โรงงานผู้ผลิตรายใหญ่ในจังหวัดระยองถูกจับในข้อหาใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายและไม่มีไลเซ้นต์ในคอมพิวเตอร์เกือบทุกเครื่องที่ใช้ดำเนินธุรกิจ
          เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้รับแจ้งว่ามีการใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่มีไลเซ้นต์ในโรงงานผลิตโลหะที่มีมูลค่าทางธุรกิจสูงถึง 4,000 ล้านบาท ในจังหวัดระยอง โดยโรงงานดังกล่าวมีบทบาทสำคัญในระบบซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจพบคอมพิวเตอร์จำนวน 114 เครื่องที่ติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ไม่มีไลเซ้นต์ของออโตเดสก์ ไมโครซอฟท์ และไทยซอฟต์แวร์เอ็นเตอร์ไพรส์ ซอฟต์แวร์ดังกล่าวถูกใช้งานในทุกฝ่ายของโรงงาน ได้แก่ ฝ่ายบริหาร ทรัพยากรบุคคล และการเงิน ผู้ถือหุ้นใหญ่ของโรงงานแห่งนี้คือชาวญี่ปุ่น ถือ 90 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่อีก 10 เปอร์เซ็นต์ เป็นของผู้ถือหุ้นชาวไทย คดีนี้ถือเป็นหนึ่งในคดีจับกุมซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศไทย
เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นการใช้ซอฟต์แวร์ไม่มีไลเซ้นต์ในการดำเนินธุรกิจ 21 ครั้งในเดือนพฤษภาคม พบคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ติดตั้งซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายรวมทั้งหมด 260 เครื่อง ซอฟต์แวร์บางตัวมีมูลค่าเชิงพาณิชย์มากกว่า 100,000 บาท ถึงแม้ซอฟต์แวร์พจนานุกรมที่ผลิตโดย บริษัท ไทยซอฟต์แวร์เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด จะมีราคาจำหน่ายประมาณ 300 บาท แต่ก็เป็นหนึ่งในซอฟต์แวร์ที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์มากที่สุดในประเทศไทย
          องค์กรธุรกิจอีกหลายแห่งที่ถูกเข้าตรวจค้นและจับกุมในข้อหาใช้ซอฟต์แวร์ไม่มีไลเซ้นต์ในเดือนพฤษภาคม ได้แก่ องค์กรที่ทำธุรกิจด้านการวิจัย ขายสินค้า ออกแบบ ผลิตสินค้า ก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ ขนส่ง วิศวกรรม และให้คำปรึกษาทางธุรกิจ องค์กรธุรกิจที่เป็นโรงงานผลิตเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ถูกเข้าตรวจค้นและจับกุมมากที่สุดในเดือนพฤษภาคม พร้อมโรงงานผลิตเครื่องจักร ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับแสงสว่าง เฟอร์นิเจอร์ อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และผลิตภัณฑ์ยาง
          ในช่วงห้าเดือนแรกของปีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกตรวจค้นและจับกุมองค์กรธุรกิจเกือบ 100 แห่ง พร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์ 987 เครื่อง ที่มีซอฟต์แวร์ผิดกฎหมาย
          “การใช้ซอฟต์แวร์ผิดฎหมายเพื่อดำเนินธุรกิจ ไม่เพียงแต่ละเมิดพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 แต่ยังก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อระบบความปลอดภัยของเครื่องคอมพิวเตอร์” พ.ต.อ.ชัยณรงค์ เจริญไชยเนาว์ รองผู้บังคับการและโฆษก บก.ปอศ. กล่าว “เรารู้ว่าซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายทำให้เกิดช่องโหว่สำหรับการจู่โจมเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และฐานข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต การฉ้อโกงทางการเงิน การขโมยข้อมูล และการทำลายระบบความปลอดภัยของเครื่องคอมพิวเตอร์ และเราเชื่อว่าเครือข่ายองค์กรอาชญกรรมข้ามชาติมีส่วนเชื่อมโยงกับการแจกจ่ายซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายสำหรับใช้งานฟรี เพื่อเปิดช่องทางให้เข้ามาขโมยข้อมูล สำหรับประเทศไทย เราต้องลดและป้องกันไม่ให้มีการใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายและไม่มีไลเซ้นต์ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่ปลอดภัย”
          ภายใต้พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ผู้ที่กระทำความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์จะมีโทษจำคุกหรือปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ
          ผู้ที่แจ้งเบาะแสการใช้งานซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์และไม่มีไลเซ้นต์ผ่านทางสายด่วนที่ 02-714-1010 หรือรายงานทางออนไลน์จะได้รับเงินรางวัลสูงสุด 250,000 บาท โดยข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสจะถูกปิดไว้เป็นความลับ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าชมได้ที่ www.stop.in.th
                    
                            แคสเปอร์สกี้ แลป เผย โจรไซเบอร์ล่อผู้ใช้ติดตั้งซอฟต์แวร์ผิดกฎหมาย เพื่อใช้เป็นแหล่งขุดเงินคริปโต
                        
                            เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มความเข้มงวดจับกุมองค์กรธุรกิจละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์
                        
                            เพิ่มเงินรางวัลสำหรับเบาะแสการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ในองค์กรธุรกิจขึ้นถึง 4 เท่าเป็น 1 ล้านบาท
                        
                            บก.ปอศ. โชว์ผลงานยอดเยี่ยมในไตรมาสแรก ตรวจค้นองค์กรธุรกิจพบคอมพิวเตอร์กว่า 617 เครื่องติดตั้งใช้งานซอฟต์แวร์เถื่อนมูลค่ากว่า 97
                        
                            เปิดตัวโครงการ 'Safe Software, Safe Nation’
                        
                            ผลสำรวจบีเอสเอชี้ภัยคุกคามระบบความปลอดภัยคอมพิวเตอร์เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้คนไม่เลือกใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมาย
                        
                            ภาพข่าว: บก. ปอศ. เชิญผู้ผลิตพีซีและผู้จำหน่ายปลีก ร่วมระดมสมองลดปัญหาซอฟต์แวร์เถื่อน