SAWAD เคาะขาย IPO ราคา 6.90 บาทต่อหุ้น เปิดจอง 28-30 เม.ย.นี้ พร้อมเข้ากระดานเทรดต้นพฤษภา

24 Apr 2014
บมจ. ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 หรือ SAWAD ผู้ให้บริการสินเชื่อแบบมีหลักประกัน ภายใต้เครื่องหมาย การค้า “มีบ้าน มีรถ เงินสดทันใจ” เคาะราคาขาย IPO จำนวน 250 ล้านหุ้น ราคา 6.90 บาท ต่อหุ้น ในอัตรา P/E 11.9 เท่า คิดเป็นส่วนลด 23.7% เปิดจองซื้อตั้งแต่วันที่ 28-30 เมษายนนี้ ที่ บล.ชั้นนำทั้ง 6 ได้แก่ บล.เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) บล.เคที ซีมิโก้ จำกัด บล.โกลเบล็ก จำกัด บล.กสิกรไทย จำกัด บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด) และ บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน
SAWAD เคาะขาย IPO ราคา 6.90 บาทต่อหุ้น เปิดจอง 28-30 เม.ย.นี้ พร้อมเข้ากระดานเทรดต้นพฤษภา

นางสาวดวงใจ แก้วบุตตา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยว่า บริษัทฯ เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 250 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท คิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญเรียกชำระแล้วทั้งหมด ภายหลังจากการ เสนอขายครั้งนี้ ส่งผลให้บริษัทมีทุนจดทะเบียน เพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านบาท จาก 750 ล้านบาท และใช้ชื่อ “SAWAD” ในการซื้อขายหมวดธุรกิจการเงิน โดยมีบริษัทที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

วัตถุประสงค์ในการเสนอขายหุ้น เพื่อรองรับการขยายตัวในการปล่อยสินเชื่อและเงินทุนหมุนเวียน ในการดำเนินงาน ตลอดจนชำระคืนหนี้เงินกู้บางส่วน ซึ่งจะส่งผลให้โครงสร้างทางการเงินของบริษัทมีความ แข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นและมีการเติบโตทางธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาวภายใต้การบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ

“บริษัทฯ มั่นใจว่าผลประกอบการยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นการตอกย้ำถึง ความเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการสินเชื่อแบบมีหลักประกัน โดยใช้ทะเบียนรถทุกประเภท บ้านและโฉนด ที่ดิน เป็นหลักประกันที่ใกล้ชิดชุมชนด้วยประสบการณ์มายาวนานกว่า 30 ปี เนื่องจากมองว่าตลาดสินเชื่อ ทะเบียนรถ ยังจะสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บริษัทเองก็มีศักยภาพมากพอในการขยายธุรกิจทั้งระยะ ปานกลาง และระยะยาว ตามความต้องการใช้เงินของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทั้งในช่วงเศรษฐกิจที่มีอัตราการ ขยายตัวสูง หรือช่วงภาวะถดถอย โดยเน้นการขยายฐานลูกค้ารายใหม่ที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดเด่น การให้บริการที่สะดวกรวดเร็วผ่านสาขาที่มีอยู่ทุกภูมิภาคกว่า 600 แห่งทั่วประเทศ เพื่อความสะดวก ในการใช้บริการและเป็นทางเลือกทางการเงินเพื่อลดการพึ่งพาสินเชื่อนอกระบบให้แก่ลูกค้า” นางสาวดวงใจ กล่าว

ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส หรือ ASP ในฐานะแกนนำผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายในการเสนอขายหุ้น “SAWAD” กล่าวว่า จากการนำเสนอข้อมูลการขายหุ้นหรือโรดโชว์ให้แก่นักลงทุนทั้งประเภทสถาบันและนักลงทุนรายย่อยก่อนหน้านี้ได้รับการตอบรับที่ดีมาก เนื่องจาก SAWAD เป็นผู้ให้บริการทางการเงินที่เป็นที่รู้จักในอุตสาหกรรมมานาน มีความสามารถในการทำกำไรในอัตราที่สูง มีแนวโน้มการขยายตัวของธุรกิจที่มั่นคง และที่สำคัญ มีความสามารถในการควบคุมอัตราหนี้เสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนนโยบายจ่ายเงินปันผล ให้แก่ ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิอีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยแบบรถแลกเงินรายแรกที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งมีธุรกิจที่แตกต่างจากบริษัทกลุ่มเช่าซื้อที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน

สำหรับการเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ มีสัดส่วนการจัดสรรให้แก่นักลงทุนสถาบัน ประมาณร้อยละ 40 และนักลงทุนรายย่อยร้อยละ 60 ของหุ้นที่เสนอขายทั้งหมด ในราคา 6.90 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตรา P/E 11.9 เท่า (หรือคิดเป็นส่วนลดจาก P/E ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ 23.7%) โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ที่ร่วมจัดจำหน่าย 6 แห่ง ได้แก่ บล.เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) บล. เคที ซีมิโก้ จำกัด บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) บล.โกลเบล็ก จำกัด บล. ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด และ บล.กสิกรไทย จำกัด เสนอขายหุ้นตั้งแต่วันที่ 28-30 เมษายน 2557 และหุ้นจะเริ่มเข้าซื้อขายในตลาดวันแรก (First Day Trade) ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2557 นี้

ทั้งนี้ ผลประกอบการล่าสุดประจำปี 2556 บมจ. ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 (SAWAD) มีรายได้รวม 1,937 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 575 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิต่อรายได้รวม (Net Profit Margin) 30% ด้านฐานะการเงิน ณ สิ้นปี 2556 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมเท่ากับ 6,046 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนต่อ สินทรัพย์เฉลี่ย (ROA) อยู่ที่ 11% อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROE) อยู่ที่ 66% และมีอัตราหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับต่ำเพียงร้อยละ 3.7