รายงานล่าสุดชี้ว่าคู่สมรสไทยควรคาดการณ์ระยะเวลาหลังเกษียณให้ยาวนานขึ้นราว 7 ถึง 11 ปี ในการวางแผนเพื่อการเกษียณอายุ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

           Manulife Asset Management ออกรายงานผลศึกษาที่พบว่า คู่สมรสจำนวนมากในเอเชีย รวมทั้งประเทศไทย ประเมินช่วงเวลาวัยเกษียณไว้สั้นกว่าที่ควรจะเป็นมาก ทำให้มีโอกาสสูงที่จะเก็บเงินออมไว้ใช้ยามเกษียณไม่เพียงพอ
          รายงานฉบับดังกล่าว ซึ่งมีชื่อว่า “Live long and prosper? Retirement and longevity risk" (อายุยืนยาวแล้วทำให้มั่งคั่งจริงหรือ? การเกษียณกับความเสี่ยงของการมีอายุยืนยาว) เป็นรายงานฉบับที่ห้าในชุด “Aging Asia” ของ Manulife Asset Management โดยคาดการณ์ช่วงอายุวัยเกษียณและประเมินความเสี่ยงที่อายุจะยืนยาวหรือความเสี่ยงที่ผู้เกษียณจะยังมีชีวิตหลังไม่มีแหล่งรายได้แล้ว สำหรับคู่สมรสในสิบประเทศแถบภูมิภาคเอเชีย ซึ่งได้แก่ จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ เวียดนามและไทย
          Mr. Michael Dommermuth, President, International Asset Management, Manulife Asset Managemnet อธิบายว่า “เรารู้สึกว่า สถานะสมรสมักจะไม่นำมาพิจารณาในการวางแผนเกษียณกัน คนไทยส่วนใหญ่ยังคงเข้าสู่วัยเกษียณโดยมีคู่สมรสจึงจำเป็นต้องพิจารณาความเป็นไปได้ที่คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง (ซึ่งปกติจะเป็นฝ่ายภรรยาเนื่องจากผู้หญิงมีอายุขัยเฉลี่ยยาวนานกว่าผู้ชาย) จะมีอายุยืนกว่าอีกฝ่าย การไม่นำปัจจัยความเป็นไปได้ที่ฝ่ายหนึ่งจะมีอายุขัยยาวนานกว่าอีกฝ่ายมากมาพิจารณาอาจเพิ่มระดับความเสี่ยงของการยังมีชีวิตที่ยืนยาวกว่าเงินออมที่เก็บไว้ใช้หลังเกษียณ”
          นายต่อ อินทวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายว่า “รายงานฉบับนี้ระบุผลศึกษาที่ว่า คู่สมรสในประเทศไทยโดยเฉลี่ยแล้วจะใช้ชีวิตวัยเกษียณร่วมกันถึง 30.2 ปี ซึ่งชี้ให้เห็นความเสี่ยงของอายุยืนยาวในระดับสูงกว่าตลาดอื่นๆ ในเอเชีย โดยส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการที่คนไทยเกษียณค่อนข้างเร็ว เนื่องจากลูกจ้างทั้งภาคเอกชนและภาครัฐจำนวนมากอยู่ภายใต้ข้อบังคับของการเกษียณเมื่ออายุครบ 60 ปี
          อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงอายุยืนยาวอยู่ในระดับค่อนข้างสูงในหลายตลาดเนื่องจากพบว่าค่าความสัมพันธ์ระหว่างตัวเลขผลผลิตมวลรวมในประเทศต่อหัว (GDP per capita) ของประเทศ กับอายุขัยเฉลี่ยของคนในประเทศนั้นมีค่าสูงถึงร้อยละ 66[1] ดังนั้น อายุขัยและความเสี่ยงของการมีอายุยืนยาวในประเทศไทยอาจเพิ่มสูงขึ้นในอนาคตได้ เนื่องจากคาดการณ์ว่าเป็นประเทศที่จะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่งและมีรายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้นอีกหลายปีข้างหน้านี้ 2”
          Mr. Dommermuth กล่าวเสริมว่า “เป็นเรื่องสำคัญที่ควรตระหนักว่า แต่ละคนจะมีโอกาสถึงร้อยละ 50 ที่จะมีอายุยืนยาวกว่าระยะเวลาเฉลี่ยที่คาดไว้ ผลวิจัยของเราชี้ว่า สำหรับในไทยนั้น ความเสี่ยงที่เงินออมจะหมดลงก่อนสิ้นอายุขัยจะลดลงอย่างมาก หากคู่สมรสมีการเกษียณอายุช้าลง หรือ เพิ่มตัวแปรด้านระยะเวลาในการวางแผนทางการเงินให้ยาวนานขึ้นอีก 7 ถึง 11 ปี”
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานกำหนดนโยบายในภูมิภาคนี้ได้ดำเนินการเพื่อช่วยลดความเสี่ยงด้านการมีอายุยืนยาวของประชาชนบ้างแล้ว โดยมีรัฐบาลหลายแห่งพิจารณาเพิ่มอายุเกษียณราชการ ซึ่งแนวทางนี้อาจนำมาใช้ในไทยด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ งานวิจัยชุด “Aging Asia” ได้แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบในเรื่องความมั่นคงของรายได้ช่วงวัยเกษียณจะตกอยู่กับประชาชนมากขึ้น และหากมีการบริหารทรัพย์สินในครัวเรือนอย่างมีประสิทธิภาพโดยการแสวงหาโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร จะทำให้ช่วยลดความเสี่ยงสำหรับการมีเงินออมไม่เพียงพอไว้ใช้ยามเกษียณหากมีอายุยืนยาวได้
          นายต่ออธิบายเพิ่มเติมว่า “ในฐานะผู้ให้บริการทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) ได้เป็นส่วนหนึ่งที่คอยช่วยเหลือลูกค้าในการบริหารความมั่งคั่งและสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นผ่านทางเลือกการลงทุนที่สำคัญ คือ กองทุนรวม ซึ่งมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกองทุนต่างประเทศ กองทุนหุ้นไทย และกองทุนตลาดเงิน เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถกระจายเงินลงทุนในหลักทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศได้อย่างเหมาะสม
          ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แน่นอน รวมทั้งความผันผวนของตลาดไทยในปัจจุบัน เราจึงอยากแนะนำให้ผู้ลงทุนพิจารณากระจายการลงทุนจากในประเทศไปยังตลาดต่างประเทศด้วย โดยผู้ลงทุนสามารถเลือกกองทุนที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และตรงตามวัตถุประสงค์การลงทุนของผู้ลงทุนแต่ละราย ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนมีโอกาสในการสร้างมูลค่าเงินลงทุนให้สูงขึ้นสำหรับเงินออมไว้ใช้ยามเกษียณ หรือ ช่วยเพิ่มแหล่งรายได้ของครัวเรือนจากโอกาสในการได้รับเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ”

          รายงานชุด “Aging Asia” ของ Manulife Asset Management และเอกสารที่เกี่ยวข้องอ่านรายละเอียดได้ที่ www.manulife.com/agingasia




ข่าวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน+Manulife Asset Managementวันนี้

บลจ.ทิสโก้เปิด "ทริกเกอร์ทองคำ" คาดราคาทองโลกขึ้นจาก 4 ปัจจัยหนุน

บลจ.ทิสโก้จับจังหวะราคาทองคำย่อ เสนอขายกองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ ทริกเกอร์ 5M#1 (TGOLD5M1) มั่นใจราคาทองคำโลกจะปรับขึ้นจาก 4 ปัจจัยหนุน ได้แก่ 1. ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์โลกที่ยังคงอยู่ 2.ธนาคารกลางทั่วโลกยังทยอยซื้อทองคำเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ 3.ธนาคารกลางสหรัฐฯ จ่อลดดอกเบี้ยต่อหนุนค่าเงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่า 4.นักลงทุนทั่วโลกเพิ่มสัดส่วนทองคำให้พอร์ตเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan

BBLAM เสนอขาย IPO 'กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพ... BBLAM เสนอขาย IPO 'BP20/25(AI)' วันที่ 31 ต.ค. - 4 พ.ย. 2568 — BBLAM เสนอขาย IPO 'กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 20/25 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย' หรือ BP20/25(AI)...

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริ... KTAM เพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนกับ 2 กองทุน RMF "KT-Technology RMF และ KT-GESG RMF" IPO 28 ต.ค.-5 พ.ย. นี้ — นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลั...

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด... บลจ. ทิสโก้ จัดสัมมนา "ชีวิตดี๊ดี Happy 55+" หนุนสมาชิก PVD มีชีวิตหลังเกษียณมั่นคงและมีความสุข — บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (บลจ.ทิสโก้) ผ...

กลยุทธ์ลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีปีนี้ BBLA... โค้งสุดท้ายลดหย่อนภาษีปีนี้ BBLAM ชวนคนไทยเลือกลงทุนใน RMF และ Thai ESG ให้เท่าทันสถานการณ์โลก — กลยุทธ์ลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีปีนี้ BBLAM แนะนำให้เน้นตร...

กองทุน Enhanced Strategy ที่ผสานจุดแข็ง P... InnovestX จับมือ LH Fund เปิด IPO "LH GLOBAL ENHANCED FUND" — กองทุน Enhanced Strategy ที่ผสานจุดแข็ง Passive และ Active เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนเหนือดัชนี...

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (... บลจ.อีสท์สปริง จับมือ บล.กรุงศรี ขยายธุรกิจผู้แนะนำการลงทุนอิสระ เสริมศักยภาพบริการลูกค้า — บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด ร่วม...