รายงานฉบับดังกล่าว ซึ่งมีชื่อว่า “Live long and prosper? Retirement and longevity risk" (อายุยืนยาวแล้วทำให้มั่งคั่งจริงหรือ? การเกษียณกับความเสี่ยงของการมีอายุยืนยาว) เป็นรายงานฉบับที่ห้าในชุด “Aging Asia” ของ Manulife Asset Management โดยคาดการณ์ช่วงอายุวัยเกษียณและประเมินความเสี่ยงที่อายุจะยืนยาวหรือความเสี่ยงที่ผู้เกษียณจะยังมีชีวิตหลังไม่มีแหล่งรายได้แล้ว สำหรับคู่สมรสในสิบประเทศแถบภูมิภาคเอเชีย ซึ่งได้แก่ จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ เวียดนามและไทย
Mr. Michael Dommermuth, President, International Asset Management, Manulife Asset Managemnet อธิบายว่า “เรารู้สึกว่า สถานะสมรสมักจะไม่นำมาพิจารณาในการวางแผนเกษียณกัน คนไทยส่วนใหญ่ยังคงเข้าสู่วัยเกษียณโดยมีคู่สมรสจึงจำเป็นต้องพิจารณาความเป็นไปได้ที่คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง (ซึ่งปกติจะเป็นฝ่ายภรรยาเนื่องจากผู้หญิงมีอายุขัยเฉลี่ยยาวนานกว่าผู้ชาย) จะมีอายุยืนกว่าอีกฝ่าย การไม่นำปัจจัยความเป็นไปได้ที่ฝ่ายหนึ่งจะมีอายุขัยยาวนานกว่าอีกฝ่ายมากมาพิจารณาอาจเพิ่มระดับความเสี่ยงของการยังมีชีวิตที่ยืนยาวกว่าเงินออมที่เก็บไว้ใช้หลังเกษียณ”
นายต่อ อินทวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายว่า “รายงานฉบับนี้ระบุผลศึกษาที่ว่า คู่สมรสในประเทศไทยโดยเฉลี่ยแล้วจะใช้ชีวิตวัยเกษียณร่วมกันถึง 30.2 ปี ซึ่งชี้ให้เห็นความเสี่ยงของอายุยืนยาวในระดับสูงกว่าตลาดอื่นๆ ในเอเชีย โดยส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการที่คนไทยเกษียณค่อนข้างเร็ว เนื่องจากลูกจ้างทั้งภาคเอกชนและภาครัฐจำนวนมากอยู่ภายใต้ข้อบังคับของการเกษียณเมื่ออายุครบ 60 ปี
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงอายุยืนยาวอยู่ในระดับค่อนข้างสูงในหลายตลาดเนื่องจากพบว่าค่าความสัมพันธ์ระหว่างตัวเลขผลผลิตมวลรวมในประเทศต่อหัว (GDP per capita) ของประเทศ กับอายุขัยเฉลี่ยของคนในประเทศนั้นมีค่าสูงถึงร้อยละ 66[1] ดังนั้น อายุขัยและความเสี่ยงของการมีอายุยืนยาวในประเทศไทยอาจเพิ่มสูงขึ้นในอนาคตได้ เนื่องจากคาดการณ์ว่าเป็นประเทศที่จะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่งและมีรายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้นอีกหลายปีข้างหน้านี้ 2”
Mr. Dommermuth กล่าวเสริมว่า “เป็นเรื่องสำคัญที่ควรตระหนักว่า แต่ละคนจะมีโอกาสถึงร้อยละ 50 ที่จะมีอายุยืนยาวกว่าระยะเวลาเฉลี่ยที่คาดไว้ ผลวิจัยของเราชี้ว่า สำหรับในไทยนั้น ความเสี่ยงที่เงินออมจะหมดลงก่อนสิ้นอายุขัยจะลดลงอย่างมาก หากคู่สมรสมีการเกษียณอายุช้าลง หรือ เพิ่มตัวแปรด้านระยะเวลาในการวางแผนทางการเงินให้ยาวนานขึ้นอีก 7 ถึง 11 ปี”
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานกำหนดนโยบายในภูมิภาคนี้ได้ดำเนินการเพื่อช่วยลดความเสี่ยงด้านการมีอายุยืนยาวของประชาชนบ้างแล้ว โดยมีรัฐบาลหลายแห่งพิจารณาเพิ่มอายุเกษียณราชการ ซึ่งแนวทางนี้อาจนำมาใช้ในไทยด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ งานวิจัยชุด “Aging Asia” ได้แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบในเรื่องความมั่นคงของรายได้ช่วงวัยเกษียณจะตกอยู่กับประชาชนมากขึ้น และหากมีการบริหารทรัพย์สินในครัวเรือนอย่างมีประสิทธิภาพโดยการแสวงหาโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร จะทำให้ช่วยลดความเสี่ยงสำหรับการมีเงินออมไม่เพียงพอไว้ใช้ยามเกษียณหากมีอายุยืนยาวได้
นายต่ออธิบายเพิ่มเติมว่า “ในฐานะผู้ให้บริการทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) ได้เป็นส่วนหนึ่งที่คอยช่วยเหลือลูกค้าในการบริหารความมั่งคั่งและสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นผ่านทางเลือกการลงทุนที่สำคัญ คือ กองทุนรวม ซึ่งมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกองทุนต่างประเทศ กองทุนหุ้นไทย และกองทุนตลาดเงิน เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถกระจายเงินลงทุนในหลักทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศได้อย่างเหมาะสม
ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แน่นอน รวมทั้งความผันผวนของตลาดไทยในปัจจุบัน เราจึงอยากแนะนำให้ผู้ลงทุนพิจารณากระจายการลงทุนจากในประเทศไปยังตลาดต่างประเทศด้วย โดยผู้ลงทุนสามารถเลือกกองทุนที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และตรงตามวัตถุประสงค์การลงทุนของผู้ลงทุนแต่ละราย ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนมีโอกาสในการสร้างมูลค่าเงินลงทุนให้สูงขึ้นสำหรับเงินออมไว้ใช้ยามเกษียณ หรือ ช่วยเพิ่มแหล่งรายได้ของครัวเรือนจากโอกาสในการได้รับเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ”
รายงานชุด “Aging Asia” ของ Manulife Asset Management และเอกสารที่เกี่ยวข้องอ่านรายละเอียดได้ที่ www.manulife.com/agingasia
KTAM เอาใจสายลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี เปิด"KT-PRECIOUS RMF IPO 18-24 ธ.ค.นี้ เสริมพอร์ตด้วยสินทรัพย์ Real Value
บลจ.ทิสโก้เพิ่มทุน "TWORLD" เป็น 8,000 ล้านบาท รับความต้องการลูกค้า - ใช้เป็นกองทุนหลักของพอร์ต ลงทุนหุ้นโลก
บลจ.จิตตะ เวลธ์ คว้ารางวัลจาก ก.ล.ต. ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ย้ำภารกิจสร้างความมั่งคั่งให้คนไทยด้วยความรู้และเทคโนโลยี
KTAM เตรียมจ่ายปันผลและลดทุน กลุ่มกองทุนอสังหาฯ-อินฟราฯ Q3 ปี 68 กว่า 1.1 พันล้านบาท ในวันที่ 15 ธ.ค. และ 25 ธ.ค. นี้
KTAM มองโอกาสจากตราสารหนี้ทั่วโลก เสนอขาย "KTWC-INCOME RMF" IPO 11-17 ธ.ค.นี้ พร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
บลจ.ทิสโก้ ปลื้ม ! กองทุน TGSMART กระแสตอบรับดี ประกาศเพิ่มทุนเป็น 4,000 ล้านบาท
บลจ.ทิสโก้ ตัวจริงเรื่องทริกเกอร์ฟันด์ บริหาร กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ ทริกเกอร์ 5M#1 ถึงเป้าหมายใน 25 วัน
ธปท.แต่งตั้ง บลจ.ทิสโก้ ร่วมบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
BBLAM เสนอขาย IPO 'กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 10/25' วันที่ 3-8 ธ.ค. 2568