อิปปุโดะเปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1985 ในเมืองฮากาตะ (ฟูกุโอกะ) ที่ถือได้ว่าเป็นเมืองหลวงของราเมง โดยชิกามิ คาวาฮารา ผู้ได้รับสมยานามว่าเป็นราชาแห่งราเมง มีลูกค้ามากมายต่างเข้าแถวกันอย่างใจเย็นเพื่อที่จะได้ลิ้มลองน้ำซุปกระดูกหมู (ทงคตสึ) รสนุ่มละมุนลิ้นอันเลื่องชื่อซึ่งเข้ากันได้ดีกับเส้นราเมงเหนียวนุ่มทำเองสูตรเฉพาะของอิปปุโดะ อิปปุโดะนั้นมีมากกว่า 80 สาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น และมากกว่า 40 สาขาทั่วโลกในหลายๆ ประเทศ เช่น นิวยอร์ค, ซิดนีย์, ฮ่องกง สิงคโปร์, ไต้หวัน, โซล, เซี่ยงไฮ้, กัวลาลัมเปอร์, กวางเจา, เซินเจิ้น, ปักกิ่งและเฉินตู เป็นต้น
ทุกครั้งที่เข้าสู่ตลาดใหม่ ทางอิปปุโดะให้ความสำคัญมากในเรื่องการบริหารจัดการร้านให้เป็นไปอย่างมีระบบ ไม่ว่าจะเป็นด้านสถานที่หรือวัตถุดิบที่ใช้ คุณโทโมะยูกิ ยามาเนะ ผู้บริหารของชิการะโนโมโตะซึ่งเป็นบริษัทแม่ของอิปปุโดะ ได้ให้ข้อมูลว่า ปกติแล้วทางบริษัทจะทำการสำรวจสถานที่ถึง 30-40 ที่ ก่อนจะตัดสินใจเลือกสถานที่ที่เหมาะสมของแต่ละสาขา
“เรากวดขันทุกสิ่งอย่างเข้มงวด เพราะเราจริงจังมากในเรื่องของคุณภาพ, การบริการ, การทำงานและการออกแบบ เรามีมาตรฐานในแบบของเราเองและได้รับความร่วมมือที่ดีจากหุ้นส่วนจากประเทศไทยด้วย”
สาขาแรกในต่างประเทศของอิปปุโดะคือสาขาที่นิวยอร์ค คุณยามาเนะอธิบายว่า เพราะนิวยอร์คเต็มไปด้วยร้านอาหารจากนานาชาติมากมาย ซึ่งก็หมายความว่าเต็มไปด้วยความท้าทายด้วย “เมืองนี้ยังเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรม ทุกคนไปที่นั่นเพื่อสัมผัสกับเทรนด์และแฟชั่นใหม่ๆ”
เมื่อสาขาที่ต่างประเทศประสบความสำเร็จ อิปปุโดะก็ตัดสินใจเปิดสาขาในทวีปเอเชีย
“ตอนนั้นเราอยู่ในชวงทดลองตลาดในการบริหารธุรกิจของเราในสาขาต่างประเทศ เพราะเราก็ไม่ใช่บริษัทยักษ์ใหญ่” คุณยามาเนะกล่าว “แต่พอในปี ค.ศ. 2011 เราก็ขยายตัวอย่างรวดเร็วโดยการเปิดตัวที่สิงคโปร์ ตามด้วยเกาหลีใต้และฮ่องกง และยังมีอีกหลายประเทศรอบๆที่ต้องการให้เราเข้าไปเปิดสาขาใหม่ เห็นได้ชัดว่าการตลาดของเราได้ผล และผู้คนก็รู้จักเรากันมากขึ้น”
หลังจากที่เปิดตัวในประเทศมาเลเซียในปีที่แล้ว ทางบริษัทได้ตัดสินใจเปิดสาขาในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องอาหารที่หลากหลาย “เราทราบว่าการเปิดร้านอาหารอิปปุโดะในประเทศไทยจะไม่เป็นเรื่องง่ายแน่ๆ เพราะที่นี่มีอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยวหลายชนิดอยู่แล้ว แต่เราก็ยังรู้ว่าคนไทยชอบทานอาหารอร่อยๆและอาหารญี่ปุ่นก็เป็นที่นิยม เราจึงเล็งเห็นศักยภาพในตลาดของอิปปุโดะ”
ทางบริษัทได้ลงทุนไปหลายสิบล้านบาท ซึ่งรวมถึงการเปิดร้านและกลยุทธ์ทางการตลาดในการทำการค้าและการวางแผนเพื่อการขยายตัวไปในจังหวัดอื่นๆของประเทศไทยในอนาคต ร้านอิปปุโดะในกรุงเทพมีพื้นที่ 278 ตารางเมตร และสามารถรองรับลูกค้าได้ 96 ท่าน
บริษัท อิปปุโดะ ประเทศไทย จำกัด เปิดขึ้นเพื่อบริหารจัดการอิปปุโดะสาขานี้โดยเฉพาะ
คุณยามาเนะกล่าวว่า พวกเขามองหาโอกาสและสถานที่ที่เหมาะแก่การขยายสาขาตลอดเวลา แต่เรื่องตรงนั้นก็ต้องมีความพิถีพิถันเป็นอย่างมาก “หลังจากเปิดร้านที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่แล้ว เราอยากจะขยายสาขาในกรุงเทพฯอีกสัก 3-5 สาขา ก่อนจะเข้าไปลองตลาดในจังหวัดอื่นๆ เช่น ภูเก็ต เป็นต้น แต่จำนวนสาขาไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา แต่เป็นจำนวนลูกค้าที่เข้ามาและกลับมาทานอาหารของเรามากกว่า”
คุณยามาเนะยังให้สัมภาษณ์เพิ่มด้วยว่า อิปปุโดะได้วางเป้าหมายจะขยายตัวไปในเมืองอื่นๆทั่วโลก เช่น มะนิลา, จาการ์ต้า, ลอนดอน และสาขาที่สองในซิดนีย์
ปัจจุบัน อิปปุโดะได้ขยายสาขาไปทั่วญี่ปุ่นกว่า 80 สาขาและทั่วโลกอีก 40 สาขา ทั้งในนิวยอร์ค, ซิดนีย์, ฮ่องกง, สิงคโปร์, ไต้หวัน, , โซล, เซี่ยงไฮ้, กัวลาลัมเปอร์, กวางเจา, เซินเจิ้น, ปักกิ่งและเฉินตู ซึ่งปัจุบันอิปปุโดะนั้นได้รองรับลูกค้ากว่า 45,000 ท่าน ต่อวันเลยทีเดียว
คุณโนบุโตชิ ทาคาฮาชิ ผู้ซึ่งเป็นที่ปรึกษาฝ่ายปฏิบัติการได้รับมอบหมายให้เข้ามาดูแลร้านอาหารอิปปุโดะในประเทศไทย เพื่อรักษาคุณภาพของสินค้าและบริการให้เป็นไปตามมาตรฐาน คุณทาคาฮาชิเข้ามาทำงานกับอิปปุโดะในปี ค.ศ. 2011 และเคยทำงานทั้งในสาขาโยโกฮาม่าและโอซาก้ามาแล้ว เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าลูกค้าในประเทศไทยจะได้รับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่เป็นที่น่าจดจำ ด้วยการบริการและคุณภาพอาหารที่เป็นเลิศ
“สำหรับประเทศไทยแล้ว เราปรับเปลี่ยนวิธีปรุงอาหารเล็กน้อยเพื่อให้ถูกปากคนไทย อย่างที่เราทำในสาขาอื่นๆ” เขากล่าว และยังเสริมอีกว่าจะใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
คอนเซปต์ของอิปปุโดะที่นี่คือความมีชีวิตชีวา หรือใน “เกงกิ” ภาษาญี่ปุ่น “บริเวณครัวเปิดจะค่อนข้างเสียงดัง เพราะพนักงานต้องพูดคุยสื่อสารกัน เพราะเราเห็นว่าร้านอาหารนี้ก็เป็นเหมือนเวทีการแสดง ประสบการณ์การทานอาหารไม่ได้สำคัญที่อาหารเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงองค์ประกอบทุกอย่างในร้านอีกด้วย”
                                                                                                                                        
                                                                                                                            
                            
                            เติมความไบรท์ให้ผิวด้วยแป้งฝุ่นอัดแข็ง Faceup Pressed Powder จาก COVERMARK
                        
                            ONSENS เปิดตัว "PAK Massage" ร้านสะดวกนวด Flagship Store แห่งแรก เล็งขยาย 4 สาขาทั่วประเทศ ภายในปี 2569
                        
                            "สิงห์ เอสเตท" จับมือ "กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล" มอบประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟแก่ลูกค้า CENFINITY และลูกบ้านสิงห์ เอสเตท
                        
                            เซ็นทรัล รีเทล จับมือ บัตรเครดิต กรุงศรี มอบเครดิตเงินคืนสุดคุ้ม ตลอดเดือน พ.ย. 68
                        
                            ปัญญ์ปุริปักธงสู่ Global Brand เปิด Flagship Store สิงคโปร์ ทุ่มงบลงทุนกว่า 500 ล้านบาท ขยาย 50 สาขาทั่วโลก ตั้งเป้ารายได้แตะ 3,000 ล้านบาทภายในปี 2029
                        
                            เครื่องครัว MEYER (ไมย์เออร์) จับมือ ห้างเซ็นทรัล สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ ดึงคาแรคเตอร์การ์ตูนดัง ระดับไอคอนิกของโลก
                        
                            SABINA ร่วมมือพันธมิตร สานต่อแคมเปญ "เย็บเต้ารวมใจ สู้ภัยมะเร็งเต้านม" ปีที่ 19
                        
                            บางกอกออนเทรนด์ ย่านสุดปัง! ดังทุกฟีด
                        
                            บัตรเครดิตแพลทินัมกสิกรไทย อัปเกรดใหม่เป็น "บัตรเครดิต KBank PLUSTINUM*" พลัสสิทธิพิเศษใหม่ ให้ลูกค้าใช้จ่ายได้ทุกวันแบบไม่ต้องรอดีลพิเศษ