สภาวะตลาดวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2557 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,253.13-1,257.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG14 อยู่ที่ 19,640 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,620 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVG14 อยู่ที่ 671 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 671 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.06 น.ของวันที่ 05/02/14)
แนวโน้มวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2557
การประชุมอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันพฤหัสบดีนี้ นักลงทุนต่างจับตาดูว่า อีซีบี จะปรับลดหรือตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25 % ต่อไปในการประชุมหรือไม่ เนื่องจากจากอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนปรับลดสู่ระดับ 0.7 % ในเดือนมกราคม ทั้งนี้ หากอีซีบีไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงกลุ่มประเทศยูโรโซนที่ประกอบด้วยสมาชิก 18 ประเทศอาจจะประสบกับภาวะเงินฝืดในอนาคต แต่หากลดอัตราดอกเบี้ยลง จะกระตุ้นแรงขายในสกุลเงินยูโร และตลาดทองคำก็อาจร่วงลงหรืออ่อนตัวลงตามการเคลื่อนไหวของสกุลเงินยูโร นอกเหนือจากประเด็นดังกล่าวนักลงทุนคาดการณ์ว่าอาจมีความเป็นไปได้ในการดำเนินมาตรการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำระยะยาว (LTRO) อีกรอบ โดยธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซนจะสามารถกู้เงินจากอีซีบีในลักษณะรีไฟแนนซ์รอบปกติรายสัปดาห์ ซึ่งปริมาณการกู้เงินต่ำกว่าสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตามราคาทองคำถูกกดดันจากแนวโน้วที่สำนักงานงบประมาณสภาคองเกรส (CBO) หาทางปรับลดยอดขาดดุลได้หลังจากรายงานระบุว่า มีการปรับลดตัวเลขคาดการณ์ยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 5.14 แสนล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2014 โดยลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 5.60 แสนล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ แม้ว่าปัจจัยแวดล้อมของตลาดทองคำในขณะนี้จะไม่มีปัจจัยผลักดันราคาทองคำที่ชัดเจน ส่งผลให้ราคาทองคำมีในลักษณะการเคลื่อนไหวในกรอบ เนื่องจากปัจจัยที่เกิดขึ้นในขณะนี้ทำได้เพียงชี้นำราคาทองคำระยะสั้นๆ เบื้องต้นวายแอลจีประเมินแนวรับบริเวณ 1,246 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากราคาไม่หลุดโซนนี้ จะมีแรงดีดตัวขึ้นไป แต่หากไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้อาจเกิดแรงขายทำกำไรออกมา ต้องระวังการไหลลงสู่แนวรับที่ 1,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์และยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนให้เน้นไปที่การลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,246 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับดังกล่าวได้ จะเห็นการดีดตัวขึ้นระยะสั้นแต่หากราคาหลุดแนวรับดังกล่าว ราคาจะปรับตัวลงต่อ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,246 (19,300บาท) 1,230 (19,050บาท) 1,218 (18,870บาท)
แนวต้าน 1,265 (19,600บาท) 1,275 (19,750บาท) 1,285 (19,910บาท)
GOLD FUTURES (GFG14)
แนวรับ 1,246 (19,470บาท) 1,230 (19,220บาท) 1,218 (19,040บาท)
แนวต้าน 1,265 (19,770บาท) 1,275 (19,920บาท) 1,285 (20,080บาท)
SILVER FUTURES (SVG14)
แนวรับ 19.30 (663 บาท) 19.00 (653 บาท) 18.80 (646 บาท)
แนวต้าน 19.85 (681 บาท) 20.05 (687 บาท) 20.20 (692 บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.06 น.ของวันที่ 05/02/14)
แนวโน้มวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2557
การประชุมอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันพฤหัสบดีนี้ นักลงทุนต่างจับตาดูว่า อีซีบี จะปรับลดหรือตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25 % ต่อไปในการประชุมหรือไม่ เนื่องจากจากอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนปรับลดสู่ระดับ 0.7 % ในเดือนมกราคม ทั้งนี้ หากอีซีบีไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงกลุ่มประเทศยูโรโซนที่ประกอบด้วยสมาชิก 18 ประเทศอาจจะประสบกับภาวะเงินฝืดในอนาคต แต่หากลดอัตราดอกเบี้ยลง จะกระตุ้นแรงขายในสกุลเงินยูโร และตลาดทองคำก็อาจร่วงลงหรืออ่อนตัวลงตามการเคลื่อนไหวของสกุลเงินยูโร นอกเหนือจากประเด็นดังกล่าวนักลงทุนคาดการณ์ว่าอาจมีความเป็นไปได้ในการดำเนินมาตรการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำระยะยาว (LTRO) อีกรอบ โดยธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซนจะสามารถกู้เงินจากอีซีบีในลักษณะรีไฟแนนซ์รอบปกติรายสัปดาห์ ซึ่งปริมาณการกู้เงินต่ำกว่าสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตามราคาทองคำถูกกดดันจากแนวโน้วที่สำนักงานงบประมาณสภาคองเกรส (CBO) หาทางปรับลดยอดขาดดุลได้หลังจากรายงานระบุว่า มีการปรับลดตัวเลขคาดการณ์ยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 5.14 แสนล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2014 โดยลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 5.60 แสนล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ แม้ว่าปัจจัยแวดล้อมของตลาดทองคำในขณะนี้จะไม่มีปัจจัยผลักดันราคาทองคำที่ชัดเจน ส่งผลให้ราคาทองคำมีในลักษณะการเคลื่อนไหวในกรอบ เนื่องจากปัจจัยที่เกิดขึ้นในขณะนี้ทำได้เพียงชี้นำราคาทองคำระยะสั้นๆ เบื้องต้นวายแอลจีประเมินแนวรับบริเวณ 1,246 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากราคาไม่หลุดโซนนี้ จะมีแรงดีดตัวขึ้นไป แต่หากไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้อาจเกิดแรงขายทำกำไรออกมา ต้องระวังการไหลลงสู่แนวรับที่ 1,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์และยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนให้เน้นไปที่การลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,246 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับดังกล่าวได้ จะเห็นการดีดตัวขึ้นระยะสั้นแต่หากราคาหลุดแนวรับดังกล่าว ราคาจะปรับตัวลงต่อ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,246 (19,300บาท) 1,230 (19,050บาท) 1,218 (18,870บาท)
แนวต้าน 1,265 (19,600บาท) 1,275 (19,750บาท) 1,285 (19,910บาท)
GOLD FUTURES (GFG14)
แนวรับ 1,246 (19,470บาท) 1,230 (19,220บาท) 1,218 (19,040บาท)
แนวต้าน 1,265 (19,770บาท) 1,275 (19,920บาท) 1,285 (20,080บาท)
SILVER FUTURES (SVG14)
แนวรับ 19.30 (663 บาท) 19.00 (653 บาท) 18.80 (646 บาท)
แนวต้าน 19.85 (681 บาท) 20.05 (687 บาท) 20.20 (692 บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148
YLG ชี้ทองคำระยะยาวแข็งแกร่ง ลุ้นทดสอบ 3,500 ดอลลาร์อีกครั้ง ขานรับสถานการณ์ตะวันออกกลางทวีความตึงเครียด
SCB CIO มองเงินเฟ้อทั่วโลกเริ่มชะลอลงคาดเฟดคงดอกเบี้ย 5.50% แนะจับจังหวะลงทุนหุ้นจีน A-Share และไทยมูลค่ายังถูก