ปภ.เตรียมพร้อมรับมือผลกระทบพายุดีเปรสชั่น 19-21 ก.ย.56

20 Sep 2013

กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--ปภ.

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตรียมความพร้อมรับมือผลกระทบจากพายุดีเปรสชั่นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออก โดยบูรณาการวางแผนป้องกันภัยและปฏิบัติการเชิงรุก จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ภัยอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องสูบน้ำให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย มุ่งเน้นการดูแลชีวิตความเป็นอยู่และความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า พายุดีเปรสชั่นได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามในวันนี้ (19 ก.ย.56) และจะเคลื่อนตัวผ่านประเทศลาวตอนล่างเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของประเทศไทย ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง บริเวณจังหวัดมุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ยโสธร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ และสุรินทร์ รวมถึงภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดสระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด มีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในช่วงวันที่ 19 – 21 กันยายน 2556 ซึ่งนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ห่วงใยสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น จึงได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติโดยบูรณาการทุกภาคส่วนวางแผนการป้องกันภัยและปฏิบัติการเชิงรุก จัดเจ้าหน้าที่และประสานเครือข่ายเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ภัยอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดเตรียม วัสดุอุปกรณ์ เครื่องสูบน้ำให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยง เช่น ที่ลุ่มริมน้ำ ที่ลาดเชิงเขา พื้นที่จุดอ่อนเกิดน้ำท่วมขังบ่อยครั้ง เป็นต้น ได้กำชับให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ดูแลชีวิตความเป็นอยู่และความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ หากสถานการณ์ภัยรุนแรง ให้เร่งประสานการอพยพ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันที เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และให้ผู้ประสบภัยได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยได้บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วนเตรียมพร้อมรับมือผลกระทบจากพายุดีเปรสชั่นอย่างเต็มกำลัง มั่นใจ ได้ว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์มิให้รุนแรงขยายวงกว้าง สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป -กภ-