านตันอ้อย ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 98 ล้านตันในปีการผลิต 2554/2555 ส่วนราคาน้ำตาลทรายดิบในตลาดโลกซึ่งหลังจากเพิ่มขึ้นไปอยู่ในระดับสูงสุดที่ 36.11 เซนต์/ปอนด์ในเดือนมกราคม 2554 แล้วก็ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 18-19 เซนต์/ปอนด์ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2556 เป็นต้นมาเนื่องจากปริมาณผลผลิตน้ำตาลในประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น

บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) (KSL)
อันดับเครดิตองค์กร: A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
KSL14DA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 A
KSL15DA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
 
 

ข่าวจังหวัดกาญจนบุรี+น้ำตาลขอนแก่นวันนี้

"JAS" มอบเงิน 5 ล้านบาท สนับสนุน "มูลนิธิเพจอีจัน" เพื่อสร้างโรงเรียนเด็กพิเศษ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

ดร.โสรัชย์ อัศวะประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS มอบเงินสนับสนุนจำนวน 5,000,000 บาท ให้กับ "มูลนิธิเพจอีจัน" เพื่อนำไปสร้างโรงเรียนเด็กพิเศษทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี โดยมี คุณสมปรารถนา นาวงษ์ ประธานมูลนิธิเพจอีจัน และเจ้าของเพจอีจัน พร้อมด้วยคณะที่ปรึกษามูลนิธิฯ เข้ารับมอบเงินสนับสนุนดังกล่าว ทั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้บริหารกลุ่มบริษัทโมโน นำโดย คุณเนตรพนิต โพธารากุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตรายการและผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง MONO29,

วิทยาลัยดุสิตธานี สถาบันการศึกษาด้านธุรกิ... วิทยาลัยดุสิตธานีร่วมขับเคลื่อนหลักสูตรวิชาช่างในสถาบันการศึกษากาญจนบุรี — วิทยาลัยดุสิตธานี สถาบันการศึกษาด้านธุรกิจบริการในเครือโรงแรมดุสิตธานี นำโดย ดร...