นพ.ศรายุธ อุตตมางคพงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูฝน อากาศเย็นและชื้น เอื้อต่อการเจริญของเชื้อโรคต่างๆ รวมทั้งโรคมือ เท้า ปากแม้จะพบโรคนี้ได้ตลอดปี แต่จะพบมากที่สุดในช่วงฤดูฝน จากรายงานการเฝ้าระวังโรคมือ เท้า ปาก โดยสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 31 พ.ค. 2557 ทั่วประเทศมีรายงานผู้ป่วย 13,653 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด 1 ปี รองลงมา คือ 2 ปี และ 3 ปี ตามลำดับ ด้านรายงานสถานการณ์โรคที่เฝ้าระวังทางระบาดวิทยาในเขตพื้นที่เครือข่ายบริการที่ 8 และ 10 ซึ่งเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 พบว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 7 มิถุนายน 2557 มีรายงานผู้ป่วยทั้งสิ้น 1,354 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด คือ จ.อุบลราชธานี (พบผู้ป่วย 556 ราย) จ. ศรีสะเกษ (พบผู้ป่วย 318 ราย) จ. ยโสธร(พบผู้ป่วย 132 ราย) ตามลำดับ
นพ.ศรายุธ กล่าวต่อว่า เด็กที่ป่วยด้วยโรคมือ เท้า ปาก จะเริ่มด้วยอาการมีไข้ต่ำๆอ่อนเพลีย ต่อมาอีก1-2 วัน เด็กจะไม่ยอมดื่มนม หรือรับประทานอาหารเนื่องจากมีตุ่มแดงที่ลิ้น เหงือก และกระพุ้งแก้ม ตุ่มนี้จะกลายเป็นตุ่มแดงใส ต่อมาจะแตกออกเป็นแผลหลุมตื้นๆ จะพบตุ่มหรือผื่น ที่บริเวณผ่ามือ นิ้วมือ ฝ่าเท้า และอาจพบที่ก้นด้วย อาการจะทุเลาและหายเป็นปกติภายใน 7-10 วัน โรคนี้ไม่มียารักษาโดยเฉพาะ แพทย์จะให้ยารักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ ยาชาแก้เจ็บแผลในปาก ควรนอนพักผ่อนมากๆ เช็ดตัวเพื่อลดไข้เป็นระยะ และให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารอ่อน ไม่ร้อนจัด ดื่มน้ำ นม และผลไม้แช่เย็น เพื่อช่วยลดอาการเจ็บแผลในปากและรับประทานอาหารได้มากขึ้น ถ้าเป็นเด็กอ่อน อาจต้องป้อนนมให้แทนการดูดจากขวด ตามปกติโรคนี้มักไม่รุนแรง และไม่มีอาการแทรกซ้อน แต่เชื้อไวรัสบางชนิด เช่น เอนเทอโรไวรัส71 อาจทำให้มีอาการรุนแรงได้
“ถึงแม้ว่าโรคนี้ไม่มียารักษาเฉพาะ ไม่มีวัคซีนป้องกันโรค วิธีที่ลดการเจ็บป่วยดีที่สุดคือการป้องกัน โดยการรักษาสุขอนามัยที่ดี ตัดเล็บให้สั้น หมั่นล้างมือด้วยน้ำสบู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะหลังการขับถ่ายและก่อนรับประทานอาหาร รวมทั้งใช้ช้อนกลาง และไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน การป้องกันในโรงเรียนอนุบาล ศูนย์เด็กเล็ก หรือสถานรับเลี้ยงเด็ก หรือ ที่มีเด็กรวมอยู่ด้วยกันจำนวนมาก ต้องแยกเด็กป่วยที่เป็นโรคมือ เท้า ปาก ออกจากกลุ่มเพื่อนในโรงเรียน สถานเลี้ยงเด็ก โดยไม่ให้เด็กทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่น ๆ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ และต้องคอยทำความสะอาดพื้น ห้องน้ำ สุขา เครื่องใช้ ของเล่น สนามเด็กเล่น ตลอดจนเสื้อผ้า ที่อาจปนเปื้อนเชื้อด้วยนํ้ายาฆ่าเชื้อที่ใช้ทั่วไปภายในบ้าน หากมีเด็กป่วยจำนวนมาก อาจจำเป็นต้องปิดสถานที่ชั่วคราว (1-2 สัปดาห์) และทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคโดยอาจใช้สารละลายเจือจางของน้ำยาฟอกขาว 1 ส่วนผสมกับน้ำ 30 ส่วน หากผู้ปกครองสังเกตเห็นลูกมีอาการที่อาจมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ไข้สูง ซึม อาเจียนบ่อย ๆ หอบ แขนขาอ่อนแรง ไม่ยอมรับประทานอาหารและนํ้า รีบนำบุตรหลานมาพบแพทย์ ประชาชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ โทร. 025903159 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422”
ข้อความสำคัญ “ล้างมือบ่อยครั้ง ช่วยยับยั้งโรคมือเท้าปาก”
สคร.12 สงขลา ผนึกกำลังเครือข่ายสาธารณสุข ลงพื้นที่เฝ้าระวังเชิงรุกและป้องกัน ควบคุมโรคเลปโตสไปโรสิส หลังน้ำลดในพื้นที่ประสบอุทกภัย จังหวัดสงขลา
ฝนตกหนัก สคร.12 สงขลา เตือน โรคและภัยสุขภาพ ที่มากับน้ำท่วม พร้อมแนะวิธีการป้องกัน
สคร.12 สงขลา เตือน ปชช. เตรียมความพร้อมรับมือ หากเกิดน้ำท่วม (อุทกภัย) เน้นย้ำ ติดตามข้อมูลข่าวสารสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง
สคร.12 สงขลา ร่วมรณรงค์ วันเบาหวานโลก 2568 "สุขภาพดี เริ่มจากที่ทำงาน"
สคร.12 สงขลา แนะ "ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด" ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ พร้อมเน้นย้ำ "หยุด วงจร ไข้หวัดใหญ่ด้วย DMH"
ระวังบุตรหลานจมน้ำ ช่วงหน้าฝนและช่วงปิดเทอม สคร.12 สงขลา เตือนผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด
สคร.12 สงขลา เตือน โรคพิษสุนัขบ้า ติดเชื้อถึงตาย แนะ หากถูกสุนัขกัดให้รีบไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
สคร.12 สงขลา ชวนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อป้องกัน โรคหัวใจและหลอดเลือด เนื่องในวันหัวใจโลก 2568
สคร.12 สงขลา เตือนผู้ปกครอง ระวังบุตรหลาน ป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV)