ดิสคอฟเวอรี่ แชนแนล เสนอรายการเรียลลิตี้แสดงการเอาตัวรอดเมื่อต้องติดเกาะแบบตัวเปล่าในรายการ NAKED CASTAWAY

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          - เอ็ด สตาฟฟอร์ด นักผจญภัยชาวอังกฤษ ถูกปล่อยให้อยู่บนเกาะร้าง กลางมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ 60 วัน โดยไม่มีอุปกรณ์ อาหาร เสื้อผ้า หรือทีมงาน 

          เอ็ด สตาฟฟอร์ด อดีตนายทหารกองทัพบกอังกฤษ อาสารับความท้าทายในรายการเรียลลิตี้โชว์การเอาชีวิตรอดที่สุดโต่งที่สุดเท่าที่เคยมีมาในวงการโทรทัศน์ เขาถูกปล่อยจากเครื่องบิน ทิ้งให้อยู่บนเกาะโอโลรัวของประเทศฟิจิที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ เขาต้องอยู่คนเดียวแบบตัวเปล่าเป็นเวลา 60 วัน สิ่งที่จะช่วยให้มีชีวิตรอดมีเพียงมันสมองและสองมือเท่านั้น ไม่มีเสื้อผ้า อาหาร มีด หรือเครื่องมือใดๆ นอกจากกล้องหนึ่งตัวสำหรับบันทึกประสบการณ์ทั้งหมด ชุดปฐมพยาบาล และวิทยุสื่อสาร ซึ่งเขาจะได้รับอนุญาตให้ใช้ได้เฉพาะในสถานการณ์ที่มีความต้องการทางการแพทย์เท่านั้น สำหรับรายการเรียลลิตี้โชว์ความยาว 4 ตอนชุด NAKED CASTAWAY นี้จะออกอากาศตอนแรกทางดิสคอฟเวอรี่ แชนแนล ในวันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ เวลา 21.00 น. ทางทรูวิชั่นช่อง 19


          อันตรายและการผจญภัยถือเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตของเอ็ด สตาฟฟอร์ด แต่คราวนี้จะเป็นการเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต โดยเขาต้องเอาชีวิตให้รอดบนเกาะร้างที่ไม่มีเสบียงอะไรให้เลย เป็นภารกิจที่ต้องอาศัยความแข็งแกร่งทั้งทางร่างกายและจิตใจยิ่งกว่าครั้งใดๆ เป็นโจทย์ยากที่ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน งานนี้เขาต้องบันทึกภาพภารกิจของตัวเองทั้งหมด ไม่เคยมีรายการทีวีรายการไหนที่สมจริงเท่านี้อีกแล้ว ขนาดแบร์ กริล ผู้ดำเนินรายการ MAN VS. WILD และ BEAR GRYLLS: ESCAPE FROM HELL ยังบอกว่า ภารกิจของเอ็ดเป็นหนึ่งในการผจญภัยในยุคสมัยใหม่ที่กล้าหาญบ้าบิ่นที่สุดที่เคยมีมาเลยทีเดียว

          นับจากวินาทีแรกที่เท้าของเขาเหยียบลงบนเกาะโอโลรัว เอ็ดก็ต้องทำงานแข่งกับเวลาเพื่อให้มีชีวิตรอด ไม่มีเครื่องมือ อาหาร หรือเสื้อผ้าให้เพื่อผ่อนหนักเป็นเบา ไม่มีทีมงานคอยเป็นเพื่อนแก้เหงา หรือช่วยเหลือยามฉุกเฉิน งานนี้เอ็ดต้องขุดลึกลงไปในก้นบึ้งของมันสมองและเอาชนะความกลัวเพื่อแจกแจงสิ่งที่จำเป็นก่อนหลัง ประสบการณ์การฝึกฝนและความรู้เก่าๆ จะต้องถูกนำออกมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ เขาจะต้องเอาชนะอุปสรรคทั้งหลายบนเกาะเพื่อที่จะพึ่งตนเองให้ได้ 100 เปอร์เซนต์ แม้ว่าจะถูกบีบบังคับในทุกด้าน ทั้งทรัพยากรที่จำกัด อาการเจ็บป่วย ความเหงาโดดเดี่ยวและสัตว์หน้าตาประหลาดๆ บนเกาะ

          ท่ามกลางความร้อนระอุของสภาพอากาศ เอ็ดมีเวลาไม่กี่ชั่วโมงนับแต่เดินทางมาถึงเกาะที่จะต้องหาแหล่งน้ำดื่ม ก่อนที่ร่างกายจะขาดน้ำจนความพยายามของเขาต้องจบลงก่อนที่จะทันได้เริ่มต้น เขามีชีวิตอยู่ได้เพียงสามวันถ้าหากไม่ได้ดื่มน้ำ และสามสัปดาห์หากไม่ได้กินอาหาร ท่ามกลางปะการังเขตร้อนที่สวยงาม เอ็ดจะต้องหาวิธีจับปลามากินเป็นอาหาร โดยคิดหาวิธีทำแห อวน หรือฉมวกแทงปลาเอาเอง พร้อมๆ กับหลบเลี่ยงไม่ให้เจอกับฉลามที่อาศัยอยู่ในทะเลที่ล้อมรอบเกาะ นอกจากนั้น เขายังต้องหาวิธีก่อไฟ สร้างเพิงพัก และหลีกหนีจากภัยอันตราย

          เอ็ดจะมีทักษะ ความเก๋า ความมุ่งมั่นพอที่จะอยู่รอดได้ถึง 60 วันหรือเปล่า เขาจะทนกับอากาศที่ร้อนตับแลบตอนกลางวันและหนาวยะเยือกตอนกลางคืนได้อย่างไรโดยที่ไม่มีที่พัก หรือโลชั่นทาผิว ปัญหาหนักที่สุดของเขาคือการที่ไม่มีน้ำสะอาดเพียงพอ หรือไม่มีอาหารที่สม่ำเสมอ หรือว่าการต้องอยู่คนเดียวสองเดือนไม่ได้สุงสิงกับใคร อะไรจะเป็นอุปสรรคที่หนักหน่วงที่สุดที่เขาจะต้องเอาชนะ

          ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคำถามที่คำตอบอยู่ในซีรีส์ชุด NAKED CASTAWAY ผู้ชมสามารถติดตามภารกิจการเดินทางผจญภัย อุปสรรคที่ชวนลุ้นระทึกเพื่อหาทางมีชีวิตรอดอยู่บนเกาะที่ห่างไกลผู้คนของผู้ชายที่ชื่อเอ็ด สตาฟฟอร์ด NAKED CASTAWAY จะออกอากาศซ้ำทุกวันพุธเวลา 14.00 น. วันเสาร์ 11.00 น. และวันอาทิตย์ 22.00 น. 

          เรื่องย่อตอนต่างๆ
          Stranded (11 ก.พ.) นักสำรวจโลกเอ็ด สตาฟฟอร์ด มะงุมมะงาหราพยายามจับต้นชนปลายหลังจากถูกนำไปปล่อยไว้บนเกาะโอโลรัวในหมู่เกาะฟิจิที่ห่างไกลผู้คน การที่ตัวเปล่าเล่าเปลือย เขาต้องรีบหาสิ่งที่สำคัญที่สุดตามลำดับ อันได้แก่ น้ำ ที่พัก อาหารและไฟ เพื่อสร้างโอกาสในการอยู่รอดตลอด 60 วันตามโจทย์ที่แสนจะท้าทาย อาหารหลักคือมะพร้าว เขาต้องตะลอนซอกแซกไปตามเกาะเพื่อหาแหล่งน้ำและอาหารที่ใช้ได้นานหน่อย เจออะไรพอกินได้เขากินหมด ซึ่งก็รวมไปถึงตุ๊กแก จากการที่แหล่งน้ำที่ต้องพึ่งพาเพียงแหล่งเดียวเหือดแห้งไปเรื่อยๆ ทำให้สตาฟฟอร์ดประสบปัญหาขาดน้ำก่อนที่ฝนจะมาและทำให้เขาต้องลุ้นกับการมีชีวิตรอดเพื่อจะได้ก่อกองไฟสำเร็จเสียที

          Give Me Shelter (18 ก.พ.) สองสัปดาห์แล้วนับแต่เอ็ด สตาฟฟอร์ดเดินทางมาถึงเกาะตัวเปล่าๆ ไม่มีอะไร นอกจากกล้องสำหรับเก็บภาพประสบการณ์ของตนเอง ฤดูฝนใกล้จะมาถึงแล้ว เอ็ดจะต้องย้ายตัวเองออกไปจากสภาพมนุษย์ถ้ำและสร้างที่พักข้างในเกาะ เครื่องไม้เครื่องมือก็ไม่มี มีแค่เปลือกหอยสำหรับตัดต้นไม้ ดูท่าจะเหนื่อยเปล่าเสียแล้ว ซ้ำร้ายอาหารและน้ำยังไม่ค่อยจะมี ร่างกายของเขาทรุดโทรมลงไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกับสภาพจิตใจ ความว่างเปล่ารุกเร้าโจมตีจนทำให้แทบจะเป็นบ้า เขาต้องรวบรวมกำลังใจอย่างเต็มที่เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้

