คณะกรรมการบริหารของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของสหรัฐ (เอ็กซิมแบงก์) (Import-Export Bank of the United States: Ex-Im Bank) ประกาศใช้แนวทางและขั้นตอนการกำกับดูแลโครงการที่ปลดปล่อยคาร์บอนสูงที่ผ่านการปรับทบทวนใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการลดมลภาวะจากคาร์บอนของประธานาธิบดีโอบามา ในขณะที่ยังคงเดินหน้าทำตามวัตถุประสงค์ของธนาคารในเรื่องการส่งเสริมและสร้างตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกให้กับชาวอเมริกัน
(โลโก้: http://photos.prnewswire.com/prnh/20110414/MM83673LOGO)
“ไม่มีองค์กรใดของสหรัฐที่ให้การสนับสนุนในด้านการส่งออกและการสร้างและรักษาตำแหน่งงานให้กับชาวอเมริกันโดยภาคการส่งออกได้มากไปกว่าเอ็กซิมแบงก์และคณะกรรมการของธนาคารแห่งนี้ นับตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา เราได้สนับสนุนตำแหน่งงานเกือบ 1.2 ล้านตำแหน่ง” เฟรด พี. ฮ็อคเบิร์ก ประธานกรรมการบริหารและประธานเอ็กซิมแบงก์กล่าว “แต่อย่างไรก็ดี เราไม่สามารถดำเนินการในเรื่องได้โดยไม่คำนึงถึงต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม”
แนวทางปฏิบัติที่ปรับทบทวนใหม่และได้นำมาใช้ในวันนี้กำหนดว่า โครงการโรงผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินจะต้องมีการดักจับและกักเก็บคาร์บอนในประเทศส่วนใหญ่ เพื่อให้มีคุณสมบัติในการรับอนุมัติเงินกู้จากธนาคาร แต่ก็เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับธนาคาร โดยพิจารณาตามความต้องการพลังงานในกลุ่มประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก”
นโยบายที่ปรับทบทวนใหม่ร่างโดยพนักงานของเอ็กซิมแบงก์และได้รับการทบทวนในเชิงกว้างโดยผู้ส่งออก สาธารณะชน องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมชั้นนำ ฝ่ายบริหาร และหน่วยงานอื่นๆของรัฐบาลผ่านทางกระบวนการตรวจสอบอย่างกว้างขวางและโปร่งใส
“ธนาคารให้ความสำคัญกับความสมดุลในการดำเนินงาน ในการส่งเสริมการส่งออก เราจำเป็นต้องคำนึงถึงผลกระทบที่เป็นไปได้ต่อสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากเงินกู้ยืมจากเรา” ฮ็อคเบิร์กกล่าว “การดำเนินงานที่สมดุลเช่นนี้เป็นข้อบังคับของรัฐสภา เป็นข้อบังคับภายใต้กฎหมายของเรา เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจของเรา และเป็นสิ่งที่เราซึ่งเป็นธนาคารได้ดำเนินการอย่างจริงจัง”
ฮ็อคเบิร์กได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ข้อเสนอแนวทางของเราจะสร้างสมดุลในเรื่องข้อผูกพันของธนาคารและผู้ถือหุ้นที่หลากหลาย ตลอดจนความพยายามด้านการส่งเสริมการเพิ่มตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกของสหรัฐ”
“หากไม่มีการกำหนดแนวทางหรือข้อจำกัด โรงผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทั่วโลกก็จะยิ่งเพิ่มการปลดปล่อยมลภาวะคาร์บอนออกมาสู่อากาศที่เราหายใจมากขึ้น” ฮ็อคเบิร์กกล่าว “แต่อเมริกาไม่สามารถดำเนินการในเรื่องนี้ได้เพียงลำพัง ผมสนับสนุนความพยายามของฝ่ายบริหารอย่างเต็มที่เพื่อให้มีการสำรวจในระดับนานาชาติ เช่น ประเทศอื่นๆที่ดำเนินการตามแบบเราในเรื่องการจำกัดการให้เงินทุนแก่โรงผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินที่ก่อสร้างใหม่”
เอ็กซิมแบงก์เป็นผู้นำในบรรดาหน่วยงานด้านสินเชื่อเพื่อการส่งออกทั่วโลก (ECA) ที่ประกาศใช้มาตรการปกป้องสิ่งแวดล้อมในขณะที่ให้เงินทุนเพื่อการส่งออก
- ในปี 2538 ธนาคารเป็นสมาชิก ECA รายแรกที่นำกระบวนการเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและแนวทางมาใช้ในการบริหารการอนุมัติสินเชื่อเพื่อการส่งออก
- ในปี 2542 ธนาคารได้เริ่มติดตามและเปิดเผยรายงานการคาดการณ์เกี่ยวกับการปลดปล่อยคาร์บอนโดยโครงการที่ธนาคารอนุมัติสินเชื่อ และจนกระทั่งปัจจุบัน ในบรรดาสมาชิก ECA มีเพียงธนาคารแห่งเดียวที่ติดตามและรายงานการปลดปล่อยคาร์บอน
