เกษตรจังหวัดมหาสารคาม เตือนภัยโรคไหม้ข้าว เนื่องจากปีนี้เป็นปีที่มีอากาศร้อนและแห้งแล้ง ปริมาณฝนน้อยและล่าช้า พี่น้องเกษตรกรที่ทำนาจึงประสบปัญหา การขาดแคลนน้ำทำนา และทำนาล่าช้ากว่าปกติ หลังจากมีฝนตกลงมาบ้างพอที่จะเริ่มทำนาได้ พี่น้องเกษตรกร จึงเร่งการเจริญเติบโต ของข้าว ด้วยการใส่ปุ๋ยเคมีในปริมาณที่สูง โดยเฉพาะปุ๋ยไนโตรเจนหรือปุ๋ยยูเรีย
ว่าที่ ร.ต.จักรภัทร ผ่องโอภาส เกษตรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จากการที่นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรกลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดมหาสารคาม ลงพื้นที่เฝ้าสำรวจติดตามแปลงข้าวของเกษตรกรในพื้นที่ อำเภอเมืองมหาสารคาม พบการระบาดของโรคไหม้ข้าวในหลายพื้นที่และส่อเค้ารุนแรงกว่าทุกปี เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ในช่วงเดือนสิงหาคมมีร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีประมาณฝนตกชุก ทำให้มีสภาพอากาศเหมาะสม ต่อการเกิดโรคไหม้ข้าว และที่ผ่านมาพบว่ามีเกษตรกรมาขอรับบริการตรวจวินิจฉัยศัตรูพืช เป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่พบว่า เป็นอาการของโรคไหม้ข้าว เพื่อไม่ให้โรคไหม้ข้าวไม่ให้ขยายวงกว้างออกไป
เกษตรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวต่อไปว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดมหาสารคาม จึงขอแนะนำให้เกษตรกรที่ได้รับความเสียหาย ใช้วิธีการตัดใบข้าวก่อนสิ้นเดือนสิงหาคม 255๗ เพื่อให้ข้าวแตกใบใหม่ พร้อมงดใช้ปุ๋ยเคมีทุกชนิดในช่วงที่มีฝนตกและมีสภาพอากาศร้อนชื้น เนื่องจากเหมาะต่อการเจริญเติบโตและแพร่ระบาดของเชื้อรา พร้อมถ่ายทอดความรู้การผลิตและขยายเชื้อราไตรโคเดอร์มาหรือราเขียว ราที่เป็นประโยชน์และช่วยควบคุมโรคไหม้ข้าวให้แก่เกษตรกรนำไปใช้ในไร่นาหลังตัดใบข้าว รวมทั้งขอให้อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้าน เร่งประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรลดการใช้ปุ๋ยเคมีที่มีธาตุไนโตรเจนสูงเพื่อช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคต่อไป
เกษตรกรที่มีปัญหาด้านการเกษตร หรือมีปัญหาโรคแมลงศัตรูข้าวระบาดติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารทางราชการ ตั้งอยู่ที่ชั้น ๒ อาคารสำนักงานเกษตรจังหวัดมหาสารคามหมายเลขโทรศัพท์ ๐๔๓-๗๗๗๑๓๗ และสำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน หรือแจ้งโดยตรงกับเกษตรจังหวัดมหาสารคาม โทรศัพท์หมายเลข ๐๘๑-๗๙๐๕๒๕๖ และหมายเลข ๐๘๘-๕๔๙๗๙๔๔
บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด นำโดย นายสมบูรณ์ จินตนาผล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ร่วมกับ สำนักงานเกษตรจังหวัดมหาสารคาม จัดงานสัมมนา "เกษตรก้าวไกล ชาวนาไทย 4.0+" มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้องค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ในการปลูกข้าวอย่างมีประสิทธิภาพ นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตรเข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรพร้อมรับกับยุคเกษตร 4.0 ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งร่วมส่งมอบรถแทรกเตอร์พร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วง จำนวน 26 ชุด ให้แก่กลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาคุณภาพการผลิตและ