ซัมซุงประเดิมส่งมอบนวัตกรรมศูนย์การเรียนรู้ Samsung Smart Learning Centerให้ 10 โรงเรียนนำร่องทั่วประเทศ เพื่อร่วมผลักดันเด็กไทยให้พร้อมที่จะรับมือกับการเรียนรู้ในโลกศตวรรษที่ 21 พร้อมนำทีมพนักงานอาสาสมัครลงพื้นที่จริงกับโครงการ “ซัมซุงสร้างพลังการเรียนรู้สู่อนาคต (Samsung Smart Learning Center)” เพื่อร่วมสำรวจ6โครงการที่นักเรียนโรงเรียนเทศบาลบ้านโนนชัยจ.ขอนแก่น 1 ใน 10 โรงเรียนต้นแบบจากทั่วประเทศได้ริเริ่มทำเพื่อแก้ปัญหาชุมชนของตนเอง หลังได้รับการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อ “เปลี่ยนวิธีคิด – ลงพื้นที่จริง – สร้างสรรค์ผลงานให้ชุมชน” ภายใต้แนวคิดการส่งเสริมและพัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่21เน้นการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นพื้นฐาน ( Problem Based Learning) ที่มาโครงการและความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน
นวัตกรรมศูนย์การเรียนรู้แห่งอนาคต Samsung Smart Learning Centerจัดตั้งขึ้นภายใต้แนวคิดห้องเรียนแห่งอนาคตที่มุ่งนำความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศพร้อมด้วยการสนับสนุนองค์ความรู้ให้ผู้บริหาร ครูสามารถก้าวข้ามข้อจำกัด ปรับเปลี่ยนวิธีการสอนสู่การพัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่ 21ซึ่งหมายถึงความรู้ความชำนาญที่เด็กต้องเตรียมพร้อมเพื่อที่รับมือกับอนาคต ให้สามารถทำงานและใช้ชีวิตได้อย่างประสบความสำเร็จ ทักษะเหล่านั้นได้แก่ 1) ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills – 4Cs) 2) ทักษะชีวิตและการทำงาน (Life and Career Skills) 3) ทักษะด้านสานสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี (Information, Media and Technology Skills) ที่จะทำให้เด็กมีความสามารถในการสื่อสารการแก้ปัญหาการคิดในเชิงวิพากษ์เพื่อพร้อมที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในโลกแห่งอนาคตซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถเรียนรู้ผ่านการเรียนในตำรา แต่ต้องเรียนผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่เรียกว่า Problem-bases Learning ทั้งยังเป็นแหล่งกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความต้องการที่จะศึกษาค้นคว้าหาความรู้จากฐานข้อมูลที่หลากหลาย ทำงานร่วมกับผู้อื่นในสหสาขาวิชาเพื่อค้นหาคำตอบ รวมถึงสร้างสื่อเพื่อแบ่งปันการค้นพบและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น
นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า “ท่ามกลางความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาของสังคมในปัจจุบัน เทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดเริ่มเข้ามามีบทบาทต่อผู้คนเป็นอย่างมากดังนั้นการศึกษาไทยจึงต้องการนโยบายและยุทธศาสตร์แบบมุ่งอนาคตโดยเน้นไปที่รูปแบบการจัดการศึกษาเพื่อตอบสนองต่อกระแสโลกาภิวัตน์ การเรียนภายในห้องเรียนเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาศักยภาพในทุกๆด้าน เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะต่างๆในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจำเป็นการที่มีองค์กรเอกชนเห็นความสำคัญด้านการศึกษาถือเป็นสัญญาณที่ดีของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนโดยเฉพาะองค์กรที่มีความโดดเด่นในเรื่องของนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าและมีความตั้งใจที่จะนำองค์ความรู้ที่มีมาเผยแพร่ให้แก่เยาวชนไทย หนึ่งในทักษะสำคัญของการเรียนรู้ แห่งศตวรรษที่ 21 ที่เด็กและเยาวชนจะต้องเรียนรู้เพื่อนำไปต่อยอดในการพัฒนาตนเองต่อไป และไม่ใช่เพียงแต่เด็กและเยาวชนเท่านั้นที่ต้องพัฒนาตนเอง ครูและอาจารย์เองก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดวิธีการจัดการการเรียนการสอนตลอดจนต้องเรียนรู้ที่จะใช้เทคโนโลยีต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน” แนวคิด Problem Based Learningจุดประกายไอเดีย ริเริ่ม 6 โครงการพัฒนาชุมชน
นางสาววัชรา ภักดียิ่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลบ้านโนนชัย จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ”หลังจากที่เด็กนักเรียนได้เข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการกับโครงการซัมซุง สร้างพลังการเรียนรู้สู่อนาคต และกลับมาทำโครงการ เพื่อพัฒนาชุมชนของตนเองแล้วนั้น เด็กนักเรียนเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นในการแสดงศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ ทั้งนี้เพราะเด็กๆ ได้เรียนรู้ที่จะมองสิ่งรอบข้าง เห็นปัญหา และแก้ไขสิ่งเหล่านั้นด้วยตัวเอง โดยนักเรียนได้เตรียมพัฒนาโครงการทั้งหมด 6 โครงการ ประกอบไปด้วย 1.การทำปุ๋ยชีวภาพ 2. งานเกษตร 3. ขยะในชุมชน 4. ตำด๊องแด๊ง 5. วัดหนองแวง และ 6. ตำนานสินไซ เราคิดว่าโครงการซัมซุง สร้างพลังการเรียนรู้สู่อนาคตเป็นเสมือนเครื่องจุดประกายให้ครูและอาจารย์จะเปลี่ยนวิถีการเรียนจากการที่ครูเป็นผู้สอนและให้เด็กท่องจำ มาเป็นการมุ่งให้เด็กสามารถสร้างความรู้นั้นด้วยตนเอง และใช้วิธีการเรียนการสอนแบบ Problem Based Learning ที่ผสมผสานนวัตกรรมสื่อดิจิตอลของซัมซุงมาเป็นแนวทางในการสร้างพลังและการค้นพบในเด็ก เห็นได้จากโครงการทั้ง 6 ที่เด็กนักเรียนเป็นคนริเริ่มขึ้น โดยมีครูและอาจารย์เป็นที่ปรึกษาเท่านั้น”
ด.ญ.กฤติกาช่างมากหรือน้องมิ้นชั้นม.2/2 โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนชัย จ.ขอนแก่น เล่าให้ฟังว่า ”ตนเองได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมเวิร์คช็อปกับโครงการซัมซุงสร้างพลังการเรียนรู้สู่อนาคตในฐานะตัวแทนโรงเรียน พร้อมกับเพื่อนๆทั้งหมด6คนและคุณครูอีก4ท่านพอกลับมาที่โรงเรียนก็ได้นำความรู้ที่ได้รับมาถ่ายทอดให้กับเพื่อนๆในโรงเรียนจากนั้นจึงคิดโครงงานที่เราจะทำกับเพื่อนๆเพื่อนำเสนอโดยเริ่มต้นจากการตั้งคำถามเป็นอย่างแรกซึ่งเรากับเพื่อนๆมีความสงสัยเกี่ยวกับตำด๊องแด๊งว่าทำไมคนในเทศบาลโนนชัยถึงนิยมรับประทานกันมากจึงเริ่มทำการศึกษาตั้งแต่ความเป็นมาและได้เข้าไปเรียนรู้ถึงวิธีการทำเส้นด๊องแด๊ง รวมถึงขั้นตอนการตำและการปรุงรสกับเจ้าของร้านที่ขายอยู่หน้าโรงเรียน และเมื่อเราได้ทราบถึงวิธีการการทำ ขั้นตอนการปรุงรสแล้ว เราจึงได้เข้าใจว่าทำไมตำด้องแด้งจึงเป็นที่นิยม เพื่อที่เราจะได้นำความรู้ที่เราได้มานั้นมาต่อยอดและพัฒนาให้ตำด้องแด้งคงอยู่ได้ อย่างยั่งยืน ท่ามกลางสภาพความเปลี่ยนแปลงของสังคมในยุคปัจจุบัน”
ด.ช.อนุวัฒน์เชื้อยังกายหรือน้องโบ๊ทชั้นม.2/2โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนชัย จ.ขอนแก่น เล่าว่า ”ผมรู้สึกโชคดีมากที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมกับซัมซุงเพราะผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีมากขึ้นอย่างเช่นเวลาที่เราต้องทำโครงงานส่งผมสามารถใช้อุปกรณ์ของซัมซุงในศูนย์การเรียนรู้ Samsung Smart Learning Center เพื่อค้นหาข้อมูลซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากเพราะทำให้การเข้าถึงแหล่งข้อมูลเป็นไปได้อย่างรวดเร็วรวมถึงการออกแบบวิธีการนำเสนอผลงานให้มีความน่าสนใจก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายนอกจากนี้ผมและเพื่อนๆยังได้มีโอกาสเรียนรู้ถึงวิธีการถ่ายวิดีโอและนำมาตัดต่อได้ฝึกฝนทักษะการเขียนสคริปต์เพื่อที่จะนำผลงานมานำเสนอซึ่งผมเองไม่เคยทำมาก่อน”
“ซัมซุงมุ่งมั่นที่จะสานต่อโครงการเพื่อเด็กและเยาวชนต่อไป เพื่อให้เข้าถึงอนาคตของชาติให้ครอบคลุมกว้างขวางมากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างรากฐานอนาคตของชาติให้มั่นคงต่อไป เพราะซัมซุงเชื่อมั่นว่าหากเด็กและเยาวชนได้รับการศึกษาที่เหมาะสมก็มีศักยภาพไม่แพ้ชาติใดในโลก โดยซัมซุงตั้งเป้าขยายโรงเรียนต้นแบบภายใต้โครงการ ซัมซุงสร้างพลังการเรียนรู้สู่อนาคตอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนและพัฒนาอนาคตของชาติเหล่านี้ให้เติบโตอย่างคุณภาพยิ่งๆ ขึ้นไป” นางสาวศศิธรกล่าวทิ้งทาย
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ http://www.samsungslc.orgหรือhttps://www.facebook.com/ samsungslc