นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าในวันนี้ว่ากระทรวงการคลังได้ออกพันธบัตรธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ที่เกิดจากโครงการรับจำนำข้าว วงเงิน 50,000 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นการออกพันธบัตรของรัฐวิสาหกิจในคราวเดียวกันที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ โดยได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดียิ่ง แสดงถึงความเชื่อมั่นในนโยบายของรัฐบาลและแนวทางการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ
สืบเนื่องจากรัฐบาลได้มีนโยบายเร่งด่วนในการแก้ปัญหาหนี้ที่เกิดขึ้นจากโครงการรับจำนำข้าวในช่วงที่ผ่านมาอย่างเป็นรูปธรรม กระทรวงการคลังร่วมกับ ธ.ก.ส. สำนักงบประมาณ และธนาคารแห่งประเทศไทย จึงได้ประชุมหารือร่วมกันกำหนดแผนการออกพันธบัตรของ ธ.ก.ส. โดยมีกระทรวงการคลังค้ำประกันต้นเงินและดอกเบี้ยตลอดอายุพันธบัตร และรัฐบาลรับภาระในการชำระคืนต้นเงินและดอกเบี้ย ซึ่งวัตถุประสงค์ในการออกพันธบัตรในครั้งนี้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ที่เกิดขึ้นจากโครงการรับจำนำให้สอดคล้องกับภาระทางการคลังและการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการได้อย่างเหมาะสมต่อไป
การออกพันธบัตรของ ธ.ก.ส. ในครั้งนี้ ประกอบด้วยการออกพันธบัตร ธ.ก.ส. พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 20 (Re-open ครั้งที่ 2) อายุคงเหลือ 3 ปี 10 เดือน ในอัตราผลตอบแทนร้อยละ 2.75 ต่อปี และพันธบัตร ธ.ก.ส. พ.ศ. 2558 ครั้งที่ 1 อายุ 7 ปี ในอัตราผลตอบแทนร้อยละ 3.01 ต่อปี ซึ่งจากการทำการสำรวจความต้องการลงทุนของนักลงทุน (Bookbuilding) ปรากฏว่ามีนักลงทุนแสดงความสนใจลงทุนในพันธบัตรทั้ง 2 รุ่น เป็นวงเงินรวมมากถึง 50,000 ล้านบาท แบ่งเป็นพันธบัตรรุ่นอายุคงเหลือ 3 ปี 10 เดือน วงเงิน 42,000 ล้านบาท และพันธบัตรรุ่นอายุ 7 ปี จำนวน 8,000 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรในรุ่นดังกล่าวมีสัดส่วนของนักลงทุนต่างๆ ที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน (Non-bank) รายใหม่โดยเฉพาะจากกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมให้ความสนใจลงทุนเป็นจำนวนมาก
นายกฤษฎา อุทยานิน ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่าการออกพันธบัตรดังกล่าวนับเป็นการจัดหาเงินกู้ของรัฐวิสาหกิจในคราวเดียวกันที่มีวงเงินสูงที่สุด แสดงถึงความเชื่อมั่นและได้การตอบรับข้อเสนอที่ดีจากสถาบันการเงินและนักลงทุนต่างๆ โดยเงื่อนไขอัตราผลตอบแทนในการออกพันธบัตรดังกล่าวถือเป็นต้นทุนที่เหมาะสมภายใต้ภาวะตลาดการเงินที่ผันผวนในปัจจุบัน โดยมีสัดส่วน Non-bank ที่ให้ความสนใจซื้อพันธบัตรครั้งนี้เพิ่มมากขึ้นเป็นร้อยละ 27.3 เปรียบเทียบกับสัดส่วน Non-bank ที่ซื้อพันธบัตร ธ.ก.ส. ในช่วงที่ผ่านมาซึ่งมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 8.7-14.2 แสดงให้เห็นถึงการสร้างและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ของรัฐวิสาหกิจเพื่อรองรับการระดมเงินต่อไปในอนาคตได้อย่างมีศักยภาพต่อไป
ทั้งนี้ การเสนอขายพันธบัตร ธ.ก.ส. ในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากตัวแทนจำหน่ายพันธบัตรประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) และธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด (สาขากรุงเทพฯ)
วว. ผนึกกำลัง ธ.ก.ส. สร้างระบบเศรษฐกิจฐานรากเข้มแข็ง เสริมแกร่งเกษตรกรไทยให้มั่นคงยั่งยืน
ธ.ก.ส. จับมือ บช.สอท. เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ "บริการแจ้งเตือนภัยมิจฉาชีพ" ยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ผ่าน LINE Official BAAC Family
ไอคอนสยาม จับมือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาดโปรโมชันฉลองสงกรานต์ ช็อปให้ฉ่ำรับของรางวัลใหญ่ รวมมูลค่ากว่า 3.7 ล้านบาท
วว. / ธ.ก.ส. หารือแนวทางนำเทคโนโลยีเกษตร ชีวภาพ อาหาร ต่อยอดดำเนินงานร่วมกันในปี 2568
สทบ.จับมือ กรมปศุสัตว์และธกส. ชวนเกษตรกรไทย ร่วมงาน มหกรรม "โคแสนล้าน" ระหว่างวันที่ 23-24 พ.ย.67 จ.มหาสารคาม
Optical88 ตอกย้ำความมั่นใจในคุณภาพ หลังคว้ารางวัลความเป็นเลิศด้านบริการแห่งปี เป็นครั้งที่ 2 ในงานมอบรางวัล THAILAND TOP ENTREPRENEUR 2024
PTG ผนึกมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ-กรมป่าไม้-ธ.ก.ส. ส่งเสริมการปลูกกาแฟอาราบิก้า และพืชเศรษฐกิจยั่งยืน หนุนเกษตรกรมีชีวิตอยู่ดีมีสุข -ส่งตรง "กาแฟพันธุ์ไทย"
บมจ. เออาร์ไอพี และ ม.หอการค้าไทย มอบรางวัล THAILAND TOP ENTREPRENEUR AWARDS 2024 สร้างแรงบันดาลใจให้ธุรกิจยั่งยืน
ธ.ก.ส. เปิดบริการตรวจเครดิตบูโรผ่านแอป ฯ "BAAC Mobile" เช็กสุขภาพการเงิน ป้องกันภัยไซเบอร์ทางการเงิน