ไอบีเอ็มยกระดับเทคโนโลยีกลุ่มผลิตภัณฑ์ Systems เพื่อธุรกิจยุคใหม่พร้อมใช้ประโยชน์จากบิ๊กดาต้าและคลาวด์

10 Sep 2013

กรุงเทพฯ--10 ก.ย.--ไอบีเอ็ม

ไอบีเอ็ม ประเทศไทย เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ สำหรับการบริหารและจัดเก็บข้อมูลที่ออกแบบเป็นพิเศษ เพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ ปรับใช้ระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง และพัฒนาต่อยอดสู่การใช้งานในรูปแบบ SDE (Software Defined Environment) อีกขั้นของเทคโนโลยีระบบบริหารจัดการข้อมูลสำหรับองค์กร ตอบรับกับแนวโน้มของธุรกิจในอนาคตอันใกล้

กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการจัดเก็บข้อมูลตามแนวคิดสมาร์ทเตอร์ สตอเรจ ของไอบีเอ็ม ครอบคลุมระบบแฟลช ดิสก์ และเทป ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลสำคัญทางด้านธุรกิจ และข้อมูลเชิงลึกที่กลั่นกรองจากบิ๊กดาต้าที่เรียกว่า Insight ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมโซลูชั่น High Performance Computing ใหม่ ที่ให้ประสิทธิภาพในระดับ HPC สำหรับเซิร์ฟเวอร์ทั่วไป เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถประมวลผลจากข้อมูลปริมาณมหาศาลได้รวดเร็วขึ้น

เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เพิ่มเติมให้กับโซลูชั่นในกลุ่ม IBM PureSystems ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อเพิ่มความปลอดภัย และลดความเสี่ยงที่มักจะเกิดขึ้นในการติดตั้งโซลูชั่นคลาวด์ รวมทั้งรองรับการกู้คืนและฟื้นฟูระบบอย่างรวดเร็วหลังจากที่เกิดภัยพิบัติ โซลูชั่นโมบายล์รุ่นใหม่ที่พัฒนาบนซอฟต์แวร์ IBM Worklight ทำงานบน PureSystems สำหรับทั้งแพลตฟอร์ม Power และ x86 ถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงผู้ใช้โมบายล์หลายล้านคนได้รวดเร็วขึ้น โดยสามารถติดตั้งโมบายล์แอพพลิเคชั่นได้อย่างรวดเร็วโดยใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น

“คลาวด์คอมพิวติ้งและระบบวิเคราะห์ข้อมูลบิ๊กดาต้ามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้องค์กรต่างๆ ลดค่าใช้จ่ายลง ในขณะที่เพิ่มประสิทธิภาพและขยายขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ” โจ ชาน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจคอมพิวเตอร์ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าว “ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีดังกล่าวก็ช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกทางด้านธุรกิจ ที่เรียกกันว่า Insight ได้รวดเร็วและกว้างขวางมากขึ้น จนนำไปสู่การสร้างมาตรฐานใหม่ขององค์กรทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจ ในการเข้าถึงลูกค้า ทั้งวิธีการติดต่อสื่อสาร การรับทราบข้อมูลความคิดเห็น ตลอดจนการสนับสนุนและช่วยเหลือลูกค้า”

สมาร์ทเตอร์ สตอเรจ สู่ยุคใหม่ของระบบบริหารจัดการข้อมูล

นอกเหนือจากการแนะนำผลิตภัณฑ์ในตระกูล IBM FlashSystem แล้ว บริษัทฯ ยังได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่จากกลุ่มผลิตภัณฑ์สตอเรจ เพื่อช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลสำคัญทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขีดความสามารถด้วยไดรฟ์ 4TB สำหรับระบบสตอเรจที่ก้าวล้ำอย่าง Storwize V7000 และ XIV ซึ่งทำให้ระบบมีความจุเพิ่มขึ้น 33 เปอร์เซ็นต์ในขนาดพื้นที่เท่าเดิม และเพิ่มศักยภาพให้กับ XIV ให้ลูกค้าสามารถส่งข้อมูลจำนวนมากระหว่างระบบต่างๆ ผ่านทางระบบคลาวด์ โดยไม่บั่นทอนประสิทธิภาพการทำงาน

นอกจากนี้ ไอบีเอ็มยังได้นำเสนอเทคโนโลยี Easy Tier ใหม่ซึ่งทำหน้าที่ย้ายข้อมูลที่อยู่ในระบบสตอเรจไปยัง Storage Tier ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดโดยอัตโนมัติ จึงทำงานได้อย่างรวดเร็วและเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ ฟังก์ชั่นใหม่ Easy Tier Server ช่วยเพิ่มสมรรถนะการทำงานให้สูงขึ้น ด้วยการแคชข้อมูล “ยอดนิยม” ที่เรียกใช้บ่อยที่สุดไว้ใน EXP30 Ultra SSD I/O Drawer บนระบบ IBM Power Systems เมื่อเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ถูกใช้งานร่วมกับ IBM DS8870 Storage System ฟังก์ชั่น Easy Tier Server ก็จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้อมูลได้ถึง 5 เท่าเลยทีเดียว

เทคโนโลยีใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สตอเรจรวมถึง:

  • IBM Linear Tape File System Enterprise Edition ต่อยอดจากรุ่น LTFS Library Edition ที่แยกการใช้เทปสตอเรจออกต่างหาก เพื่อปรับปรุงการจัดการและการเข้าถึงให้ดียิ่งขึ้น ด้วยราคาคุ้มค่าและติดตั้งง่าย เหมาะสำหรับแอพพลิเคชั่น Web 2.0 โดยผนวกรวมเข้ากับระบบไฟล์ IBM GPFS และช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการจัดเก็บข้อมูลรวมถึงข้อมูลอาร์ไคว์ฟได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์
  • IBM FlashSystem series ซึ่งเป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบแฟลช ช่วยลดต้นต่อทรานซัคชั่นลงต่ำกว่า 1/10 ขณะที่ใช้พลังงานเพียง 4 เปอร์เซ็นต์ และพื้นที่เพียง 2 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับระบบไฮบริดที่ใช้ทั้งดิสก์และแฟลช

Tivoli Storage Manager Dashboard ความสะดวกใหม่ในการบริหารและปกป้องข้อมูล

Tivoli Storage Manager (TSM) Operations Center ของไอบีเอ็ม ประกอบด้วยแดชบอร์ดรูปแบบใหม่ที่ใช้งานง่าย ช่วยให้ลูกค้าจัดการข้อมูลสำรองได้มากขึ้นและสะดวกกว่าเดิม โดยจะสามารถประเมินสถานะการป้องกันข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการรวมข้อมูลหลายพันจุดไว้บนหน้าจอแดชบอร์ดที่ครบถ้วน ซอฟต์แวร์ใหม่นี้ผสานรวมระบบวิเคราะห์ข้อมูล ระบบเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติ พร้อมด้วยการแสดงผลแบบวิชวลไลซ์ที่สามารถปรับขนาดได้ พร้อมความสามารถที่ก้าวล้ำในการสำรองและกู้คืนข้อมูล รองรับการจัดการข้อมูลสำรองหลายพันชุดที่ไซต์หลายแห่ง นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานผ่านอุปกรณ์พกพาที่รองรับเบราว์เซอร์ เพื่อช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการค้นหาและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการสำรองข้อมูล ซอฟต์แวร์นี้จะแสดงปัญหาในลักษณะรวมศูนย์ ครอบคลุมเซิร์ฟเวอร์ TSM หลายเครื่อง มีการแจ้งปัญหาที่สำคัญ ช่วยลดขั้นตอนการวิเคราะห์ปัญหา ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นผลกระทบและความเสี่ยงต่อการสูญหายของข้อมูล จึงสามารถดำเนินมาตรการที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว

PureFlex, คลาวด์ และบิ๊กดาต้า

พร้อมกันนี้ ไอบีเอ็มได้แนะนำโซลูชั่นใหม่สำหรับระบบคลาวด์, โมบายล์, โซเชียล และระบบAnalytics ที่พัฒนาต่อยอดจากพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ PureSystems นับตั้งแต่ที่เปิดตัวเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว ระบบ PureSystems กว่า 4,000 เครื่องได้ถูกส่งมอบให้แก่ลูกค้า ในกว่า 90 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดสำคัญที่กำลังเติบโต รวมถึงผู้ให้บริการภายใต้การจัดการ (Managed Service Provider - MSP) ซึ่งกำลังสร้างดาต้าเซ็นเตอร์บนระบบคลาวด์โดยใช้ PureFlex เป็นหลัก

  • IBM PureFlex Solution for Cloud Backup and Recovery – โซลูชั่นใหม่นี้สามารถทำงานร่วมกับ Tivoli Storage Manager, Microsoft Hyper-V และ SAP Business Suite เพื่อช่วยป้องกันปัญหาเกี่ยวกับความเสี่ยงและความปลอดภัยของข้อมูลที่ธุรกิจมีโอกาสพบเมื่อปรับใช้โซลูชั่นคลาวด์ ทั้งนี้ ในกรณีที่เกิดภัยพิบัติ จะสามารถกู้คืนข้อมูลให้กลับสู่สภาพใช้งานได้ภายในเวลาไม่กี่นาที และแอพพลิเคชั่นส่วนใหญ่จะสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติภายในเวลาไม่กี่นาทีเช่นกัน
  • IBM Mobile Application Platform Pattern – โซลูชั่นโมบายล์จากซอฟต์แวร์ IBM Worklight บน PureSystems สำหรับแพลตฟอร์ม Power และ x86 ที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงผู้ใช้อุปกรณ์โมบายล์หลายล้านคนได้รวดเร็วขึ้น โดยจะสามารถติดตั้งโซลูชั่นโมบายล์รุ่นใหม่ได้อย่างฉับไวโดยใช้เวลาเพียงแค่ 30-40 นาทีเท่านั้น
  • IBM Connections Pattern เพื่อการติดตั้งแพลตฟอร์มโซเชียลบิสซิเนส บนระบบ IBM PureSystems สำหรับธุรกิจ-กภ-