- ในปี 2552 ธนาคารได้อนุมัตินโยบายคาร์บอนอย่างเป็นทางการ และในปี 2553 ธนาคารได้อนุมัติแนวทางพิเศษสำหรับโครงการที่ปลดปล่อยคาร์บอนสูง
แนวทางที่ปรับทบทวนใหม่ซึ่งได้รับอนุมัตินั้น ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้เกิดผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหมืองแร่หรือการส่งออกถ่านหินที่ผลิตโดยบริษัทเหมืองถ่านหินของสหรัฐ พนักงานของเอ็กซิมแบงก์ได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆเพื่อรับประกันเรื่องความยืดหยุ่นของแนวทางต่างๆให้มีความสอดคล้องกับกฎระเบียบของหน่วยงานอื่นๆของรัฐบาล
นอกเหนือจากการอนุมัติการปรับทบทวนแนวทางด้านสิ่งแวดล้อมของธนาคารแล้ว วันนี้คณะกรรมการบริหารยังได้อนุมัติธุรกรรมหลายอย่างเพื่อการส่งเสริมการสร้างตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกของสหรัฐกว่า 11,200 ตำแหน่ง
เกี่ยวกับเอ็กซิมแบงก์
เอ็กซิมแบงก์เป็นหน่วยงานอิสระของรัฐบาลที่ช่วยสร้างและรักษาตำแหน่งงานของสหรัฐด้วยการลดช่องว่างของการให้สินเชื่อแก่ผู้ส่งออกเอกชนโดยไม่ใช้เงินภาษีของชาวอเมริกัน ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (จากปีงบประมาณ 2551) เอ็กซิมแบงก์สร้างรายได้หลังหักต้นทุนการดำเนินงานให้แก่ผู้เสียภาษีของสหรัฐเกือบ 1.6 พันล้านดอลลาร์ ธนาคารได้กำหนดกลไกทางการเงินที่หลากหลาย ซึ่งรวมไปถึงการรับประกันทุนดำเนินงาน การค้ำประกันสินเชื่อเพื่อการส่งออกเพื่อช่วยให้ผู้ซื้อจากต่างประเทศสามารถซื้อสินค้าและบริการของสหรัฐได้
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK และองค์กรเจรจาระหว่างประเทศว่าด้วยปาล์มน้ำมันยั่งยืน (Roundtable on Sustainable Palm Oil : RSPO) ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อสนับสนุนความยั่งยืนในภาคธุรกิจปาล์มน้ำมันของไทย พร้อมทั้งสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยยกระดับการดำเนินธุรกิจสู่มาตรฐานสากลและแข่งขันได้อย่างยั่งยืนในตลาดโลก โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน
EXIM BANK จัดเต็ม โปรโมชันดี ๆ ช่วยผู้ส่งออกฝ่ามรสุมทรัมป์ 2.0
—
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) จัดเต็ม บริการทางการเงิน พร้อมโปรโ...
EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs รับมือนโยบายภาษีแบบตอบโต้ของสหรัฐฯ
—
นายบัณฑิต สะเพียรชั...
KBank - EXIM BANK ร่วมปล่อยกู้สินเชื่อสีเขียว (Green Loan) รี เอนเนอร์ยี สร้างโรงไฟฟ้าโซลาร์แบบทุ่นลอยน้ำ 21.49 เมกะวัตต์ เดินหน้าสร้างสังคมยั่งยืน
—
นายจักรพงศ์...
EXIM BANK จับมือสำนักงาน ป.ป.ช. และ CAC เปิดตัวนวัตกรรมทางการเงินด้านธรรมาภิบาลครั้งแรกของโลก
—
EXIM BANK จับมือสำนักงาน ป.ป.ช. และ CAC เปิดตัวนวัตกรรมทาง...
EXIM BANK ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ SMEs ปิดหนี้ได้ไว ไปต่อได้เร็ว
—
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EX...
EXIM BANK ออกมาตรการของขวัญพิเศษปีใหม่ 2568 สร้าง "ชีวิตดี มีความสุข ดีต่อใจ" ผู้ประกอบการไทยในเวทีการค้าโลก
—
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคา...
"เอกนัฏ" เสริมแกร่งอุตสาหกรรมฮาลาล ผสาน "8 หน่วยงาน 22 สินเชื่อ" ดันผู้ประกอบการไทยสู่การส่งออก
—
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สั...
EXIM BANK จัดงาน EXIM: Excellence in Trust for Sustainability ตอกย้ำความมุ่งมั่นในแนวคิด ESG สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
—
นางสาวรุจิกร แสงจันทร์ ประธานกรรมกา...
"เอกนัฏ" เสริมแกร่งอุตสาหกรรมฮาลาล ผสาน "8 หน่วยงาน 22 สินเชื่อ" ดันผู้ประกอบการไทยสู่การส่งออก
—
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สั...