นายณรงค์ เจียมใจบรรจง รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตอาหารปลอดภัย (food safety) ตลอดทั้งห่วงโซ่อาหาร (Supply Chain) ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจในคุณภาพของอาหารที่ต้องทั้งอร่อย สะอาด และปลอดภัยกับการบริโภค บริษัทจึงมุ่งมั่นพัฒนากระบวนการผลิตอาหารของบริษัท โดยเฉพาะการถ่ายทอดเทคโนโลยีและมาตรฐานการผลิตเดียวกันกับบริษัทฯ ไปสู่เกษตรกรในโครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงสัตว์กับซีพีเอฟ หรือคอนแทรคฟาร์ม ที่ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการผลิตสัตว์ที่เป็นวัตถุดิบตั้งต้นของการผลิตอาหารปลอดภัย
นายณรงค์ กล่าวอีกว่า ซีพีเอฟทำหน้าที่สร้างเครือข่ายส่งเสริมเกษตรกร ช่วยสร้างอาชีพที่ยั่งยืน และการมีรายได้ที่มั่นคง เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทย ขณะที่ระบบคอนแทรคฟาร์มยังช่วยลดปัญหาความเสี่ยงของราคาผลิตผลการเกษตรที่มีความผันผวนสูง โดยมีบริษัทเป็นผู้รับความเสี่ยงแทนเกษตรกร ทั้งนี้ ในกระบวนการผลิตของเกษตรกรจะอยู่ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน เนื่องจากเนื้อสัตว์ที่ผลิตได้ต้องสามารถควบคุมมาตราฐานจนถึงมือผู้บริโภค
“โมเดลคอนแทรคฟาร์ม ในแบบฉบับของซีพีเอฟคือการมุ่งถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการผลิตอาหารปลอดภัยที่เป็นพื้นฐานสำคัญของบริษัทสู่เกษตรกร เพื่อร่วมกันผลิตและพัฒนาสินค้าตามมาตรฐานสากล โดยเฉพาะด้านคุณภาพและความปลอดภัย ที่จะต้องใส่ใจและให้ความสำคัญในการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต เพื่อให้มั่นใจว่าตลอดสายการผลิตสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ นับเป็นหัวใจหลักสู่ความสำเร็จและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั้งในปัจจุบันและอนาคต” นายณรงค์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทได้วางแผนการผลิตและจัดพื้นที่การผลิต (Zoning) อย่างเหมาะสม พร้อมทั้งผลักดันให้เกิดการรวมกลุ่มของเกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอาชีพอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยมีการจัดประชุมประจำเดือน เพื่อติดตามประสิทธิภาพการผลิต แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน ตลอดจนให้ข้อมูลที่น่าสนใจ ทั้งการเลี้ยงสัตว์ เทคโนโลยี วิชาการใหม่ๆ โดยในบางพื้นที่มีการจัดตั้งเป็นชมรมเกษตรกรคอนแทรคฟาร์มซีพีเอฟ ตลอดจนคัดเลือกฟาร์มของเกษตรกรที่มีการจัดการมาตรฐานและประสิทธิภาพการผลิตดีเด่น ให้เป็น “ศูนย์เรียนรู้การเลี้ยงสัตว์” เพื่อถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์แก่เพื่อนเกษตรกร นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาดูงานความสำเร็จของเพื่อนเกษตรกรในพื่นที่อื่น เพื่อนำความรู้มาประยุกต์ใช้กับฟาร์มของตนเอง
“สิ่งที่สำคัญ เกษตรกรไทยต้องมีการปรับตัวเองให้มีความสนใจหาความรู้ เทคโนโลยีใหม่ๆ และนวัตกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้แข่งขัน สร้างความยั่งยืน และส่งผลให้ภาคการเกษตรของไทยมีความแข็งแกร่งมากขึ้น เพราะเป็นเรื่องที่จำเป็นมากในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน หากเกษตรกรไม่แข่งขันและปรับตัวจะอยู่รอดได้ลำบาก” นายณรงค์ กล่าว
นายณรงค์ บอกอีกว่า ที่ผ่านมายังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในระบบคอนแทรคฟาร์ม ซึ่งถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดสามารถตรวจสอบตัวเลขจำนวนเกษตรกรทั้งประเทศที่อยู่ในระบบนี้ได้อย่างชัดเจน มีเพียงการคาดการณ์เกษตรกรคอนแทรคฟาร์มทั้งการเพาะปลูกพืชและปศุสัตว์ที่ประมาณ 1.5 -2 แสนราย แบ่งเป็นคอนแทรคฟาร์มภาคปศุสัตว์ประมาณ 50,000 รายเท่านั้น
“ปัจจุบันเกษตรกรที่ร่วมโครงการกับซีพีเอฟมากกว่า 99% ประสบความสำเร็จและมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่การที่สังคมมีความเข้าใจเกี่ยวกับระบบคอนแทร็คฟาร์มมิ่งคลาดเคลื่อนไปในเชิงลบ น่าจะเกิดจากที่ผ่านมาในการสำรวจหรือทำการวิจัยของหน่วยงานต่างๆเกี่ยวกับระบบนี้ ในพื้นที่ที่มีการทำวิจัยนั้นมีเกษตรกรของซีพีเอฟในจำนวนน้อย จึงไม่มีโอกาสได้ถ่ายทอดความสำเร็จผ่านงานวิจัยต่างๆ” นายณรงค์ กล่าว
ทั้งนี้ โครงการคอนแทรคฟาร์มของซีพีเอฟ มีเกษตรกร 67.40 % ที่ปราศจากหนี้สิน ส่วนเกษตรกร 30.66 % ยังอยู่ในระยะเวลาการคืนเงินกู้ให้กับสถาบันการเงิน (ประมาณ 7-8 ปี ) และมีเพียง 1.83 % ที่มีหนี้สินเกินระยะเวลาการคืนเงินกู้กับสถาบันการเงิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องสุดวิสัย เช่น มีคนในครอบครัวเจ็บป่วยต้องใช้เงินเร่งด่วน อย่างไรก็ตามยังมีเกษตรกร 0.12% ที่มีปัญหากับบริษัทฯ จำเป็นต้องยุติการทำธุรกิจร่วมกัน ซึ่งกรณีนี้เกิดจากเกษตรกรไม่ได้ดูแลฟาร์มเอง เกิดการเสียหายสูง หรือลักขโมย เป็นต้น
                            
