ปรับฐานเงินเดือนภาครัฐร้อยละ 8: พบกระทบเงินเฟ้อไม่มาก หากใช้งบประมาณขาดดุลเพิ่มเติมจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีกว่าการโยกงบประมาณส่วนอื่นมาปรับฐานเงินเดือน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

           ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยผลการศึกษาเรื่อง "การวิเคราะห์ผลกระทบของการปรับฐานเงินเดือนภาครัฐร้อยละ 8 ต่อระบบเศรษฐกิจด้วยแบบจำลอง CGE” ซึ่งงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากนโยบายของรัฐบาลที่จะปรับฐานเงินเดือนบุคลากรภาครัฐขึ้นโดยเฉลี่ย 8% โดยใช้แบบจำลอง Computable general equilibrium (CGE model) หรือแบบจำลองคำนวณดุลยภาพทุกส่วน โดยใช้ตารางปัจจัยการผลิตผลผลิตของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เป็นฐานข้อมูล ซึ่งในการวิเคราะห์มีสมมติฐานว่า การปรับฐานเงินเดือนจะทำการปรับขึ้น 8% ในเดือนเมษายน 2558 ทั้งนี้เป็นคนละส่วนกับการขึ้นเดือนตามผลงานปีละ 2 ครั้ง ไม่เกินปีละ 6% โดยการวิเคราะห์จะมี 2 กรณีคือ กรณีที่รัฐเพิ่มการขาดุลงบประมาณ และกรณีที่รัฐไม่เพิ่มการขาดดุลงบประมาณ ทั้งนี้การวิเคราะห์แบบจำลองได้สมมติให้ผลกระทบของการปรับฐานเงินเดือนขึ้น 8% ในเดือนเมษายน 2558 จะกระทบเศรษฐกิจปี 2558 ไปก่อนครึ่งหนึ่ง และผลกระทบอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือจะส่งผ่านต่อไปยังเศรษฐกิจปี 2559 ซึ่งผลการวิเคราะห์เป็นดังนี้1. ผลกระทบภาพรวมเศรษฐกิจ
          1.1 กรณีที่รัฐเพิ่มการขาดุลงบประมาณ นั่นคืองบประมาณที่ใช้ปรับฐานเงินเดือนเป็นการกู้เงินเพิ่มเติม ซึ่งผลของการปรับฐานเงินเดือนราชการขึ้น 8% ในเดือนเมษายน 2558 จะส่งผลต่อเศรษฐกิจในปี 2558 และปี 2559 ดังนี้ GDP ณ ราคาคงที่ (GDP ที่ขจัดผลของเงินเฟ้อแล้ว) จะเพิ่มขึ้น 0.005% จากแนวโน้มเดิม (เช่น ถ้าคาดว่า เศรษฐกิจปี 2558 และ ปี 2559 จะโต 5.00% เท่ากัน ด้วยผลของการปรับฐานเงินเดือนราชการขึ้น 8% เศรษฐกิจปี 2558 และปี 2559 จะโตเป็น 5.005%) ขณะที่GDP ที่เป็นตัวเงินจะเพิ่มขึ้นจากแนวโน้มเดิม 0.328% (หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 40,000 ล้านบาท) ดัชนีราคาผู้บริโภคหรืออัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นจากแนวโน้มเดิม 0.087% (เช่น ถ้าคาดว่าอัตราเงินเฟ้อปี 2558 และปี 2559 จะเป็น 2.5% ด้วยผลของการปรับฐานเงินเดือนราชการขึ้น 8% อัตราเงินเฟ้อปี 2558 และปี 2559 จะเพิ่มเป็น 2.587%) การบริโภคครัวเรือน ณ ราคาคงที่ลดลง 0.269% การบริโภคครัวเรือนที่เป็นตัวเงินเพิ่มขึ้น 0.357% การใช้จ่ายเพื่อบริโภคของรัฐบาลเพิ่มขึ้น 1.653% ดัชนีปริมาณการส่งออกแย่ลง 0.154% ดัชนีปริมาณการนำเข้าลดลง 0.005% ชั่วโมงการจ้างงานเพิ่มขึ้น 0.003%
          1.2 กรณีที่รัฐไม่เพิ่มการขาดุลงบประมาณ นั่นคืองบประมาณที่ใช้ปรับฐานเงินเดือนเป็นการโยกงบประมาณจากการใช้จ่ายส่วนอื่นมาทดแทน ซึ่งผลของการปรับฐานเงินเดือนราชการขึ้น 8% ในเดือนเมษายน 2558 จะส่งผลต่อเศรษฐกิจในปี 2558 และปี 2559 ดังนี้ การใช้จ่ายเพื่อบริโภคของรัฐบาลจะคงที่ตามสมมติฐาน GDP ณ ราคาคงที่ จะลดลง 0.148% จากแนวโน้มเดิม ขณะที่ GDP ที่เป็นตัวเงินเพิ่มขึ้นจากแนวโน้มเดิม 0.053% (หรือเพิ่มขึ้น 6,600 ล้านบาท) ดัชนีราคาผู้บริโภคหรืออัตราเงินเฟ้อลดลงจากแนวโน้มเดิม 0.010% การบริโภคครัวเรือน ณ ราคาคงที่เพิ่มขึ้น 0.060% การบริโภคครัวเรือนที่เป็นตัวเงินเพิ่มขึ้น 0.054% ดัชนีปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้น0.043% ดัชนีปริมาณการนำเข้าเพิ่มขึ้น 0.080% ชั่วโมงการจ้างงานลดลง 0.431%
 
ตาราง: แสดงผลกระทบภาพรวมต่อเศรษฐกิจภาพรวมปี 2558 และ 2559 จากการปรับฐานเงินเดือน 8%
 

 

%การเปลี่ยนแปลงจากแนวโน้มเดิม

ตัวชี้วัดเศรษฐกิจ

 (กรณีงบขาดดุลเพิ่มขึ้น)

 (กรณีงบขาดดุลคงที่)

GDP ณ ราคาคงที่ (Real GDP)

+0.005

-0.148

GDP ที่เป็นตัวเงิน (Nominal GDP)

+0.328

+0.053

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

+0.087

-0.010

การบริโภคครัวเรือน ณ ราคาคงที่

+0.269

+0.060

การบริโภคครัวเรือนที่เป็นตัวเงิน

+0.357

+0.054

การใช้จ่ายเพื่อบริโภคของรัฐบาล

+1.653

0

ดัชนีปริมาณการส่งออก

-0.154

+0.043

ดัชนีปริมาณการนำเข้า

+0.080

-0.005

ชั่วโมงการจ้างงานเฉลี่ย

+0.003

-0.431

 
           นอกจากนี้ในการวิเคราะห์เพิ่มเติมยังพบว่า หากรัฐสามารถใช้การขึ้นเงินเดือนในเชิงกลยุทธ์มากขึ้นเพื่อกระตุ้นและสร้างขวัญกำลังใจในการเพิ่มประสิทธิการทำงานของบุคลากรภาครัฐได้เพิ่มเพียงปีละ 1% พบว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวได้เพิ่มถึงปีละ 0.037% หรือประมาณปีละ 4,500 ล้านบาท

1. ผลกระทบเศรษฐกิจรายสาขา
1.1 กรณีที่รัฐเพิ่มการขาดุลงบประมาณ
2.1.1 สาขาที่ได้รับประโยชน์
สาขาเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายของครัวเรือน จะได้รับประโยชน์ อันได้แก่ (เรียงจากมากไปน้อย)
1) การให้บริการเสริมการขนส่งทางบก (การเช่ารถ ค่าทางด่วน ฯลฯ)
2) บริการชุมชนอื่น ๆ (องค์กรเพื่อการกุศลต่างๆ)
3) การเลี้ยงสัตว์ปีก
4) โรงภาพยนตร์
5) การผลิตขนมชนิดต่าง ๆ
6) อุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์และน้ำอัดลม
7) การประกันชีวิต
8) บริการบันเทิงและบริการสันทนาการ
9) การค้าปลีก
2.1.2 สาขาที่ได้รับผลกระทบ
ขณะที่สาขาที่จะได้รับผลกระทบเนื่องจากการสูญเสียความสามารถในการแข่งขันกับสินค้าต่างประเทศ อันได้แก่ (เรียงจากมากไปน้อย)
1) การทำเนื้อกระป๋องและผลิตภัณฑ์เนื้ออื่น ๆ
2) การผลิตเครื่องมือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ
3) การทำผลไม้และผักกระป๋องและการเก็บรักษาผักและผลไม้
4) การผลิตเครื่องดนตรีและเครื่องกีฬา

1.2 กรณีที่รัฐไม่เพิ่มการขาดุลงบประมาณ
2.1.1 สาขาที่ได้รับประโยชน์
ไม่มีสาขาเศรษฐกิจรับประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญ
2.2.2 สาขาที่ได้รับผลกระทบ
ขณะที่สาขาที่จะได้รับผลกระทบเนื่องจากรัฐโยกงบประมาณจากส่วนอื่นๆมาปรับฐานเงินเดือนราชการ อันได้แก่ (เรียงจากมากไปน้อย)
1) การบริหารราชการ
2) บริการการศึกษา
3) บริการทางการแพทย์และบริการทางอนามัยอื่น ๆ
4) การก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย
5) บริการสุขาภิบาลและบริการที่คล้ายคลึงกัน
6) สถาบันวิจัย


2. สรุปและข้อเสนอแนะ
          การปรับฐานเงินเดือน 8% ในเดือนเมษายน 2558 จะส่งผ่านผลกระทบต่อเศรษฐกิจปี 2558 และปี 2559 โดยในระยะสั้น (ประมาณ 2 ปี) การปรับฐานเงินเดือน 8% โดยใช้แหล่งงบประมาณจากการขาดดุลเพิ่มเติมนั้น เศรษฐกิจจะขยายตัวจากแนวโน้มเดิม 0.005% ซึ่งส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจมากกว่าการโยกงบประมาณจากส่วนอื่นมาทดแทน ซึ่งเศรษฐกิจจะหดตัวจากแนวโน้มเดิม 0.148% เนื่องจากหากทำการโยกงบประมาณจากส่วนอื่นมาปรับฐานเงินเดือน การใช้จ่ายของบุคลากรภาครัฐจะใช้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเพราะส่วนหนึ่งจะถูกออมไว้ ขณะที่การทำงบประมาณขาดดุลเพิ่มเติมจะเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินใหม่เข้าไปในระบบเศรษฐกิจอย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้สาขาเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับใช้จ่ายของครัวเรือนได้รับประโยชน์มากกว่าสาขาอื่นๆ ถึงแม้อัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้นจากแนวโน้มเดิม 0.087% แต่ก็ถือว่าไม่มาก และยังไม่ทำให้การจ้างงานลดลง ขณะที่การปรับฐานเงินเดือนโดยการโยกงบประมาณส่วนอื่นจะทำให้ชั่วโมงการจ้างงานลดลง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจที่กำลังต้องการความเชื่อมั่น อย่างไรก็ตามเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวแล้วก็ไม่ควรปรับฐานเงินเดือนราชการด้วยการเพิ่มการขาดดุลงบประมาณอีก กระนั้นก็ตามหากรัฐมีข้อจำกัดในการเพิ่มการขาดดุลงบประมาณกลางปี ก็จำต้องละทิ้งเป้าประสงค์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เหลือเพียงแต่เป้าประสงค์ในการดูแลค่าครองชีพของบุคลากรภาครัฐเท่านั้น นอกจากนี้หากประสิทธิภาพของบุคลากรภาครัฐที่เพิ่มขึ้นปีละ 1% จะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นปีละ 0.037% ดังนั้นการปรับขึ้นเงินเดือนของภาครัฐควรเป็นการปรับขึ้นเชิงกลยุทธ์มากขึ้นเพื่อจูงใจและสร้างขวัญกำลังใจให้บุคลากรภาครัฐทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อเกื้อหนุนการพัฒนาเศรษฐกิจไทย

          หมายเหตุ: นอกเหนือจากผลการวิเคราะห์ด้วยแบบจำลอง CGE แล้ว ความคิดเห็นอื่นๆ ในงานวิจัยนี้เป็นความเห็นของผู้รับผิดชอบโครงการ ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความเห็นของศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ข่าวศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน+มหาวิทยาลัยขอนแก่นวันนี้

ECBER ม.ขอนแก่น ร่วมกับ สสว. จัดสัมมนา “พลิกวิกฤติ พิชิตโอกาส: SMEs ผงาดในตลาด รัสเซีย มาเลเซีย เมียนมา & กัมพูชา”

ECBER ม.ขอนแก่น ร่วมกับ สสว. จัดสัมมนา “พลิกวิกฤติ พิชิตโอกาส: SMEs ผงาดในตลาด รัสเซีย มาเลเซีย เมียนมา & กัมพูชา” ชี้ช่องทางและโอกาส SMEs ไทย บุกตลาดส่งออก รัสเซีย มาเลเซีย เมียนมา และ กัมพูชา” สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ร่วมกับ ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดงานสัมมนา พลิกวิกฤติ พิชิตโอกาส: SMEs ผงาดในตลาด รัสเซีย มาเลเซีย เมียนมา & กัมพูชา” เพื่อเปิดให้ผู้ประกอบการไทยที่สนใจรับฟังประสบการณ์ตรงจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในตลาดรัสเซีย มาเลเซีย

ดร.วิมลกานต์ โกสุมาศ (แถวล่างที่ 2 ซ้าย) ... ภาพข่าว: สสว.จัดงาน Born Global Rising Star Demo Day — ดร.วิมลกานต์ โกสุมาศ (แถวล่างที่ 2 ซ้าย) รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อ...

ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจอีสานแย่ลงต่อเนื่อง 6 ไตรมาส แต่คะแนนด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลกระเตื้องขึ้นจากมาตรช่วยเหลือประชาชนช่วงปลายปี

วันนี้ (10 มกราคม 2562) อีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเผยผลสำรวจเรื่อง "ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะ...

ผลสำรวจเรื่อง "รางวัลแห่งปีของคนอีสาน ปี 2561”

รางวัลแห่งปีของคนอีสาน ปี 2561 วันนี้ (28 ธันวาคม พ.ศ. 2561) อีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยผลสำรวจเรื่อง "รางวัลแห่งปีของคนอีสาน ปี 2561" การสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิด...

“คนอีสานรุ่นใหม่กับการเมือง”

วันนี้ (9 พฤศจิกายน 2561) อีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยผลสำรวจเรื่อง "คนอีสานรุ่นใหม่กับการเมือง" พบคนอีสานรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ใช้ Facebook และ Youtube บ่อยมาก โดยมีความสนใจข่าวการเมืองเล็กน้อย ทั้งนี้...

เก็บคะแนนรางวัลแห่งปีของคนอีสานครึ่งปีแรก 2561

อีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยผลสำรวจเรื่อง "เก็บคะแนนรางวัลแห่งปีของคนอีสานครึ่งปีแรก 2561" การสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นของคนอีสานเกี่ยวกับบุคคล องค์กร ...

ผลสำรวจเรื่อง "ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจอีสานไตรมาส 2/2561”

วันนี้ (3 กรกฎาคม 2561) อีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเผยผลสำรวจเรื่อง "ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจอีสานไตรมาส 2/2561" ผลสำรวจพบว่า ความ...