ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ แชมป์เศรษฐีหุ้นไทย 2556 รวย 3.7 หมื่นล้าน จิราธิวัฒน์ แชมป์ใหม่ตระกูลเศรษฐีหุ้น

12 Dec 2013
เปิดทำเนียบใหม่เศรษฐีหุ้นไทย 2556 “หมอเสริฐ” น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ แห่งโรงพยาบาลกรุงเทพ ขึ้นแท่นแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยเป็นปีแรก โชว์ความมั่งคั่ง 3.7 หมื่นล้าน เสี่ยใหญ่ คีรี กาญจนพาสน์ บิ๊กบีทีเอส ติดอันดับ 2 รวย 3.4 หมื่นล้าน เสี่ยหนุ่ม พิชญ์ โพธารามิก กอดหุ้นโมโน-จัสมิน ก้าวกระโดดนั่งอันดับ 3 รวย 2.6 หมื่นล้าน ตระกูลจิราธิวัฒน์ คว้าแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นแซงตระกูลมาลีนนท์ มั่งคั่ง 6.7 หมื่นล้าน

การจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย ซึ่ง วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดทำขึ้นอย่างต่อเนื่อง มาในปีนี้นับเป็นปีที่ 20 แล้ว

ภาพรวมของเศรษฐีหุ้นไทยในปี 2556 ซึ่งวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศที่ถือหุ้นสัดส่วน 0.5% ขึ้นไป ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อนวันที่ 30 กันยายน 2556 จำนวน 5,993 ราย มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวมทั้งสิ้น 1,259,662 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2555 รวม 207,834 ล้านบาท หรือ 19.76%

สำหรับผลการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยใน วารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนธันวาคม 2556 ปรากฏว่า ตำแหน่งแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยประจำปี 2556 ได้แก่ น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือ หมอเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ เจ้าของเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ เข้ามาเป็นแชมป์เศรษฐีหุ้นคนใหม่ โดยถือครองหุ้นสูงสุดเป็นอันดับ 1 รวมมูลค่า 36,596.20 ล้านบาท รวยขึ้น 15,472.72 ล้านบาท หรือ 73.25%

โดยหุ้นที่ถือครอง ประกอบด้วย หุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BGH) หรือโรงพยาบาลกรุงเทพ ที่หมอเสริฐถือหุ้นสูงสุดเป็นอันดับ 1 มูลค่า 36,565.38 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นทั้งจากสัดส่วนการถือหุ้นที่มากขึ้น และราคาหุ้น BGH ที่ปรับตัวสูงขึ้นด้วย โดยในปีที่ผ่านมาหมอเสริฐได้ถือหุ้น BGH เพิ่มขึ้นอีก 6.08% เป็น 18.78% ขณะที่ราคาหุ้น BGH ก็ปรับสูงขึ้นจาก 107.50 บาท เป็น 126 บาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 เพิ่มขึ้น 18.50 บาท หรือ 17.29% นอกจากนี้ยังถือครองหุ้น บมจ.โรงพยาบาลนนทเวช (NTV) ในสัดส่วน 0.79% มูลค่า 30.82 ล้านบาท

เส้นทางการก้าวเข้าสู่ทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทยของ หมอเสริฐ เริ่มต้นมานานหลายสิบปีแล้ว แต่ความมั่งคั่งมูลค่าระดับพันล้านเริ่มเมื่อปี 2547 โดยเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 26 ถือครองหุ้นมูลค่า 1,560.42 ล้านบาท หลังจากนั้นความมั่งคั่งก็เพิ่มสูงขึ้นเป็นลำดับ โดยในปี 2548 เป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 23 มูลค่า 1,957.67 ล้านบาท ปี 2549 อันดับ 6 มูลค่า 4,189.17 ล้านบาท ปี 2550 อันดับ 4 มูลค่า 6,278.99 ล้านบาท ปี 2551 อันดับ 3 มูลค่า 5,111.20 ล้านบาท ปี 2552 อันดับ 8 มูลค่า 4,240.75 ล้านบาท ปี 2553 อันดับ 11 มูลค่า 6,098.09 ล้านบาท ปี 2554 อันดับ 5 มูลค่า 9,870.25 ล้านบาท ปี 2555 อันดับ 4 มูลค่า 21,123.49 ล้านบาท จนก้าวขึ้นเป็นแชมป์เศรษฐีหุ้นในปี 2556 ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 36,596.20 ล้านบาท

เศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 2 ในปีนี้ ยังคงเป็นของ คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) โดยถือหุ้น BTS ในสัดส่วน 33.93% มูลค่า 34,219.79 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 10,763.72 ล้านบาท หรือ 45.89% จากราคาหุ้น BTS ของคีรี ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจาก 5.65 บาท มาเป็น 8.75 บาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 โดยเพิ่มขึ้น 3.10 บาท หรือ 54.86%

