BEAUTY เผย BIGLOT 30 ล้านหุ้น ขายสถาบันต่างประเทศ Franklin Templeton Investments สนใจลงทุนเชื่อมั่นธุรกิจเติบโต

05 Jun 2014
BEAUTY เผย BIGLOT 30 ล้านหุ้น ขายสถาบันต่างประเทศ Franklin Templeton Investments สนใจลงทุนเชื่อมั่นธุรกิจเติบโต ขยายตัวอีกมากทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน ระบุกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่เดินหน้าทำธุรกิจ คาดครึ่งปีหลังเติบโตกว่าเดิม กำลังซื้อผู้บริโภคมีแนวโน้มปรับตัวดี ลุยขยายสาขาใหม่ เพิ่มยอดขายสาขาเดิม และเพิ่มช่องทางจำหน่ายออนไลน์

นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิว เปิดเผยถึงการขาย Big Lot จำนวน 30 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 10 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ว่า ผู้ถือหุ้นเดิมได้ทำการจำหน่ายให้กับ Franklin Templeton Investments นักลงทุนสถาบันที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก ซึ่งมีความสนใจลงทุนในบริษัท

โดยรายละเอียดการทำ Big Lot ประกอบด้วย นางธัญญาภรณ์ ไกรภูเบศ ขายหุ้นจำนวน 26.25 ล้านหุ้น( ร้อยละ 8.75) สัดส่วนการถือหุ้นคงเหลือเท่ากับร้อยละ 12.92 นางทุเรียน ศรียงค์ ขายหุ้นจำนวน 2.25 ล้านหุ้น (ร้อยละ0.75) สัดส่วนการถือหุ้นคงเหลือเท่ากับร้อยละ 4.99 นางสาวมณสุธาทิพ มลาอัครนันท์ ขายหุ้นจำนวน 1.00 ล้านหุ้น (ร้อยละ 0.33) สัดส่วนการถือหุ้นคงเหลือเท่ากับร้อยละ 1 และนายปรัชญา เลวัน ขายหุ้นจำนวน 0.50 ล้านหุ้น (ร้อยละ 0.17) สัดส่วนการถือหุ้นคงเหลือเท่ากับร้อยละ 1.17

“Franklin Templeton Investments มีความสนใจและต้องการลงทุนในหุ้นของ BEAUTY ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อบริษัท ในแง่ที่เราได้รับความเชื่อมั่นจากสถาบันการเงินที่ลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพทั่วโลก ว่าเป็นกิจการที่มีพื้นฐานที่ดี มีการบริหารจัดการที่เป็นที่ยอมรับและทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทดีขึ้น การที่มีสถาบันการเงินมาลงทุนในหุ้นของบริษัทน่าจะทำให้โครงสร้างผู้ถือหุ้นของกิจการแข็งแรงขึ้น ซึ่งผมมั่นใจว่าจะเป็นผลบวกต่อบริษัท”นายแพทย์สุวิน กล่าว

อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทยังคงถือหุ้นใหญ่ และอำนาจในการบริหารงานไม่มีการเปลี่ยนแปลง คณะผู้บริหารมีความตั้งใจและความพร้อมในการขยายธุรกิจ เพื่อสร้างผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีหลังคาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นอีก เนื่องมาจากกำลังซื้อของผู้บริโภคมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับบริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์การทำงานของบุคลากร เพื่อสร้างยอดขายในสาขาเดิมให้มีการเติบโตมากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกันยังมุ่งเน้นขยายสาขาของ Shop Brand ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบรับความต้องการของตลาด และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้มากขึ้น โดยเน้นไปที่ช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านทางออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ เชื่อว่าจะสามารถสร้างการเติบโตของรายได้ไม่ต่ำกว่า 30% หรือ มีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 1,309 ล้านบาท และกำไรสุทธิเติบโตไม่ต่ำกว่า 20 % ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน

สำหรับเป้าหมายการขยายสาขาในประเทศปีนี้มีจำนวนทั้งสิ้นรวม 65 สาขา ประกอบด้วย ในประเทศ BEAUTY BUFFET 30 สาขา BEAUTY COTTAGE 20 สาขา และ BEAUTY MARKET 15 สาขา ต่างประเทศ มีแผนเปิดสาขา BEAUTY BUFFET และ BEAUTY COTTAGE ในกลุ่มประเทศ CLMV : กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม จำนวน 13 สาขา พร้อมกับขยายช่องทางจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ MADE IN NATURE ไปสู่โมเดิร์นเทรดต่างๆอย่างครอบคลุม

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit