เมื่อเร็วๆนี้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขและกลุ่ม NGO ต่อต้านยาสูบได้ออกมาระบุว่าจะเสนอร่างพ.ร.บ. ควบคุมการบริโภคยาสูบ เพื่อนำเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช. อนุมัติ
ร่างพ.ร.บ.ฯ นี้จะซ้ำเติมเรื่องรายได้และชีวิตความเป็นอยู่ของร้านค้าปลีกทั่วประเทศกว่า 500, 000 รายและชาวไร่ยาสูบทั่วประเทศกว่า 52,000 ครัวเรือน ซึ่งชาวไร่ยาสูบกลุ่มนี้ได้ปลูกข้าวด้วยเช่นกัน และเพิ่งจะฟื้นตัวจากปัญหานโยบายจำนำข้าว ดังนั้นร้านค้าปลีกและชาวไร่เห็นพ้องว่าคสช.ไม่ควรรับร่างพ.ร.บ. นี้ และควรเน้นการทำงานในประเด็นเร่งด่วนอื่นๆ ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยชาวไร่และร้านค้าต่างประสบปัญหาเศรษฐกิจถดถอยอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
นายสมนึก ยิ้มปิ่น ผู้จัดการสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์จ.สุโขทัย ซึ่งมีอาชีพทำนาด้วย กล่าวว่า “พวกเราขอขอบคุณคสช. ที่เร่งดำเนินการให้ชาวนาทั่วประเทศได้รับเงินจำนำข้าวที่ติดค้างมานานและทำให้ชาวนาต้องเผชิญภาวะกดดันจากหนี้สินมาตลอดในช่วงที่ผ่านมา ขณะนี้ปัญหาดังกล่าวได้เบาบางลงบ้างแล้ว พวกเราหวังว่าคสช. จะไม่ออกร่างกฎหมายใดๆ ที่ไม่ได้ผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบถึงผลกระทบรอบด้านมาซ้ำเติมชีวิตความเป็นอยู่และรายได้ของชาวไร่ ทั้งนี้สมาคมฯ ยินดีที่จะเข้าพบคสช.เพื่อชี้แจงผลกระทบที่กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้คำนึงให้ทางคสช.ได้รับทราบ หวังว่าคสช. จะพิจารณาให้โอกาสพวกเรา”
นับตั้งแต่ปี 2555 ที่มีการผลักดันร่างกฎหมายนี้ ชาวไร่ยาสูบในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมาคมชาวไร่ยาสูบทั้ง 7 จังหวัด สมาคมการค้ายาสูบไทย บริษัทยาสูบ ตลอดจนสหภาพแรงงานของโรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง และอีกหลายหน่วยงาน โดยมีการให้ความเห็นคัดค้านร่างพ.ร.บ.ฯ นี้ในการทำประชาพิจารณ์ในภาคต่างๆ และมีการส่งหนังสือถึงกระทรวงสาธารณสุขและส่วนราชการต่างๆ เพื่อให้แก้ไข ทบทวน และยกเลิกร่างฯ ดังกล่าว แต่กระทรวงสาธารณสุขก็ยังคงเดินหน้าผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าวโดยไม่สนใจต่อเสียงคัดค้านแต่อย่างใด
“ชาวไร่ยาสูบคัดค้านร่างกฎหมายฉบับนี้มาโดยตลอด กระทรวงการคลังและกรมสรรพสามิตซึ่งดูแลชาวไร่ยาสูบก็ไม่เห็นด้วยในหลายประเด็นและกังวลกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเร่งรีบออกกฎหมายนี้ เพราะ คสช. ยังมีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำอีกเป็นจำนวนมาก กฎหมายที่กระทบต่อคนจำนวนมากควรจะพิจารณาอย่างรอบด้าน กฎหมายนี้ควรชะลอไว้จนกว่าจะมีสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาที่เป็นตัวแทนของประชาชนมาพิจารณากฎหมาย” นายสงกรานต์ ภักดีจิตร นายกสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์ จังหวัดเพชรบูรณ์ ระบุ
ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขและกลุ่มต่อต้านยาสูบกำลังถือโอกาสใช้ประโยชน์จากคสช. และผลักดันร่างพ.ร.บ. ควบคุมการบริโภคยาสูบในช่วงที่เหตุการณ์กำลังวุ่นวาย ซี่งการกระทำเช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงภาวะบ้านเมืองไม่ปกติ โดยได้มีการขออนุมัติผ่านกฎหมายต่างๆ ซึ่งไม่มีการทบทวนและไม่รับฟังข้อโต้แย้งจากทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบ ดังนั้นทางชาวไร่ยาสูบและร้านค้าปลีกทั่วประเทศจึงรวมตัวกันวิงวอนให้คสช.ไม่เร่งรีบผ่านกฎหมายมาซ้ำเติมชาวไร่ยาสูบและร้านค้าที่เป็นรากหญ้าทั่วประเทศ
“พวกเราตระหนักดีว่าทางคสช. ต้องทำงานอย่างหนักและพิจารณากฎหมายหลายด้านเพื่อการปฏิรูปประเทศ อย่างไรก็ตามชาวไร่ยาสูบ ขอร้องให้ คสช. คำนึงถึงผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนที่เป็นรากหญ้าในต่างจังหวัดทั่วประเทศ เนื่องจากชาวไร่ยาสูบจะได้รับผลกระทบจากร่างกฎหมายนี้” นายอรุณ โปธิตา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 บ้านแม่ผาแหน ต.ออนใต้ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ตัวแทนชาวไร่บ่มเองภาคเหนือกล่าว
พ.ร.บ. ควบคุมการบริโภคยาสูบนั้นลิดรอนสิทธิเสรีภาพของกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยจะกีดกันร้านค้า ซึ่งรวมถึง ร้านค้ารายใหญ่อย่างร้านเซเว่นอีเลฟเว่น และเทสโก้ ในการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม การร่วมพันธมิตรกับภาครัฐ ห้ามการปฏิสัมพันธ์ระหว่างอุตสาหกรรมและภาครัฐ เพิ่มภาระให้กับร้านค้า และบังคับให้ภาคอุตสาหกรรมเปิดเผยข้อมูลสำคัญที่ถือเป็นความลับต่อหน่วยงานของรัฐและกลุ่ม NGO
“ร่างพ.ร.บ.ฯ นี้ เพิ่มภาระและความลำบาก อีกทั้งลิดรอนสิทธิในการค้าขายของร้านค้า ซึ่งมีหลายมาตราไม่มีเหตุผลและไม่ช่วยเรื่องการลดการบริโภคแต่อย่างใด สมาคมฯ เห็นว่า คสช. ควรให้ความสำคัญกับปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชนเป็นอันดับแรก กฎหมายฉบับนี้ยังมีปัญหาหลายส่วนที่ต้องแก้ไขทบทวนซึ่งควรรอให้มีการชลอไว้ ในขณะนี้ควรบังคับใช้กฎหมายปัจจุบันอย่างเข้มงวดจริงจังและเน้นให้ความรู้มากกว่าจะมาออกกฎหมายฉบับใหม่” นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าวเสริม
นายนพดล ศรีพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 4 ขอนแก่น (สศท.4) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการติดตามการดำเนินงานของกลุ่มแปลงใหญ่วิสาหกิจชุมชนกลุ่มมะม่วงส่งออกหนองแซง หมู่ที่ 9 ตำบลสำราญ อำเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ นับเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพการผลิตและแปรรูปมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง เพื่อการส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP ได้รับการรับรองมาตรฐานแหล่งแปรรูปตามมาตรฐาน GMP และได้รับมาตรฐาน อย. ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขเพื่อสร้างความมั่น
'สธ.-มข.-สครท.-ชสท.' เร่งพัฒนา "ผู้บริหารสาธารณสุขอำเภอระดับสูง รุ่นที่ 3" บูรณาการพื้นที่ส่งเสริมสุขภาพประชาชน รอบรู้ ห่างไกล NCDs
—
กรมอนามัย กระทรวงสาธ...
SEhRT กรมอนามัย สร้างความยั่งยืนด้านการจัดการสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อม ที่ประเทศเมียนมา ส่งทีมผลัด 4 ร่วมกับ EMT Thailand
—
อธิบดีกรมอนามัย มอบหมายผู้...
"วัย 3 ขวบปีแรกสำคัญ" กรมอนามัย-มูลนิธิศูนย์นมแม่ฯ-สสส. จับมือยกระดับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย สร้างเด็กไทยคุณภาพ
—
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ มูลนิธิศู...