ปีนี้ พิชญ์ โพธารามิก ทายาทคนเดียวของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อดิศัย โพธารามิก ผู้ก่อตั้ง บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 3 จากอันดับ 18 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือครองหุ้น รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครองทั้งสิ้น 26,481.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19,327.08 ล้านบาท หรือ 270.12% ประกอบด้วยหุ้น บมจ.โมโน เทคโนโลยี (MONO) ที่เข้าจดทะเบียนในตลาด mai เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2556 โดยพิชญ์ เป็นถือหุ้นสูงสุดในสัดส่วน 71.87% มูลค่า 11,268.59 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังถือหุ้น JAS ในสัดส่วน 25.84% มูลค่า 15,213.39 ล้านบาท โดย พิชญ์ ควบเก้าอี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของทั้ง MONO และ JAS

ด้าน อนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ อดีตแชมป์เศรษฐีหุ้นไทย 7 ปีซ้อน หล่นลงมาอยู่อันดับ 4 โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 25,740.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,052.80 ล้านบาท หรือ 18.69% ประกอบด้วย หุ้น บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) 23.76% มูลค่า 25,732.51 ล้านบาท และ บมจ.แมนดาริน โฮเต็ล (MANRIN) 1.36% มูลค่า 8,244 ล้านบาท ส่วน ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) ร่วงลงมาอยู่ในอันดับ 5 ด้วยมูลค่าหุ้นที่ถือครอง 25,453.35 ล้านบาท ทั้งนี้ แม้ว่าหุ้น PS ที่ทองมาถือครองในสัดส่วน 58.76% จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 1,955.57 ล้านบาท หรือ 8.32% แต่เมื่อเทียบกับมูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นของเศรษฐีหุ้นในอันดับ Top 4 แล้วยังทิ้งห่างกันอยู่มาก จึงทำให้ทองมาต้องเสียแชมป์เศรษฐีหุ้น 3 ปีซ้อนในปี 2553-2555 ไปในปีนี้

ด้าน วิชัย ทองแตง หล่นจากอันดับ 5 เมื่อปีที่แล้วมาเป็นเศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 6 ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 20,129.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,337.88 ล้านบาท หรือ 19.88% ประกอบด้วยหุ้น BGH ในสัดส่วน 9.94% มูลค่า 19,362.31 ล้านบาท หุ้น บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) 7.29% มูลค่า 399 ล้านบาท หุ้น บมจ.ปุ๋ยเอ็นเอฟซี (NFC) 8.04% มูลค่า 272 ล้านบาท และหุ้น บมจ.ตงฮั้ว คอมมูนิเคชั่นส์ (TH) 9.84% มูลค่า 96 ล้านบาท

ส่วนเศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 7 ในปีนี้ ยังตกเป็นของ ทายาทโอสถสภา นิติ โอสถานุเคราะห์ ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 18,623.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,293.09 ล้านบาท หรือ 51.04%

ปีนี้ วิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค หรือที่รู้จักกันในนาม บิล ไฮเนกี้ เจ้าของอาณาจักรไมเนอร์ กรุ๊ป ก้าวขึ้นมาเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 8 จากอันดับ 72 เมื่อปีที่แล้ว ด้วยมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 11,200.62 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 7,740.13 ล้านบาท หรือ 223.67%

ทั้งนี้ จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ที่สูงขึ้นจาก 15.40 บาท มาเป็น 24.20 บาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 เพิ่มขึ้นถึง 8.80 บาท หรือ 57.14% ส่งผลความมั่งคั่งของวิลเลียมเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยมูลค่าหุ้น MINT ที่ วิลเลียม ถือในสัดส่วน 11.28% เพิ่มขึ้นเป็น 10,783.13 ล้านบาท นอกจากนี้ วิลเลียม ยังถือหุ้น บมจ.คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) (CNT) ในสัดส่วน 6.61% มูลค่า 417.49 ล้านาท

ส่วนเศรษฐีหุ้นอันดับ 9 ตกเป็นของ อรุณี ชาน ทายาทรุ่นที่สองของตระกูลจิราธิวัฒน์ โดยก้าวขึ้นมาจากเศรษฐีหุ้นอันดับ 33 เมื่อปีที่แล้ว ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 10,698.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,642.93 ล้านบาท หรือ 111.61% ประกอบด้วยหุ้น บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIGC) 3.68% มูลค่า 6,077.19 ล้านบาท หุ้น บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) 2.02% มูลค่า 3,879.02 ล้านบาท กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) 2.6% มูลค่า 680.90 ล้านบาท และ หุ้น บมจ.โพสต์ พับลิชชิง (POST) 1.72% มูลค่า 61.83 ล้านบาท

ปีนี้มีเศรษฐีหุ้นหน้าใหม่ชักแถวเข้าทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯช่วงปีทีผ่านมา กลายเป็นเศรษฐีหุ้น IPO ที่มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นในพริบตาชั่วข้ามคืน โดยเศรษฐีหุ้น IPO ที่โดดเด่นที่สุดในปีนี้ก็คือ สมโภชน์ อาหุนัย โบรกเกอร์มือเก๋า อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ที่หันไปจับธุรกิจพลังงาน จำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในชื่อ บมจ.พลังงานบริษัท (EA) โดยได้นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาด mai เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2556

