ส่งออกเครื่องประดับ 2556 หดตัว เหตุยุโรปยังไม่ฟื้น PRANDA GROUP เดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจ รุกการค้าปลีกเพิ่ม เตรียมพร้อม 2557 รองรับตลาดสินค้าแบรนด์ สหรัฐฯ ยุโรป และ AEC

14 Mar 2014
รายงานข่าวจากกลุ่มบริษัทแพรนด้า เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 2556 ที่ผ่านมาว่า มีรายได้จากการขายจำนวน 3,648.8 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปี 2555 จำนวน 527.9 ล้านบาท หรือลดลง 12.6 % อันเป็นผลจากสภาพปัญหาทางเศรษฐกิจ ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการบริโภคของประเทศที่เป็นลูกค้าหลัก ก็คือ กลุ่มประเทศยุโรป เช่น เยอรมนี สหราชอาณาจักร รวมถึงอิตาลี ที่มิได้ฟื้นตัว และมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นตามที่คาดหมายไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปี ประกอบกับด้านราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวลงในช่วงปีที่ผ่านมา โดยราคาทองคำได้ลดลง 15 % และเนื้อเงินลดลง 23 % ส่งผลต่อมูลค่าผลิตภัณฑ์เครื่องประดับ และรายได้จากการขายอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนปัจจัยบวกต่อธุรกิจของปีที่ผ่านมา ได้แก่ การฟื้นตัวของสหรัฐอเมริกาที่ทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น และการค้าปลีกสินค้าแบรนด์ของบริษัทฯ ในตลาดเวียดนาม และอินโดนีเซีย ซึ่งมีอัตราการเติบโตที่ดี

กลุ่มบริษัทแพรนด้าไม่ประสบความสำเร็จในการทำยอดขายเท่าที่ควรในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปัญหาเดียวกันกับที่กลุ่มอุตสาหกรรมการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยประสบอยู่ จนทำให้ภาพรวมการส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ของไทยหดตัวลงถึง 23 % เหล่านี้นับเป็นภาวะที่ไม่ปกติ และเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในระยะสั้น ซึ่งทางบริษัทฯ คาดหมายว่าสถานการณ์จะคืนสู่ภาวะปกติในปี 2557 นี้

ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ ได้เดินหน้าที่จะเพิ่มความแข็งแกร่ง และขีดความสามารถในระยะยาวของกิจการ โดยช่วงครึ่งปีหลังของ 2556 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างธุรกิจ โดย 1) เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท Pranda & Kroll GmbH & Co. KG จาก 51% เป็น 75% ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารงาน และขยายตลาดแบรนด์

สินค้า 2 ) การปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท Pranda SCL Indonesia ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องประดับ จากการถือครอง 50 % เหลือ 19 % ทั้งนี้เพื่อทางกลุ่มบริษัทแพรนด้าจะมุ่งเน้นธุรกิจการค้าปลีกในอินโดนีเซีย ที่สอดรับกับแผนการขยายธุรกิจใน AEC ของบริษัท และ 3 ) การหยุดกิจการของบริษัท Pranda Guangzhou Co., Ltd ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องประดับในประเทศจีน เนื่องจากสถานการณ์แข่งขันที่รุนแรง และประสบปัญหาขาดทุน

สำหรับปี 2556 ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทแพรนด้ามีโครงสร้างรายได้ ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจการผลิต : ซึ่งมีสัดส่วน 45% ของรายได้จากการขาย ลดลง 24 % จากปีที่ผ่านมา เนื่องจากยอดขายในประเทศและต่างประเทศลดลงจากกำลังซื้อที่หดตัวลงจากสภาพเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งราคาทองคำ ราคาเนื้อเงินลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

กลุ่มธุรกิจการจัดจำหน่าย : มีสัดส่วน 33 % ของรายได้จากการขาย ได้ปรับลดลง 4 % จากปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เกิดจากยอดขายในยุโรปจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงตกต่ำต่อเนื่อง

และ กลุ่มธุรกิจการค้าปลีก : มีสัดส่วน 22 % ของรายได้จากการขายโดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 5 % จากปีที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นจากยอดขายในประเทศอินโดนีเชีย และในประเทศเวียดนาม ตามนโยบายการขยายตลาดแบรนด์ของตนเองในกลุ่ม AEC

โดยเป้าหมายในปี 2557 นี้กลุ่มบริษัทแพรนด้าได้เตรียมความพร้อมทางธุรกิจที่จะรองรับการขยายตลาดสหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศยุโรปที่คาดว่าเศรษฐกิจจะกลับสู่ภาวะปกติ รวมไปถึงการขยายตลาดค้าปลีกสินค้าแบรนด์ในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ที่มีโอกาส ทั้งในอินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย จากปัจจัยเหล่านี้ ทางกลุ่มบริษัทแพรนด้าจึงคาดว่าจะสามารถทำยอดขายในปี 2557 กลับมาเติบโตปกติโดยประมาณ 10 % หรือเป็นจำนวน 4,000 ล้านบาท ในระยะยาวแล้ว บริษัทฯ ยังคงเชื่อมั่นในขีดความสามารถของการแข่งขันระดับประเทศ การพัฒนาฝีมือด้านการผลิต ตลอดจนปัจจัยสนับสนุนด้านต่างๆ และด้วยการมีฐานการผลิต (Production Operation) ที่หลากหลายของ

บริษัทฯ ในการผลิตสินค้าเครื่องประดับทองและเงิน และมีความยืดหยุ่นที่จะรองรับการคำสั่งซื้อที่หลากหลายของลูกค้าได้ อีกทั้งยังมีศูนย์ออกแบบและพัฒนาสินค้าของตนเอง (Design & Product Development Center) เพื่อลดระยะเวลาในการผลิตสินค้าและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งบริษัทฯยังมีฐานการจัดจำหน่าย (Distribution Operation) ของตนเองที่ต่างประเทศ ทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย ซึ่งสามารถเปิดตลาดใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีฐานการค้าปลีก (Retail Operation) โดยใช้แบรนด์ของตนเองเพื่อกระจายความเสี่ยงทางด้านตลาดและมองหาตลาดที่ศักยภาพในการเติบโตในอนาคต