นางเบญจา หลุยเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง
ร่วมการประชุมหารือร่วมกับนายสุทธิชัย สังขมณี อธิบดีกรมสรรพากร นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต และนายราฆพ ศรีศุภอรรถ อธิบดีกรมศุลกากร เกี่ยวกับผลการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล โดยจากการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้รัฐบาล ซึ่งกรมศุลกากรได้รับผลกระทบแนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ส่งผลต่อการจัดเก็บรายได้ ในไตรมาส 1 ของปีนี้ ภาษีนำเข้าติดลบร้อยละ 5 จากที่คาดไว้ว่าจะมีการขยายตัวร้อยละ 14.7 ทำให้การจัดเก็บต่ำกว่าเป้า 6,000 ล้านบาท ด้านกรมสรรพาสามิต ก็มีแนวโน้มจัดเก็บที่ลดลงกว่าประมาณการ 4,000 ล้านบาท และหากสถานการณ์การเมืองยังยืดเยื้อ ก็อาจทำให้ภาษีสรรพสามิตจัดเก็บได้ลดลง จาก 4.6 แสนล้านบาท เหลือ 4.1 แสนล้านบาท มีเพียงกรมสรรพากร ที่จัดเก็บได้เกินเป้าที่ 9,800 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์การเมืองหลังวันที่ 13 มกราคมนี้ จบลงโดยเร็ว แนวโน้มการจัดเก็บรายได้ก็น่าจะกลับสู่ภาวะปกติได้ ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 1 กระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2557
ร่วมการประชุมหารือร่วมกับนายสุทธิชัย สังขมณี อธิบดีกรมสรรพากร นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต และนายราฆพ ศรีศุภอรรถ อธิบดีกรมศุลกากร เกี่ยวกับผลการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล โดยจากการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้รัฐบาล ซึ่งกรมศุลกากรได้รับผลกระทบแนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ส่งผลต่อการจัดเก็บรายได้ ในไตรมาส 1 ของปีนี้ ภาษีนำเข้าติดลบร้อยละ 5 จากที่คาดไว้ว่าจะมีการขยายตัวร้อยละ 14.7 ทำให้การจัดเก็บต่ำกว่าเป้า 6,000 ล้านบาท ด้านกรมสรรพาสามิต ก็มีแนวโน้มจัดเก็บที่ลดลงกว่าประมาณการ 4,000 ล้านบาท และหากสถานการณ์การเมืองยังยืดเยื้อ ก็อาจทำให้ภาษีสรรพสามิตจัดเก็บได้ลดลง จาก 4.6 แสนล้านบาท เหลือ 4.1 แสนล้านบาท มีเพียงกรมสรรพากร ที่จัดเก็บได้เกินเป้าที่ 9,800 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์การเมืองหลังวันที่ 13 มกราคมนี้ จบลงโดยเร็ว แนวโน้มการจัดเก็บรายได้ก็น่าจะกลับสู่ภาวะปกติได้ ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 1 กระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2557