กสท. มอบอนุฯเนื้อหา ฟันธงช่องการเมืองตามกรอบ MOU ร่างรวมกลุ่มวิชาชีพสื่อเลื่อนพิจารณาครั้งหน้า

          นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยผลความคืบหน้า มติการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) ต่อกรณีเรื่องร้องเรียนการออกอากาศรายการโทรทัศน์ 4 ช่องการเมือง ได้แก่ PEACE TV, 24 TV, ฟ้าวันใหม่ และ 1 TV ซึ่ง นางสาวสุภิญญา กล่าวว่า เรื่องนี้ใช้เวลาพิจารณากันนานพอสมควร ถึงฐานความผิดตามมาตรา 37 ของ พ.ร.บ. ประกอบกิจการกระจายเสียงฯ พ.ศ.2551 ที่ยังคลุมเครือ แต่เนื่องจากมีจุดยึดโยงกับการลงนามบันทึกข้อตกลง หรือ MOU ระหว่าง กสทช.กับผู้ประกอบการที่เคยทำไว้หลังจากถูกระงับช่องไป บอร์ด กสท. จึงมีมติมอบหมายให้คณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหา กลับไปพิจารณาว่าขัดกับกรอบ MOU ที่เคยทำไว้หรือไม่อย่างไร รวมทั้งเพื่อความรอบคอบและเป็นธรรมกับผู้ประกอบการด้วย อย่างไรต้องรอผลการพิจารณาของอนุกรรมการฯส่งกลับมายังกสท.อีกครั้ง
ส่วนผลการประชุม วาระ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่องมาตรการส่งเสริมการรวมกลุ่มของผู้รับใบอนุญาต ผู้ผลิตรายการและผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชนที่เกี่ยวกับกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. ... ซึ่งบอร์ดได้เลื่อนการพิจารณาออกไปในวันจันทร์หน้า โดยหากผ่านร่างฯนี้แล้ว จะเสนอบอร์ดใหญ่ กสทช. ในการประชุมวันที่ 17 ธ.ค. เพื่อประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาต่อไป หากองค์กรวิชาชีพสื่อมีความเห็นต่างหรือขัดแย้งอย่างไร สามารถส่งความเห็นมาได้ในสัปดาห์นี้
          “ร่างฯส่งเสริมการรวมกลุ่มของวิชาชีพสื่อ ฉบับนี้ มีเจตนารมณ์เพื่อส่งเสริมการกำกับดูแลของวิชาชีพ รวมทั้งเพื่อป้องกันการใช้อำนาจตามมาตรา 37 และลดการใช้อำนาจทางกฎหมายของ กสทช. ฝากถึงองค์กรวิชาชีพช่วยพิจารณาแนวทางไหนที่ควรจะเป็น เพราะส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่ กสทช.ใช้อำนาจวินิจฉัยตามมาตรา 37 มากไป แต่ควรส่งเสริมให้สื่อมีการรวมกลุ่มกันตามร่างประกาศฯ ฉบับนี้มากกว่า” นางสาวสุภิญญา กล่าว