ส่งผลให้สมโภชน์ก้าวเข้ามาเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 10 ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 10,135.78 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้นทันที 10,091.640 ล้านบาท หรือ 22,861.08% โดยถือหุ้น EA ในสัดส่วน 40.47% มูลค่า 10,114.72 ล้านบาท และหุ้น บมจ.อีเทอเนิล เอนเนอยี (EE) อีก 0.94% มูลค่า 21.06 ล้านบาท

สำหรับ 2 สาวทายาทอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ปีนี้แม้ว่ามูลค่าหุ้นจะเพิ่มสูงขึ้น แต่อันดับเศรษฐีหุ้นกลับลดลง โดยลูกสาวคนเล็ก แพทองธาร ชินวัตร (อิ๊ง) หล่นจากเศรษฐีหุ้นอันดับ 47 มาอยู่อันดับ 64 ถือหุ้น บมจ.เอสซี แอสเซท (SC) 29.13% มูลค่า 3,670.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 211.40 ล้านบาท หรือ 6.11% และลูกสาวคนกลาง เอม พิณทองทา ชินวัตร หล่นจากเศรษฐีหุ้นอันดับ 53 มาอยู่อันดับ 66 ถือหุ้น SC 28.19% มูลค่า 3,552.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 204.58 ล้านบาท หรือ 6.11%

ทั้งนี้ นับเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทย ที่ปีนี้ตระกูลจิราธิวัฒน์ สามารถล้มแชมป์เก่า ตระกูลมาลีนนท์ ที่ครองแชมป์มาอย่างต่อเนื่องและยาวนานถึง 14 ปีลงได้ โดยตระกูลจิราธิวัฒน์ แห่งเซ็นทรัล ก้าวขึ้นมาจากอันดับ 2 เมื่อปีที่แล้ว โดยเครือญาติเศรษฐีหุ้นในตระกูล 31 คน ถือครองหุ้นรวมกันทั้งสิ้น 66,787.88 ล้านบาท มั่งคั่งเพิ่มขึ้นถึง 25,922.14 ล้านบาท หรือ 63.43%

โดยหุ้นที่กลุ่มเครือญาติจิราธิวัฒน์ถือครองได้ปรับราคาสูงขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ ราคาหุ้น บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 ได้ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 38.25 บาท จาก 17.30 บาท เมื่อปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 20.95 บาท หรือ 121.09% ส่วนราคาหุ้น บมจ.บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIGC) ก็ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 200 บาท จาก 187 บาท เพิ่มขึ้น 13 บาท หรือ 6.95% สำหรับตระกูลมาลีนนท์ ปีนี้ต้องเสียแชมป์ร่วงลงมาอยู่อันดับ 2 โดย 11 เครือญาติเศรษฐีหุ้นในตระกูลถือครองหุ้นรวมกันมูลค่า 49,122.44 ล้านบาท รวยลดลงถึง 21,139.99 ล้านบาท หรือ 30.09% เนื่องจากราคาหุ้น บมจ.บีอีซี เวิลด์ (BEC) ที่เครือญาติถือครอง ปรับลดลงจาก 76.50 บาท มาอยู่ที่ 56.75 บาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 ลดลงถึง 19.75 บาท หรือ 25.81% ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 3 ได้แก่ ตระกูลปราสาททองโอสถของ น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยในปีนี้ โดยรวมกับสองทายาท ปรมาภรณ์ และวิสนุ ปราสาททองโอสถ ถือครองหุ้นมูลค่า 42,067.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15,576.81 ล้านบาท หรือ 58.80%

ส่วนตระกูลเศรษฐีหุ้นอันดับ 4 ในปีนี้ ได้แก่ ตระกูลกาญจนพาสน์ โดย 4 เครือญาติในตระกูล ได้แก่ คีรี อนันต์ ชัยสิทธิ์ และ สาคร กาญจนพาสน์ ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 41,267.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13,738.61 ล้านบาท หรือ 49.91% และตระกูลเศรษฐีหุ้นอันดับ 5 ได้แก่ ตระกูลทองแตง ที่ครอบครัวทองแตง ได้แก่ วิชัย นงลักษณ์ วิอร อติคุณ อัฐ และ อิทธิ ถือครองหุ้นรวมกันเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 30,593.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,022.91 ล้านบาท หรือ 19.64%

10 อันดับเศรษฐีหุ้นไทย 2556

อันดับ

ชื่อ

มูลค่า

เปลี่ยนแปลง

(ล้านบาท)

(ล้านบาท)

%

1

น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ

36,596.20

15,472.72

73.25

2

นายคีรี กาญจนพาสน์

34,219.79

10,763.72

45.89

3

นายพิชญ์ โพธารามิก

26,481.99

19,327.08

270.12

4

นายอนันต์ อัศวโภคิน

25,740.75

4,052.80

18.69

5

นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์

25,453.35

1,955.57

8.32

6

นายวิชัย ทองแตง

20,129.31

3,337.88

19.88

7

นายนิติ โอสถานุเคราะห์

18,623.77

6,293.09

51.04

8

นายวิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค

11,200.62

7,740.13

223.67

9

นางอุรณี ชาน

10,698.94

5,642.93

111.61

10

นายสมโภชน์ อาหุนัย

10,135.78

10,091.64

22,861.08