                            CPF ส่งผลิตภัณฑ์กลุ่มไข่ไก่สด ไข่ต้ม ไข่สมุนไพร และอาหารพร้อมทาน รับฉลากสิ่งแวดล้อม
                        
                            CPF รับรางวัล PM's Export Award 2025 ผู้ส่งออกยอดเยี่ยมด้านความยั่งยืน
                        
                            เคียงข้างสังคมไทย! CPF ชวนคนไทย ร่วมฟื้นฟูโรงพยาบาลชายแดน "ทุกการซื้อ คือพลังแห่งการให้"
                        
                            ซีพีเอฟจับมือคู่ค้าร่วมขับเคลื่อนสู่ "ธุรกิจคาร์บอนต่ำ" เสริมศักยภาพแข่งขันด้วยสินค้ารักษ์โลก
                        
                            กำไรซีพีเอฟครึ่งปีแรกดีกว่าคาด เพิ่มขึ้น 134% มั่นใจครึ่งหลังยังดีต่อเนื่อง กิจการในต่างประเทศหนุนการเติบโต จ่ายปันผลครึ่งแรกปีนี้ 1 บาทต่อหุ้น
                        
                            กรุงเทพโปรดิ๊วส เปิดรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั่วประเทศ เกษตรกรมั่นใจ ผลผลิตไม่บุกรุกป่าและปลอดเผาแปลง มีตลาดรองรับแน่นอน
                        
                            เอกชนชื่นชมท่านพิชัยและทีมไทยแลนด์ เจรจาภาษีทรัมป์ เพื่อรักษาประโยชน์และเสริมศักยภาพของประเทศไทย
                        
                            ซีพีเอฟ นำ Sustainovation ขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่ออาหารแห่งอนาคต ตอกย้ำเป็น "ครัวของโลก"
                        
                            CPF หนุน SME ไทย ก้าวสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ เพิ่มศักยภาพแข่งขันในตลาดโลก