แกล็กโซสมิทไคล์น เดินหน้าขยายฐานกลุ่มยาบรรเทาปวดลดไข้ เปิดตัวยาน้ำสำหรับเด็ก “พานาดอล” ดันแบรนด์สู่ผู้บริโภคเมืองไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          แกล็กโสมิทไคล์น ยักษ์ใหญ่ธุรกิจยาระดับโลก ทุ่มงบบูมตลาดยาบรรเทาปวดลดไข้ในเมืองไทย ส่ง“พานาดอล” รุกตลาดเปิดฉากปี 57 นำร่องกลุ่มยาสำหรับเด็ก ก่อนขยายสู่ทุกกลุ่ม พร้อมดึงคู่ แม่ลูก “แบม จณิสตา กับ น้องเวนิส จรูญสมิทธิ์” เป็นพรีเซ็นเตอร์ไทยคนแรก หลังมองเห็นโอกาสการเติบโตของตลาดกลุ่มดังกล่าว

          นางสาวจรินี วงศ์กำทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์พานาดอล เป็นแบรนด์ยาบรรเทาปวดลดไข้ ภายใต้การผลิตและจัดจำหน่ายของแกล็กโซสมิทไคล์น ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านยาบรรเทาปวดลดไข้ทุกประเภท ทั้งสำหรับเด็ก และสำหรับผู้ใหญ่ รวมทั้งแผ่นเจลบรรเทาไข้ ยาบรรเทาปวดกล้ามเนื้อ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกมากมาย ที่ได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากผู้บริโภคกว่า 100 ประเทศ ทั่วโลก จนสามารถครองยอดขายอันดับหนึ่ง ทั้งประเทศในทวีปยุโรป ออสเตรเลีย และเอเชีย

          ปัจจุบัน ในเมืองไทย มีผลิตภัณฑ์ยาบรรเทาปวด ลดไข้ พานาดอล วางจำหน่ายครอบคลุมทุกกลุ่มอายุ ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ โดยในปี 2557 ทางบริษัทแกล็กโซสมิทไคล์น ได้เริ่มเปิดตัว และทำการตลาดอย่างจริงจัง ในกลุ่มยาสำหรับเด็กก่อนเป็นลำดับแรก ได้แก่ ยาน้ำบรรเทาปวดลดไข้พานาดอล รสสตรอเบอร์รี่ สำหรับเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 6 ปี และยาน้ำบรรเทาปวดลดไข้พานาดอล รสส้ม สำหรับเด็กอายุ 6 ถึง 12 ปี ทั้ง 2 ตัว เป็นประเภทยาน้ำแขวนตะกอน จึงสามารถกลบรสขมของตัวยาพาราเซตามอลได้ดีกว่า ยาน้ำประเภทน้ำเชื่อม รสชาติหอมหวาน รับประทานง่าย ช่วยลดปัญหาเรื่องเด็กกินยายาก ตัวยายังปราศจากแอสไพริน และแอลกอฮอล์ จึงไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร เพื่อประสิทธิภาพในการลดไข้ให้เร็วยิ่งขึ้น ควรใช้ร่วมกันกับ แผ่นเจลบรรเทาไข้ “พานาคูล” ที่ผลิตโดยเทคโนโลยีไฮโดรเจล พร้อมด้วยเมนทอลธรรมชาติ ให้ความเย็นเร็ว อ่อนโยนต่อผิว ปลอดภัย ติดแน่น แผ่นยาว บรรเทาอาการไข้ ไม่เลื่อนหลุด

          นอกจากนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ พานาดอล ยังมีแผนการจะแนะนำสินค้านวัตกรรมใหม่ ๆ สู่ผู้บริโภคชาวไทยอย่างต่อเนื่อง นางสาวจรินีกล่าวถึงภาพรวมของตลาดยาบรรเทาปวดลดไข้ในเมืองไทยว่า

          “ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มยาแก้ปวดของไทยในปัจจุบัน มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 4,500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยาแก้ปวดที่ใช้รับประทาน มีมูลค่า 2,800 ล้านบาท และยาแก้ปวดที่ใช้ทาภายนอก มีมูลค่า 1,700 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราส่วนประมาณร้อยละ 60 ต่อ 40 โดยกลุ่มยาแก้ปวดลดไข้ที่ใช้รับประทาน ยังแบ่งออกเป็น ยาสำหรับผู้ใหญ่ และสำหรับเด็ก โดยยาบรรเทาปวดลดไข้สำหรับผู้ใหญ่มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 2,300 ล้านบาท และสำหรับเด็ก มีมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท หรือประมาณ 20% สภาพตลาดโดยรวมถือว่ามีอัตราการเจริญเติบโตระดับปานกลางอยู่ที่ประมาณ 7%”

          “พานาดอลเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง และขายดีมากในต่างประเทศ เพราะเราให้ความใส่ใจกับการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ออกมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ เล็งเห็นว่าควรนำผลิตภัณฑ์พานาดอลเข้ามาให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ใช้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก โดยเริ่มจากการเปิดตัวยาบรรเทาปวด ลดไข้ สำหรับเด็ก ซึ่งจะทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างครบวงจรในปีนี้ และคาดว่าน่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทยเป็นอย่างดี เช่นเดียวกับที่ได้รับความไว้วางใจในต่างประเทศ โดยอาศัยกลยุทธ์การทำตลาดแบบ 360 องศา มีทั้งสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อดิจิตอล สื่อ ณ จุดขาย และยังได้จัดทำคู่มือการดูแลเด็ก เมื่อเป็นไข้ตัวร้อน แจกให้กับผู้บริโภค เพื่อเจาะเข้าสู่กลุ่มเป้าหมายโดยตรง พร้อมทั้งสร้างความแข็งแกร่งผ่านช่องทางโรงพยาบาล ซึ่งเราวางงบประมาณการตลาดไว้ 50 ล้านบาท คาดว่าภายในสิ้นปี 2557 พานาดอลจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 10% ในตลาดยาบรรเทาปวด ลดไข้ สำหรับเด็ก” นางสาวจรินีกล่าวสรุป

          ภายในงาน นอกจากเปิดตัวผลิตภัณฑ์พานาดอลแล้ว ยังถือโอกาสเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนไทยคนแรก “แบม - จณิสตา จรูญสมิทธิ์” กับลูกสาว “น้องงเวนิส-วณิสตา” โดยภาพยนตร์โฆษณาชุด “Working Mom” มีเนื้อหาแนวคิดเกี่ยวกับคุณแม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน พร้อมกับดูแลลูกในเวลาเดียวกัน และตั้งใจทำทั้งสองหน้าที่อย่างดีที่สุด แต่ทุกครั้งที่ลูกป่วย ก็จะเกิดความกังวล แต่ตอนนี้รู้สึกอุ่นใจขึ้น เมื่อมีพานาดอล แบรนด์ที่คุณแม่ในหลายประเทศทั่วโลกไว้วางใจ เป็นผู้ช่วยในการดูแลลูกเบื้องต้น

ข่าวแกล็กโซสมิทไคล์น+ยาน้ำสำหรับเด็กวันนี้

รามาฯ จับมือ GSK และพันธมิตร ปั้นโมเดลสุขภาพเน้นคุณค่า สู้โรคหืด-ปอดอุดกั้นฯ ตั้งเป้าลดภาระค่าใช้จ่าย เพิ่มคุณภาพชีวิตคนไทย

การเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลของผู้ป่วยโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และภาวะวิกฤตทางการเงินของครอบครัวของผู้ป่วยจากค่าใช้จ่ายที่สูงในการรักษา ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนานวัตกรรมเชิงนโยบายเพื่อสร้างระบบการบริบาลสุขภาพแบบครบวงจรสำหรับโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาที่มีประสิทธิผล โดยใช้ต้นทุนที่เหมาะสมและยั่งยืนภายใต้บริบทของระบบสุขภาพไทย คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และ บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด

GSK บริษัทด้านชีวเภสัช (Biopharma) ระดับโ... GSK แต่งตั้ง "มาเรีย คริสติช" กรรมการผู้จัดการ ประจำประเทศไทย — GSK บริษัทด้านชีวเภสัช (Biopharma) ระดับโลก ประกาศแต่งตั้ง "มาเรีย คริสติช" Vaccine Market...

GSK ผู้นำด้านชีวเภสัช หรือ Biopharma รับร... GSK รับรางวัล AMCHAM Corporate Social Impact Award 2023 ต่อเนื่องสู่ปีที่ 14 — GSK ผู้นำด้านชีวเภสัช หรือ Biopharma รับรางวัล AMCHAM Corporate Social Impa...

คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิ... คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ร่วมกับ GSK และพันธมิตร ชวนคนไทย 50+ ดูแลสูงวัยอย่างไรไม่ว้าวุ่น — คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ บริษัท แ...