รักในออฟฟิศ ส่งผลให้งาน “รุ่ง” จ็อบสตรีทดอทคอมเผยผลสำรวจลูกจ้าง 1 ใน 2 เคยคบกับคนในออฟฟิศเดียวกัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          จ็อบสตรีทดอทคอมเผยผลสำรวจเกี่ยวกับความรักในที่ทำงาน เพื่อสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับความรักของคนในที่ทำงานเดียวกัน พบว่า หนุ่มสาวออฟฟิศ 8 ใน 10 เห็นว่า ด้วยวิถีชีวิตของคนทำงานปัจจุบันทำให้การพบรักในออฟฟิศมีโอกาสง่ายกว่า พบรักกับคนภายนอก โดย 1 ใน 2 เคยคบกับคนในออฟฟิศเดียวกันและเป็นที่น่ายินดีว่า 3 ใน 10 คู่สามารถประคองรักจนลงเอยด้วยการแต่งงานนอกจากนี้ ผลสำรวจจากฝั่งนายจ้างยังพบว่า 93% เปิดไฟเขียวให้ความรักในที่ทำงานตราบใดที่ไม่มีผลกระทบต่องาน และสนับสนุนความรักในที่ทำงานภายใต้เงื่อนไขที่คู่รักไม่มีความเกี่ยวข้องเรื่องงานกันโดยตรงหรือทำงานต่างหน่วยงานกัน
          ผลสำรวจครั้งนี้ได้จากการรวบรวมความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างคนทำงานในฐานข้อมูลของจ็อบสตรีทดอทคอมจำนวน 2,725 คน และผู้ประกอบการจำนวน 555 บริษัท เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
          ด้วยวิถีของคนทำงานปัจุบันที่ส่วนใหญ่ต้องใช้ชีวิตการทำงานอยู่ในออฟฟิศ 8 ชั่วโมงต่อวันหรือมากกว่านั้น ส่งผลให้คนทำงานส่วนใหญ่เห็นว่า ตนเองน่าจะมีโอกาสพบรักกับคนในที่ทำงานเดียวกันมากกว่าคนภายนอก คิดเป็น 79% ในขณะที่มี 45% เคยคบกับคนในออฟฟิศเดียวกัน และ 1 ใน 3 ในจำนวนนี้เคยพบรักมากกว่า 2 ครั้ง โดยความสัมพันธ์ส่วนใหญ่เป็นความรักแบบ “ชาย-หญิง” คิดเป็น 94% ในขณะที่ 5% มีความสัมพันธ์แบบ “หญิงรักหญิง” และอีก 2% เป็นแบบ “ชายรักชาย”
          เมื่อสอบถามถึงการจัดการกับรักในที่ทำงานคู่รักส่วนใหญ่เลือกที่จะเปิดเผยกับคนในที่ทำงานมากมากขึ้นเมื่อความสัมพันธ์เริ่มจริงจัง ด้านระยะเวลาของความสัมพันธ์พบว่า คู่รักส่วนใหญ่ใช้เวลาคบหากันอยู่ในช่วง 1 – 3 ปี คิดเป็น 49% อีก 19% คบกันนานมากกว่า 5 ปี ในขณะที่ 32% ใช้เวลาคบกันเพียง 3 – 6 เดือน นอกจากนี้ ยังพบว่าคู่รักที่คบกันในออฟฟิศจำนวน3 ใน 10 คู่มีความสัมพันธ์ที่ดีจนลงเอยถึงขั้นแต่งงานกัน
          หากจำแนกประเภทของคู่รักตามระดับตำแหน่งงานพบว่า 6 ใน 10 เป็นคู่รักที่อยู่ในระดับตำแหน่งงานเดียวกัน ส่วนที่เหลือเป็นรักที่เกิดระหว่างเจ้านายกับลูกน้องหรือผู้ที่อยู่ในระดับตำแหน่งงานต่างกันในต่างหน่วยงาน ในขณะที่หากจำแนกตามหน่วยงานจะพบว่า 7 ใน 10 ของคู่รักทำงานต่างฝ่าย/แผนก และ 3 ใน 10 คู่ทำงานในหน่วยงานเดียวกัน
          นายจุลเดช มัจฉิมานนท์ ตัวแทนผู้บริหารจาก จ็อบสตรีทดอทคอม ประเทศไทย เปิดเผยความเห็นของนายจ้างต่อความรักในที่ทำงานว่า “นายจ้างส่วนใหญ่เปิดไฟเขียวให้กับความรักในออฟฟิศตราบใดที่ไม่ส่งผลกระทบแง่ลบต่อการทำงาน เพราะความรักเป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ได้แต่พนักงานเองควรรู้จักแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานออกจากกัน เพราะหากไม่สามารถแยกแยะได้อาจส่งทบกระทบด้านลบต่อการทำงานได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น เกิดความลำเอียงในกรณีที่คู่รักคู่นั้นมีความเกี่ยวข้องกันในการประเมินผลการทำงาน, ทำงานได้แย่ลงหรือล่าช้าหากคู่รักอยู่ในช่วงที่มีปัญหาหรือทะเลาะกัน หรือเพื่อนร่วมงานอาจรู้สึกอึดอัดเมื่อต้องร่วมงานกับเพื่อนร่วมงานที่เป็นแฟนกันและอยู่ในหน่วยงานเดียวกัน”
          “สำหรับคนที่มีความรักในที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบใดก็ตาม หากรู้จักวางตัวให้เหมาะสม ไม่ว่าเพื่อนร่วมงานหรือแม้แต่หัวหน้างานก็ย่อมสนับสนุนและคอยเอาใจช่วย การมีความรักในออฟฟิศอาจเปลี่ยนให้คนๆ หนึ่งขยันขึ้น มาทำงานเร็วขึ้น หรือมีกำลังใจในการทำงานและสร้างผลงานได้มากขึ้น ทั้งนี้ หากคนที่มีความรักในที่ทำงานรู้จักใช้พลังด้านบวกเป็นแรงกระตุ้นในการทำงานย่อมสร้างโอกาสให้หน้าที่การงาน “รุ่ง” กว่าเดิมได้อย่างแน่นอน” นายจุลเดช กล่าวทิ้งท้าย


ข่าวจ็อบสตรีทดอทคอม+รักในที่ทำงานวันนี้

ลูกจ้างมุ่งนำโบนัสไปใช้หนี้เพิ่มขึ้น-เก็บออมลดลง จ็อบสตรีทดอทคอมเผยผลสำรวจลูกจ้าง 1 ใน 4 ไม่ได้รับโบนัสปี 2556

จ็อบสตรีทดอทคอมเผยผลสำรวจล่าสุด ลูกจ้างส่วนใหญ่ไม่พอใจกับโบนัสที่ได้รับคิดเป็น 72% โดยมี 44% ได้รับเงินโบนัสน้อยกว่า 20,000 บาท เมื่อสอบถามถึงการวางแผนกับโบนัสที่ได้รับ คำตอบ 3 อันดับแรก คือ ใช้หนี้, เก็บออม และนำไปใช้จ่ายหรือให้บุพการี ตามลำดับ ในขณะที่ลูกจ้างจำนวน 28% ในกลุ่มผู้ที่ตอบแบบสอบถามครั้งนี้ไม่ได้รับโบนัสในปีที่ผ่านมา นางสาวฐนาภรณ์ สถิตพันธุ์เวชา ผู้จัดการสาขาประเทศไทย บริษัท จัดหางาน จ็อบสตรีท (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “จ็อบสตรีทดอทคอมได้จัดทำแบบสำรวจการจ่าย

นายจ้างหวั่นเศรษฐกิจช่วงขาลง ฉุดตลาดแรงงานดิ่ง

จ็อบสตรีทดอทคอมเผยผลสำรวจภาพรวมตลาดแรงงานไทยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2556 พบว่าความมั่นใจต่อสถานการณ์การจ้างงานลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาโดยข้อมูลนี้เป็นการสำรวจความมั่นใจต่อการขยายตัวการจ้างงานของภาคอุตสาหกรรมในแต่ละไตรมาสของจ็อบสตรีทดอทคอมซึ่งใน...

ภาพข่าว: จ็อบสตรีทดอทคอมแนะทางลัดหางานยุคสามจีแก่ว่าที่บัณฑิตใหม่ ม.รังสิต

เมื่อเร็วๆ นี้ วิทยากรจากบริษัท จัดหางาน จ็อบสตรีท (ประเทศไทย) จำกัด นางสาวศรินยา เปรมปรีชากุล ได้เข้าร่วมงานปัจฉิมนิเทศประจำปี 2556 มหาวิทยาลัยรังสิต เพื่อแนะแนว “ทางลัดสู่การหางานในโลกยุคสามจี (3G)” แก่นักศึกษาปีที่ 4...

จ็อบสตรีทดอทอคอมเผย ปัญหาหลักองค์กร ลูกจ้างเปลี่ยนงานบ่อย

จ็อบสตรีทดอทคอมเผยผลสำรวจล่าสุด เรื่องแนวโน้มการเปลี่ยนงาน พบว่า 82% ขององค์กรที่ทำแบบสำรวจกำลังเผชิญกับปัญหาลูกจ้างมีแนวโน้มเปลี่ยนงานบ่อย และมองว่าลูกจ้างในกลุ่มเจนวาย (Gen Y) จะมีแนวโน้มการเปลี่ยนงานบ่อย โดย 95% คือ...

เว็บหางาน จะอยู่ หรือ จะไป ในยุคทองของโซเชียลเน็ตเวิร์ค

ผลสำรวจของจ็อบสตรีทดอทคอมเผยว่า นายจ้างส่วนใหญ่ยังคงเลือกใช้บริการจากเว็บไซต์หางานเป็นช่องทางหลักในการลงโฆษณาตำแหน่งงานว่าง คิด เป็นร้อยละ 91 นอกจากนี้ ยังพบว่า โซเชียลเน็ตเวิร์คและช่องทางโฆษณาอื่นๆ ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของนายจ้างได้...

ปฏิทินข่าวธุรกิจประจำวันนี้(17 กรกฎาคม 2556)

วันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2556 08.30 น. หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้จัดทำ โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ณ โรงแรมมิรา เคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น 08.30 น. คิง ออฟ ออโต้ โปรดักท์ จัดพิธีเปิดงาน “FAST Auto Show Thailand 2013” ณ ไบเทค บางนา 09.00 น....

ปฏิทินข่าวธุรกิจประจำวันพรุ่งนี้(17 กรกฎาคม 2556)

วันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2556 08.30 น. หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้จัดทำ โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ณ โรงแรมมิรา เคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น 08.30 น. คิง ออฟ ออโต้ โปรดักท์ จัดพิธีเปิดงาน “FAST Auto Show Thailand 2013” ณ ไบเทค บางนา 09...

จ็อบสตรีทดอทคอม จัดงานแถลงข่าว ในหัวข้อ “เว็บไซต์หางานกำลังจะตายหรือกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดในยุคโซเชียลเน็ตเวิร์คนี้?”

จ็อบสตรีทดอทคอม ขอเรียนเชิญท่านสื่อมวลชน ร่วมงานแถลงข่าวในหัวข้อ “เว็บไซต์หางานกำลังจะตายหรือกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดในยุคโซเชียลเน็ตเวิร์ค?” ในวันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2556 เวลา 09...

ทักษะด้านภาษาอังกฤษของแรงงานไทยต่ำกว่าเพื่อนบ้าน

จ็อบสตรีทดอทคอมเผยผลคะแนนเฉลี่ยและจัดอันดับทักษะด้านภาษาอังกฤษของคนทำงาน 5 ประเทศในกลุ่มอาเซียน จากจำนวน 1,540,785 คน ที่ทำแบบทดสอบวัดทักษะด้านภาษาอังกฤษผ่านโปรแกรม JobStreet ELA (JobStreet English Language Assessment) แบบประเมินความเข้า...