นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการหรือร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารนมไทย และสมาคมอุตสาหกรรมนมและอาหาร ว่า ตามที่ผู้แทนสมาคมฯ ได้เข้าพบและเสนอให้กระทรวงเกษตรฯพิจารณาการเพิ่มโควตานําเข้านมผงขาดมันเนยเพิ่มขึ้นตามข้อผูกพันกับองค์การการค้าโลก (WTO) จำนวน 55,000 ตัน/ปี และความ ตกลงเขตการค้าเสรี ไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) 2,500 ตัน/ปี เนื่องจากปริมาณที่ได้รับการจัดสรรไม่เพียงพอกับปริมาณความต้องการใช้ของอุตสาหกรรมภายในประเทศ
อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ ยังไม่สามารถพิจาณาให้นำเข้าได้ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดถึงปริมาณความต้องการใช้ที่แท้จริงทั้งปริมาณความต้องการการใช้นมสดจากภายในประเทศและปริมาณนมผงขาดมันเนยที่ต้องการนำเข้า จึงขอให้ผู้ประกอบการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปรวบรวมความต้องการใช้ทั้งหมด และประมาณการความต้องการใช้ในระยะเวลา 3-5 ปีข้างหน้าด้วยเพื่อประกอบการตัดสินใจของคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม หรือมิลค์บอร์ด เพื่อพิจารณาในการจัดสรรโควตาต่อไป โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณา คือ หากเพิ่มโควตานำเข้านมผง ต้องไม่กระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในประเทศ รวมถึงภาคเอกชนจะสามารถดำเนินการรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรได้แค่ไหนอย่างไร ซึ่งได้มอบหมายให้กรมปศุสัตว์ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย สหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนม และกลุ่มอุตสาหกรรมนม ไปทำข้อมูลแนวโน้มการขยายตัวของการใช้น้ำนมดิบมาหารือให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อเตรียมวางการจัดสรรโควต้าการนำเข้านมผงขาดมันเนยในปี 2558 ซึ่งหากจะมีการจัดสรรโควตาที่เพิ่มขึ้นจะต้องนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit