ไอดีซีเผย ยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนในไทยได้แซงหน้าฟีเจอร์โฟนได้สำเร็จเป็นครั้งแรก

           ไอดีซีได้เปิดเผยรายงานสถานการณ์ตลาดโทรศัพท์มือถือในประเทศไทยล่าสุด ซึ่งพบว่าระดับราคาของสมาร์ทโฟนที่ลดต่ำลงประกอบกับแรงผลักจากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ได้กระตุ้นความนิยมในสินค้าสมาร์ทโฟนจนมียอดจัดส่งสูงกว่าฟีเจอร์โฟนเป็นครั้งแรก ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจภายที่ซบเซา และปัญหาการเมืองที่นำไปสู่การประท้วงปิดถนนหลายจุดในกรุงเทพ

          ซึ่งนี่ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 3 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยอดจัดส่งของสมาร์ทโฟนแซงหน้าฟีเจอร์โฟนได้ ตามหลังสิงคโปร์และมาเลเซียที่ได้เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้

โดยในรายงานของไอดีซีที่ชื่อ Asia/Pacific Quarterly Mobile Phone Tracker ระบุว่า ยอดจัดส่งโทรศัพท์มือถือในไตรมาสที่ 1 ของไทย มีจำนวน 5.7 ล้านเครื่อง ซึ่งต่ำกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 7% โดยปัจจัยหลักมาจากการหดตัวลงถึง 27% ของตลาดฟีเจอร์โฟน ในขณะที่ตลาดสมาร์ทโฟนยังเติบโตได้ 27%

          นายเสฐียรพร สุวรรณสุภา นักวิเคราะห์สายงานศึกษาตลาดไคลเอนต์ดีไวซ์ ประจำไอดีซีประเทศไทยเผยว่า “การเปลี่ยนแปลงนี้ได้สะท้อนให้เห็นว่าสมาร์ทโฟนราคาถูกได้เข้ามาแทนที่ฟีเจอร์โฟนได้สำเร็จแล้ว ซึ่งปีที่แล้วเราไม่ได้เห็นสมาร์ทโฟนราคาต่ำกว่า 2,500 บาทเลย แต่ในปีนี้ยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนราคาถูกนี้คิดเป็น 20% ของยอดจัดส่งรวมแล้ว”

          “ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็มีส่วนผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ผ่านแคมเปญต่างๆ ที่กระตุ้นให้ผู้ใช้หันมาซื้อสมารท์โฟน 3จี มากขึ้น โดยถือว่าสอดคล้องกับสิ่งที่ไอดีซีได้คาดการณ์ไว้เมื่อต้นปีว่า ปีนี้จะเป็นปีแรกของไทยที่สมาร์ทโฟนสามารถเอาชนะฟีเจอร์โฟนได้”

          ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจและการเมืองของไทยจะยังคงอยู่ในสภาวะเปราะบาง แต่ตลาดสมาร์ทโฟนกลับไม่ได้รับผลกระทบแง่ลบดังเช่นตลาดพีซีและแท็บเล็ต ซึ่งเป็นเพราะปัจจุบันผู้ใช้ให้ความ สำคัญกับการสื่อสารแบบทุกที่และทุกเวลามากขึ้น และสมาร์ทโฟนเองก็สามารถแทนที่การใช้พีซีหรือแท็บเล็ตได้บางส่วนเช่นเดียวกัน

          “การใช้โทรศัพท์มือถือได้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของคนไทยแล้ว ดังนั้นเมื่อเครื่องที่ใช้ปัจจุบันเสียหาย ผู้ใช้มักจะซื้อเครื่องใหม่ทันทีโดยไม่รอ ส่งผลให้ยอดขายสมาร์ทโฟนยังเติบโตได้ดีสวนทางกับสภาพเศรษฐกิจ แต่กำลังซื้อที่ลดลงก็ได้ทำให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสมาร์ท โฟนราคาประหยัดมากขึ้น”