ซีพีเอฟ เผยผลดำเนินงาน CSR ปี 2556 ภายใต้แนวคิด “อาหารมั่นคง เติมชีวิตที่ดี” เปิดแผนปี 2557 เตรียมผลักดัน CSR สู่ Supply Chain สร้างเส้นทางยั่งยืน

14 May 2014
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้าแผน CSR สู่ความยั่งยืน ตามหลักปรัชญา 3 ประโยชน์ที่บริษัทยึดมั่นเสมอมา คือ ต้องเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และ บริษัท ล่าสุด เผยผลการดำเนินงานด้าน CSR ผ่านรายงานความยั่งยืน (Sustainability Report) ปี2556 ภายใต้เแนวคิด “Food Security to Enrich Life: อาหารมั่นคง เติมชีวิตที่ดี” นำเสนอแนวทางการบริหารจัดการพร้อมผลการดำเนินงานของบริษัทตามกลยุทธ์ CSR องค์กรภายใต้ 3 เสาหลัก คือ อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และ ดินน้ำป่าคงอยู่ ในขณะเดียวกันก็พร้อมผลักดันแผน CSR สู่ Supply Chain เพื่อสร้างเส้นทางการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนตลอดห่วงโซ่การผลิตพร้อมส่งต่อไปถึงผู้บริโภค

นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ กล่าวว่า ในรอบปีที่ผ่านมา ซีพีเอฟ ทุ่มเทพัฒนาการดำเนินงาน CSR ให้สอดคล้องกับทิศทางกลยุทธ์ 3 เสาหลักสู่ความยั่งยืน” ตอบรับกับวิสัยทัศน์ “ครัวของโลก” โดยวางแผนการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาเส้นทางความสมดุลสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และ สิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน

“ช่วงปีที่ผ่านมาถือว่า เราได้พัฒนาเส้นทางอาหารมั่นคงผ่านการดำเนินงานที่โดดเด่น อาทิ การส่งเสริมคุณภาพความปลอดภัยอาหารและสุขอนามัยของผู้บริโภค โดยบริษัทมีศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D Center) ด้านอาหารสัตว์ การเลี้ยงและสายพันธุ์สัตว์ รวมถึงอาหารเพื่อการบริโภคจำนวน 79 แห่ง พร้อมศูนย์การเรียนรู้รวมกว่า 40 แห่ง ควบคู่ไปกับการดำเนินโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ที่ช่วยให้นักเรียนกว่า 96,000 คน จาก 480 โรงเรียนทั่วประเทศ ได้มีภาวะโภชนาการที่ดี นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างศักยภาพแก่เกษตรกรรายย่อยกว่า 5,000 ครอบครัว ผ่านโครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์แก่เกษตรกรรายย่อย หรือคอนแทรคฟาร์มมิ่ง (Contract Farming) เพื่อช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ ตลอดจนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน ซึ่งนำร่องในผลิตภัณฑ์ไก่สดและไก่ปรุงสุก และการจัดหาอย่างยั่งยืน ซึ่งนำร่องในวัตถุดิบหลักอย่างปลาป่น ผ่านแผนดำเนินการ 10 ประการตามแนวทางสนับสนุนการประมงอย่างยั่งยืน (CPF Fish Fight Ten-Point Plan) โดยบริษัทได้สนับสนุนเงินพิเศษรวมแล้วกว่า 48 ล้านบาท” นายวุฒิชัย กล่าว

นายวุฒิชัยกล่าวเสริมว่า “หัวใจสำคัญที่ช่วยให้องค์กรเดินหน้าแผน CSR อย่างมั่นคงและแข็งแรง คือ บุคลากร ที่ต่างมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรม CSR ด้านต่างๆร่วมกับองค์กร ที่ผ่านมา เรามีการแต่งตั้งและพัฒนา “CSR Leader” จากทุกสายธุรกิจทั้งหมด 78 คน เพื่อเป็นตัวแทนองค์กรในการสร้างความรู้ความเข้าใจด้าน CSR ไปสู่เพื่อนพนักงานคนอื่นๆ โดยหวังให้ CSR Leader เป็นตัวแทนดำเนินกิจกรรมให้เป็นไปตามกลยุทธ์ที่วางไว้ ทั้งยังมีการนำแนวคิด 4 ด้านมาเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรอย่างมีส่วนร่วม อันได้แก่ ขีด-คิด-ร่วม-ข่าย”

ทิศทาง CSR ของซีพีเอฟ ในปี 2557 มีแผนที่จะส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจในเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมต่อการดำเนินธุรกิจแก่คู่ค้าธุรกิจ หรือ CSR in Supply Chain ตามนโยบายและแนวปฏิบัติด้านการจัดหาอย่างยั่งยืน ซึ่งบริษัทได้พัฒนาขึ้นในปี 2556 โดยกำหนดนำร่องในผู้ส่งมอบวัตถุดิบหลักทางการเกษตรและเครื่องปรุงรส ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสัมพันธ์โดยตรงต่อคุณภาพ ความปลอดภัยอาหาร ตลอดจนสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการสานต่อการดำเนินงานสำคัญในเรื่องอื่นๆ

“การบริหารจัดการสู่ความยั่งยืน จำเป็นต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบตลอดทั้งกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ การดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นฐานสำคัญของความยั่งยืน จึงไม่สามารถจำกัดขอบเขตเพียงแค่ซีพีเอฟหรือคู่ค้าธุรกิจ แต่สิ่งสำคัญคือ การก้าวไปด้วยกัน โดย คู่ค้าธุรกิจ ถือเป็นห่วงโซ่สำคัญของความสำเร็จในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ ซึ่งการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐาน CSR ไม่เพียงแต่จะช่วยพัฒนาศักยภาพ ยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขัน และเสริมสร้างการเติบโตในระยะยาวไปด้วยกัน หากยังเป็นโอกาสให้บริษัทและคู่ค้าธุรกิจมีส่วนร่วมปรับปรุงและพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมโดยภาพรวมด้วย”

ซีพีเอฟ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม โดยกำหนดให้ CSR เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์องค์กร พร้อมจัดตั้งคณะกรรมการความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นตัวแทนของคณะกรรมการบริษัท นับตั้งแต่ปี 2555 และประกาศใช้ทิศทางกลยุทธ์ CSR สู่ความยั่งยืน เมื่อต้นปี 2556 ซึ่งเป็นที่มาของการทบทวนภาพรวมการดำเนินงาน นำมาสู่การปรับปรุงและพัฒนาต่อยอดแผนงาน เพื่อรวบรวมเป็นผลการดำเนินงาน CSR สู่ความยั่งยืนประจำปี โดยบริษัทได้จัดทำรายงานความยั่งยืนต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ตามกรอบสากล Global Reporting Initiative (GRI) 3.1 ซึ่งรายงานความยั่งยืนนี้ เป็นเสมือนเครื่องมือวัดและประเมินผลที่ช่วยให้บริษัทมองเห็นทั้งโอกาสและความท้าทาย นำไปสู่การพัฒนาแนวทางบริหารจัดการได้อย่างต่อเนื่องและปรับปรุงระบบการจัดเก็บข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น