          Swimming with Sharks (25 ก.พ.) ในช่วงสุดท้ายของภารกิจโดดเดี่ยวบนเกาะร้าง เอ็ดกระเสือกกระสนมาได้ครึ่งทางของ 60 วันแล้ว อะไรๆ มันยากลำบากมากกว่าที่เขาจินตนาการไว้เยอะ แต่เอ็ดก็เริ่มจะเอาชนะอุปสรรคได้บ้างแล้ว และสามารถพัฒนาวิธีการเอาตัวรอดได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เรียกว่ายิ่งนาน ยิ่งชิล เขาสร้างที่พักที่หรูพอตัวให้ตัวเองอยู่ได้และไม่ต้องลำบากลำบนกับการหาน้ำดื่มเท่ากับในช่วงแรกๆ แต่มีสองสิ่งที่ทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้นกว่าเก่าเยอะ โจทย์ของเขาก็คือจะจับแพะบนเกาะมากินเป็นอาหารได้หรือเปล่า และเขาจะเอาชนะความกลัวปลาฉลามพอที่จะออกแพเดินทางไปกลางทะเลเพื่อจับปลาใหญ่มากินนอกแนวปะการังหรือเปล่า 

          Ed Bares All (4 มี.ค.) หลังจากรอดชีวิตอยู่บนเกาะร้างครบ 60 วัน เอ็ดก็กลับบ้านโดยสวัสดิภาพและพร้อมที่จะเล่าประสบการณ์การผจญภัยบนเกาะ ทั้งจุดสูงสุด จุดต่ำสุด สิ่งที่เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเอาชีวิตรอดและเกี่ยวกับตัวเอง เขาเล่าถึงสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตก่อนและหลังการผจญภัยบนเกาะ และการทดสอบดังกล่าวส่งผลต่อชีวิตของเขาอย่างไรจนถึงทุกวันนี้

          NAKED CASTAWAY
          ประวัติของเอ็ด สตาฟฟอร์ด

          วันที่ 9 สิงหาคม 2010 เอ็ด สตาฟฟอร์ด นักสำรวจและนายทหารนอกราชการชาวอังกฤษได้ทำสถิติโลกที่ได้รับการบันทึกไว้โดยกินเนสบุ๊ค หลังจากที่เขากลายเป็นมนุษย์คนแรกของโลกที่เดินเท้าตลอดความยาวของแม่น้ำอเมซอน จากต้นน้ำบริเวณตอนใต้ของเปรู ถึงปากแม่น้ำชายฝั่งบราซิล ความสำเร็จในครั้งนั้น ทำให้เขาได้รับการขนานนามเป็น “นักผจญภัยแห่งปีของยุโรป” ประจำปี 2011 เซอร์รานัฟ ไฟน์ ผู้ที่ได้รับยกย่องว่าเป็น “นักสำรวจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกที่ยังมีชีวิตอยู่” ได้กล่าวชื่นชมการเดินทางของเอ็ดว่า “เหนือธรรมดาอย่างแท้จริง เขาติดอันดับต้นๆ ของการเดินทางสำรวจทั้งในอดีตและปัจจุบัน”

          เอ็ดบันทึกภาพและเขียนบล็อกเกี่ยวกับการเดินเท้าสำรวจแม่น้ำอเมซอนของเขาที่ใช้เวลานานสองปีครึ่ง ซึ่งมีผู้อ่านติดตามทั่วโลก เรื่องราวมหากาพย์ความอดทน กล้าหาญและมุ่งมั่นเพื่อความสำเร็จเอาชนะทุกอุปสรรคของเขากลายเป็นข่าวทั่วโลก หนังสือพิมพ์เดอะไทมส์ของอังกฤษยกย่องเขาเป็น “ฮีโร่ตัวจริง” และการเดินทางของเขาได้รับการบันทึกไว้ในหนังสือ Walking the Amazon: 860 Days. One Step at a Time ซึ่งออกจำหน่ายทั่วโลก โดยได้รับการพิมพ์เป็นภาษาจีนกลาง ยูเครน โปลิช และสเปน นอกจากนี้ ภาพฟุตเทจที่เขารวบรวมเอาไว้ยังถูกนำไปทำภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Walking the Amazon ซึ่งออกอากาศในประเทศต่างๆ กว่า 100 ประเทศ

          เอ็ดเกิดเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 1975 ในปีเตอร์โบโรห์ เคมบริดเชียร์ ประเทศอังกฤษ ได้รับการเลี้ยงดูใน เลสเตอร์ เขาสำเร็จการศึกษา และผ่านการคัดเลือกเข้าไปเป็นนักเรียนเตรียมทหารสถาบันแซนเฮิร์ซ ก่อนที่จะได้รับการบรรจุเป็นนายทหารสัญญาบัตรในปี 1999 โดยได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บังคับหมวดกองร้อย เดวอนเชียร์และดอร์เซต

          หลังจากปลดเกษียณจากราชการทหารในปี 2002 เขาได้ใช้ทักษะความเป็นผู้นำและการทำกิจกรรมกลางแจ้งดำเนินโครงการเดินทางสำรวจทั่วโลก ซึ่งรวมทั้งการทำงานกับองค์กรการกุศลเทรคฟอร์ซ นำอาสาสมัครทำกิจกรรมสำรวจเพื่อชุมชนและการอนุรักษ์ในเบลิซ กัวเตมาลา และบอร์เนียว จากนั้นเขาได้ออกมาเป็นผู้รับเหมาสหประชาชาติในอัฟกานิสถาน ให้คำปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งด้านการวางแผน การขนส่ง และความปลอดภัย ในการการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ

          เขาถ่ายทำรายการเรียลลิตี้โชว์ NAKED CASTAWAY ให้กับดิสคอฟเวอรี่ แชนแนลในเดือนสิงหาคม 2012 เมื่อเขาถูกนำไปปล่อยทิ้งไว้บนเกาะโอโลรัวกลางมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นเวลา 60 วัน โดยไม่มีอาหาร หรือเครื่องมืออุปกรณ์อะไรไว้เป็นตัวช่วยเลย มีเพียงกล้องสำหรับถ่ายกิจกรรมของตัวเองเท่านั้น หนังสือ Naked and Marooned ซึ่งบันทึกทุกรายละเอียดประสบการณ์บนเกาะของเขามีกำหนดจะพิมพ์ออกมาจำหน่ายในต้นปี 2014

          เอ็ดอาศัยอยู่ในลอนดอน เวลาส่วนใหญ่ของเขาจะหมดไปกับการถ่ายทำรายการสารคดี เขียนหนังสือ และเป็นวิทยากรพูดสร้างแรงจูงใจ เขาตั้งใจจะใช้การผจญภัยของเขาสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กและผู้ใหญ่ออกจากบ้านไปท่องโลกกว้าง
NAKED CASTAWAY

          ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเดินเท้าตามแนวแม่น้ำอเมซอนของเอ็ด สตาฟฟอร์ด

          - ต้นน้ำของแม่น้ำอเมซอนเพิ่งจะได้รับการยืนยันในปี 1999 
          - ตอนที่เอ็ดเดินเท้าเลียบแม่น้ำจบ โดยการเดินลงไปในมหาสมุทรชายฝั่งประเทศบราซิล เขาได้เดินเท้าครอบคลุมระยะทางแล้วทั้งสิ้นกว่า 6,000 ไมล์ (เกือบ 9,700 กิโลเมตร) ความยาวของแม่น้ำอเมซอนอยู่ที่ 4,250 ไมล์ (เกือบ 6,850 กิโลเมตร) แต่เนื่องจากความคดเคี้ยวของแม่น้ำทำให้เอ็ดต้องเดินเท้าเป็นระยะทางรวมมากกว่าความยาวของแม่น้ำ
          - เอ็ดเริ่มเดินในคามานญ่า ประเทศเปรู เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2008 สี่เดือนต่อมามาคนมาเดินเป็นเพื่อน คือ กาดิเอล ‘โช’ ซานเชซ ริเวรา ในเดือนสิงหาคม 2008 เดิมที โชตั้งใจเป็นไกด์ให้เอ็ดเพียงห้าวันในช่วงที่เขาเดินผ่านพื้นที่ ”เรดโซน” ที่อันตรายรอบๆ ซาติโป ประเทศเปรู แต่กลับลงเอยที่การเดินเป็นเพื่อนเอ็ดไปตลอดการเดินทาง
          - การเดินทางของเอ็ดผ่านการวางแผนหนึ่งปี รวมเดินจริงใช้เวลาทั้งสิ้นสองปีครึ่ง
          - แม่น้ำอเมซอนไม่มีสะพานข้าม ซึ่งไม่ใช่เพราะว่ากว้างเกินไปแต่อย่างใด เพราะส่วนที่กว้างที่สุดของแม่น้ำยาวประมาณ 6.2 ไมล์ (เกือบ 10 กิโลเมตร) ซึ่งสั้นกว่าสะพานด่านหยาง-คุนชานที่ยาวที่สุดในโลกที่ประเทศจีนมาก สะพานแห่งนี้ยาวกว่า 100 ไมล์ (กว่า 160 กิโลเมตร) แต่สาเหตุที่ไม่มีการสร้างสะพานข้ามก็เนื่องจากที่ที่แม่น้ำอเมซอนไหลผ่าน แทบจะไม่มีเมืองใหญ่ๆ เลยตลอดเส้นทาง
          - เด็กนักเรียนทั่วโลกติดตามเอ็ดผ่านบล็อกของเขา ซึ่งเขาเขียนเล่าเรื่องเกี่ยวกับการโดนมดกิน การจับปลาปิรันยา การเผชิญหน้าคนตัดไม้ ถูกชนเผ่าไล่ยิงด้วยธนูและปืนลูกซอง และการบันทึกเรื่องราวของผู้คนที่เขาพบเจอตลอดการเดินทาง
          - เอ็ดกินปลาปิรันยาวันละ 15 ตัว แต่ไม่เคยถูกปลาปิรันยากัดเลย ถือว่าโชคดีมาก
          - การเดินทางตามความยาวของแม่น้ำอเมซอนที่ทำสำเร็จมีทั้งหมดหกครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่เป็นการเดินเท้าล้วนๆ เหมือนกับที่เอ็ดทำ การเดินทางที่โดดเด่นอย่างมากครั้งหนึ่ง เป็นการว่ายน้ำตามความยาวของแม่น้ำของนักว่ายน้ำวิบาก มาร์ติน สเตรล ซึ่งว่ายน้ำเป็นระยะทาง 3,274 ไมล์ (เกือบ 5,270 กิโลเมตร)
          - เอ็ดเดินผ่านสามประเทศ คือ เปรู โคลัมเบีย และบราซิล ยอมเสี่ยงตายเพื่อปลุกจิตสำนึกให้ชาวโลกตระหนักถึงปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า
ดิสคอฟเวอรี่ แชนแนล เสนอรายการเรียลลิตี้แสดงการเอาตัวรอดเมื่อต้องติดเกาะแบบตัวเปล่าในรายการ NAKED CASTAWAY
 

ข่าวดิสคอฟเวอรี่ แชนแนล+เรียลลิตี้โชว์วันนี้

ดิสคอฟเวอรี่ แชนแนล เสนอสารคดีแนวเรียลลิตี้ชุดใหม่ล่าสุด TETHERED

พบกับคนแปลกหน้า 2 คน ที่ถูกมัดติดกันด้วยสายเคเบิล และปล่อยให้ผจญภัยในถิ่นทุรกันดารเพื่อเอาชีวิตรอดเป็นเวลา 10 วัน เราพบว่าในสถานการณ์คับขันเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้คนมีชีวิตอยู่รอดได้คือ ความแข็งแรง ความเป็นมิตรและทักษะของคนที่เราอยู่ด้วย ในแต่ละตอนของรายการ TETHERED เรียลลิตี้โชว์ชุดใหม่ของดิสคอฟเวอรี่ แชนแนล คนสองคนที่มีภูมิหลังและปรัชญาชีวิตต่างกันอย่างสิ้นเชิงจะต้องร่วมเดินทางวิบากแบบมหากาพย์ไปด้วยกัน ฝ่าสภาพภูมิประเทศที่โหดร้ายเพื่อพิชิตภารกิจการเอาชีวิตรอดในสภาพธรรมชาติที่สุดแสนกันดาร

ดิสคอฟเวอรี่ แชนแนล ทำเรียลลิตี้โชว์แนวใหม่ “ซิ่งเพื่อความอยู่รอด” ในรายการ ONE CAR TOO FAR

ONE CAR TOO FAR สารคดีแนวเรียลลิตี้โชว์ชุดใหม่ 5 ตอนจบ รายการที่จะติดตาม แกรี่ ฮัมฟรีย์ อดีตเจ้าหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษของอังกฤษ และบิล วู เซียนรถชาวอเมริกัน ทั้งคู่ถูกนำไปปล่อยไว้ในที่วิบาก และกันดาร พร้อมรถ...

สารคดีชุด WHAT HAPPENED NEXT? ทางดิสคอฟเวอรี่ แชนแนล

จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเชือกบันจี้จัมพ์ของผู้หญิงคนหนึ่งขาดผึง 100 เมตรกลางอากาศเหนือสายน้ำที่เต็มไปด้วยจระเข้ จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเครื่องจักรพลังคนพยายามโผผินบินแข่งกับไก่ พบกับซีซั่นใหม่ของ WHAT HAPPENED NEXT? ที่มาพร้อมกับคลิปวิดีโอหลุด...

ดิสคอฟเวอรี่ แชนแนล เสนอสุดยอดยูทูปหลุดโลกในรายการ YOU HAVE BEEN WARNED

ซีซั่นใหม่ของ YOU HAVE BEEN WARNED 3 จะพาผู้ชมไปพบกับ 20 วีดิโอยูทูปที่หลุดโลกที่สุดในโลก โดยการรวบรวมวีดิโอที่ทางบ้านทำเอง เป็นการบันทึกภาพการโชว์ หรือการทดลองทางวิทยาศาสตร์แบบอึ้ง ทึ่ง เสียว ฮา พบกับกราฟฟิกที่บอกเล่า...

ดิสคอฟเวอรี่ แชนแนล เสนอเรื่องราวเพื่อคนรักฉลามในสารคดี SHARK MONTH 2014

SHARK MONTH สารคดีชุดยอดนิยมของดิสคอฟเวอรี่ แชนแนล กลับมาพบกับผู้ชมอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้ พร้อมกับเรื่องราวที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูลเพื่อให้บรรดาคนรักฉลามได้ฟินเวอร์กัน พร้อมรายการใหม่มานำเสนอ สารคดี SHARK MONTH จะออกอากาศ...

นิค วอลเลนดา จะไต่ลวดครั้งประวัติศาสตร์เหนือขอบฟ้าชิคาโกโดยไม่มีเชือก

ถ่ายทอดสดวันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายนนี้เวลา 7.00 น. สู่ 220 กว่าประเทศทั่วโลก ทางดิสคอฟเวอรี่ แชนแนล (ทรูวิชั่น 562) นิค วอลเลนดา “ราชานักไต่ลวด” กลับมาท้ามฤยูอีกครั้ง คราวนี้ เป้าหมายของเขาอยู่ที่ชิคาโก พร้อมกับภารกิจที่ท้าทายที่สุด ...

ดิสคอฟเวอรี่ แชนแนล เปิดแฟ้มลับพิสูจน์ความจริงของเรื่องแปลกประหลาดที่ยังเป็นปริศนาในซีรี่ส์ THE UNEXPLAINED FILES

THE UNEXPLAINED FILES กลับมาอีกครั้ง เพื่อสืบสวนเจาะลึกรายงานเรื่องราวประหลาดชวนขนหัวลุกที่ท้าทายทุกคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้การจำลองเหตุการณ์ที่สมจริง พร้อมภาพฟุตเทจที่ไม่เคยมีใคร...

เมื่อการชัตดาวน์สิ้นสุดลงรายการ Deadliest Catch จึงได้กลับมาอีกครั้ง ใน DEADLIEST CATCH 10 -10 Years at Sea! ทางดิสคอฟเวอรี่ แชนแนล

ฤดูจับปูยักษ์ผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่า แต่สำหรับปีนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสองทศวรรษที่กัปตันทุกคนไม่มีโอกาสได้ออกเรือ เพราะปัญหาทางการเมือง...

ดิสคอฟเวอรี่ แชนแนล เสนอรายการสารคดีเพื่อการชีวิตรอดแนวใหม่ ในซีรี่ส์ SURVIVE THAT!

คุณจะทำอย่างไรถ้าถูกลักพาตัว ปิดตาแล้วนำไปทิ้งไว้สถานที่ห่างไกลที่ไม่รู้จัก และถูกปล่อยให้ดูแลตัวเองให้มีชีวิตรอด โดยที่คุณไม่มีโอกาสได้เตรียมตัวเตรียมใจอะไรมาก่อนเลย ทักษะการเอาชีวิตรอดจึงเป็นสิ่งสำคัญ นักผจญภัย...