สถานภาพด้านการอนุรักษ์ของผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          ผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ซึ่งประกอบด้วยอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ปางสีดา ทับลาน ตาพระยาและ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงรักได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 29 เมื่อปี พ.ศ.2548 ที่เมืองเดอร์บัน แอฟริกาใต้ โดยมีคุณสมบัติการเป็นมรดกโลกตรงตามหลักเกณฑ์ ข้อที่ 10 นั่นคือ “เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดสัตว์และพันธุ์พืชที่หายาก หรือที่ตกอยู่ในสภาวะอันตราย แต่ยังคงสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ซึ่งรวมถึงระบบนิเวศอันเป็นแหล่งรวมความอุดมสมบูรณ์ของพืชและสัตว์ที่ทั่วโลกให้ความสนใจ”
          ในเอกสารที่เสนอให้ผืนป่าดงพญาเย็นเขาใหญ่ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติซึ่งลงนามโดยนายปลอดประสพ สุรัสวดี ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในสมัยนั้น (มกราคม 2547) ได้อธิบายถึงถนนสาย 304 ในฐานะภัยคุกคามจากการพัฒนาต่อความครบถ้วนสมบูรณ์ (integrity) ของผืนป่าดงพญาเย็นเขาใหญ่ว่า แต่เดิมก่อนที่จะมีการสร้างทางหลวงสายหลัก (2 ช่องทางจราจร) นั้น พื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นเส้นทางอพยพตามธรรมชาติเชื่อมผืนป่าซีกตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน และเน้นข้อเสนอให้มีแนวเชื่อมต่อระบบนิเวศในช่วง กม. 27-29 และช่วง กม. 42-48 โดยมิได้ระบุถึงการขยายช่วงถนนเป็น 4 ช่องทางจราจรแต่ประการใด
          การขยายทางหลวงหมายเลข 304 จาก 2 ช่องทางเป็น 4 ช่องทางจราจร เป็นที่รับรู้ในราวปี 2550 และตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน คณะกรรมการมรดกโลกร้องขอให้รัฐบาลไทยดำเนินการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม” (Environmental Impact Assessment) ของโครงการขยายทางหลวงหมายเลข 304 และการออกแบบแนวเชื่อมต่อระบบนิเวศของสัตว์ป่า (wildlife corridor) และจัดสรรงบประมาณเร่งด่วนเพื่อทำแนวเชื่อมต่อระบบนิเวศของสัตว์ป่า โดยเน้นย้ำข้อกังวลว่าโครงการขยายทางหลวงหมายเลข 304 มีศักยภาพในการสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นแก่ความสมบูรณ์ของระบบนิเวศและชนิดพันธุ์พืชและสัตว์ของผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ รวมทั้งสัตว์ป่าที่ตายตามท้องถนน (road kill) มีระดับเพิ่มขึ้น
          ในรายงานสถานภาพด้านการอนุรักษ์ (State of Conservation) คณะกรรมการมรดกโลกและองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) เน้นย้ำถึงแนวเชื่อมต่อระบบนิเวศว่าเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาความสมบูรณ์ของผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ในระยะยาวและเป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลไทยจะต้องระบุและเสนอแนวทางเชื่อมต่อระบบนิเวศที่ดีที่สุด บนหลักพื้นฐานทางนิเวศวิทยารวมถึงทางเลือกที่ได้พิจารณาตลอดจนข้อสรุปที่ชัดเจนของการขยายถนนที่มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อ “คุณค่าสากลที่โดดเด่น” (Outstanding Universal Value) ของผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่
          การที่ทางหลวง 304 นอกขอบเขตผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่มีการขยายเป็น 4 ช่องทางจราจรไปแล้วนั้น คณะกรรมการมรดกโลกและ IUCN แสดงความกังวลถึงการขยายถนนนอกผืนป่าโดยไม่ต้องดำเนินการบรรเทาผลกระทบที่เหมาะสมภายในผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่และไม่คำนึงถึงศักยภาพของผลกระทบเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มขึ้นของการจราจรบนทุกส่วนของถนน และไม่มีการควบคุมความเร็วของยานพาหนะ
          ในรายงานสถานภาพด้านการอนุรักษ์ปี 2556 ระบุว่า การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของพื้นที่เชื่อมต่อระบบนิเวศของสัตว์ป่าและโครงการขยายทางหลวงหมายเลข 304 (กิโลเมตร 26- 29) อยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ แต่คณะกรรมการมรดกโลกยังไม่ได้รับรายงานฉบับภาษาอังกฤษที่สมบูรณ์ ในรายงานที่ได้รับกล่าวถึงทางเลือกของแนวเชื่อมต่อระบบนิเวศของสัตว์ป่า และระบุตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด แต่ไม่ได้นำเสนอการประเมินทางเลือกที่แตกต่างกันและให้เพียงข้อมูลสรุปผลกระทบสิ่งแวดล้อมของทางเลือกที่ต้องการและมาตรการลดผลกระทบในระหว่างขั้นตอนการก่อสร้างเท่านั้น
          ข้อมูลไม่ได้นำเสนอข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบต่อคุณค่าความโดดเด่นอันเป็นสากล (Outstanding Universal Value) ของผืนป่า หรือรวมถึงรายละเอียดทรัพยากรที่มีอยู่ในการดำเนินการมาตรการลดผลกระทบ นอกจากนี้ ยังไม่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับมาตรการบรรเทาผลกระทบที่จะต้องดำเนินการ หลังจากขั้นตอนการก่อสร้าง IUCN พิจารณาว่าข้อมูลที่รัฐบาลไทยให้ไม่ได้มีรายละเอียดเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าการขยายทางหลวงหมายเลข 304 จะไม่เกิดผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญต่อความสมบูรณ์ของผืนป่าและคุณค่าที่โดดเด่นระดับสากล
          ต่อมาคณะทำงานของ IUCN ลงพื้นที่สำรวจผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่เมื่อวันที่ 13-17 มกราคม 2557 ขณะที่รัฐบาลไทยส่งรายงานสถานะด้านการอนุรักษ์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2557 และให้ข้อมูลเพิ่มเติม ในเดือนเมษายน 2557 เพื่อนำเสนอความคืบหน้าของปัญหาการอนุรักษ์ที่ยกขึ้นมาโดยคณะกรรมการมรดกโลกในที่ประชุมครั้งก่อน รวมถึงมาตรการลดผลกระทบจากการขยายทางหลวงหมายเลข 304 เป็น 4 ช่องทางจราจรและการสร้างแนวเชื่อมต่อระบบนิเวศของสัตว์ป่ารวมถึงมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม (การปลูกป่า การทำโป่งเทียม ฝายชะลอน้ำและรั้ว) และการจำกัดความเร็วของยานพาหนะ รวมทั้งการดำเนินการตามแผนจัดการสิ่งแวดล้อมมีกำหนดจะเริ่มในปี 2558
          การประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของการขยายทางหลวงหมายเลข 304 จากกิโลเมตร 26-29 และ 42-57 ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการ และล่าสุดคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติที่ตั้งขึ้นใหม่โดยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช) ก็ได้อนุมัติรายงาน
          แม้ว่ารัฐบาลไทยจะมีความคืบหน้าในการดำเนินงานและการวางแผนมาตรการลดผลกระทบจากการขยายทางหลวงหมายเลข 304 แต่คณะทำงาน IUCN ตั้งข้อสังเกตว่ามีแผนการเปิดถนน 3462 (จังหวัดสระแก้ว-น้ำตกปางสีดา มีระยะทาง 26 กิโลเมตร เดิมถนนเส้นนี้ไปทะลุถึงอำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา) ใหม่อีกครั้ง รวมถึงแผนการขยายทางหลวงหมายเลข 348 (สายอรัญประเทศ-นางรองหรือถนนธนะวิถี เป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่างภาคตะวันออกกับภาคอีสานตอนใต้) ซึ่งทั้งสองเส้นทางตัดข้ามผืนป่าฯ ทั้งสองแผนดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะมีผลกระทบเชิงลบต่อ “คุณค่าที่โดดเด่นระดับสากล” ของผืนป่าฯ เป็นอย่างมาก จึงแนะนำให้คณะกรรมการมรดกโลกเรียกร้องให้รัฐบาลไทยไม่อนุญาตให้เปิดเส้นทางอีกครั้งหรือการขยายถนนใดๆ ข้ามผืนป่าดงพญาเย็นเขาใหญ่
          ล่าสุด รายงานสถานภาพด้านการอนุรักษ์ปี 2557 เสนอให้คณะกรรมการมรดกโลกลงชื่อผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ใน “รายชื่อมรดกโลกที่อยู่ในอันตราย” อันเนื่องมาจากภัยคุกคามที่รุนแรงและเพิ่มขึ้นจากการลักลอบ ตัดไม้และการบุกรุกเข้าไปในเขตป่ารวมทั้งการขยายรีสอร์ทที่มีต่อ “คุณค่าความโดดเด่นอันเป็นสากล” ของผืนป่า ซึ่งตรงกับหลักเกณฑ์ในการลงชื่อผืนป่าฯ ใน “รายชื่อมรดกโลกที่อยู่ในอันตราย” (List of World Heritage in Danger) ตามย่อหน้า 180 ของคู่มือการดำเนินงาน (Operational Guidelines) ของแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ


ข่าวคณะกรรมการ+ดงพญาเย็นวันนี้

กทม. แจงประกวดราคาคัดเลือกซ่อมรถดับเพลิง 18 คัน ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ โปร่งใส และรอบคอบ

นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม. กล่าวกรณีมีข้อสังเกตการประกวดราคาด้วยวิธีประกวดราคาแบบคัดเลือก จ้างเหมาซ่อมรถดับเพลิงพร้อมบันไดสูงไม่น้อยกว่า 13 เมตร ยี่ห้อสไตเออร์ จำนวน 18 คัน พบความผิดปกติที่ส่อไปในทางทุจริตว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากบริษัท เทพยนต์ แอโรโมทีฟ อินดัสตรีส์ จำกัด ได้ทำหนังสือร้องเรียนถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกัน

นายณรงค์ รัฐอมฤต (กลาง) ประธานกรรมการและก... ผถห.TSE ไฟเขียวเพิ่มทุน 211.77 ล้านหุ้น ลุยขยายธุรกิจโรงไฟฟ้า - Healthcare - Wellness — นายณรงค์ รัฐอมฤต (กลาง) ประธานกรรมการและกรรมการอิสระ, ดร.แคทลีน มา...

นายวิทิต สัจจพงษ์ ประธานกรรมการบริษัท (กล... FVC ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 เดินหน้าขยายการลงทุน 3 ธุรกิจหนุนรายได้โต 25% — นายวิทิต สัจจพงษ์ ประธานกรรมการบริษัท (กลางขวา) นายวิจิตร เตชะเกษม ...

คุณชัยวัฒน์ ทองคำคูณ (แถวหน้าที่ 2 จากขวา... ผู้ถือหุ้น AMA พร้อมใจอนุมัติจ่ายปันผล 0.25 บ./หุ้น-รับเงิน 15 พ.ค.นี้ — คุณชัยวัฒน์ ทองคำคูณ (แถวหน้าที่ 2 จากขวา) ประธานกรรมการ คุณพิศาล รัชกิจประการ (ย...

ดร.จเรรัฐ ปิงคลาศัย (กลาง) รองประธานกรรมก... STX จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห. ไฟเขียวพร้อมอนุมัติจ่ายปันผลอีก 0.10 บาท — ดร.จเรรัฐ ปิงคลาศัย (กลาง) รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นายทรงวุธ เ...

นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ (ที่ 4 จากซ้าย) ประ... FPI ฉลุย! ผถห.อนุมัติปันผลอีก 0.04 บ./หุ้น รวมปี 67 จ่าย 0.08 บ./หุ้น — นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ (ที่ 4 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยคณะกรรมการแ...