ภาคตะวันออกมีสัดส่วนมากที่สุดในตลาดนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยโดยอยู่ที่ประมาณ 70% ตามมาด้วยภาคกลางที่ประมาณ 25% โดยที่เกือบ 100% ของพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยอยู่ในภาคตะวันออกและภาคกลาง ในขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีสัดส่วนน้อยที่สุด นิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งอยู่ในภาคตะวันออก โดยเฉพาะในจังหวัดชลบุรี และระยอง เนื่องจากมีท่าเรือน้ำลึก 2 แห่งของประเทศไทยตั้งอยู่ที่นั่น
พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมประมาณ 18,500 ไร่ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและมีกำหนดแล้วเสร็จพร้อมดำเนินการในครึ่งหลังปีพ.ศ.2557 ในขณะที่มีพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมประมาณ 96,450 ไร่จะเข้าสู่ตลาดในอนาคต โดยภาคใต้มีพื้นที่มากที่สุดคือประมาณ 39% หรือ 37,800 ไร่ ของจำนวนอุปทานในอนาคตทั้งหมด ตามมาด้วยภาคตะวันออกที่ประมาณ 36% ในขณะที่ทำเลอื่นๆ ยังคงต่ำกว่าภาคตะวันออก และภาคใต้อย่างเห็นได้ชัด
อัตราการครอบครองพื้นที่เฉลี่ยของทุกนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทย ณ ครึ่งแรกปีพ.ศ.2557 อยู่ที่ประมาณ 88% เพิ่มขึ้นประมาณ 3% จากปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาการเมืองมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนชาวไทย และต่างชาติ หลังจากที่คสช. เข้ายึดอำนาจและจัดการปัญหาการเมืองที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมจึงเริ่มมีการขายได้มากขึ้น อัตราการครอบครองพื้นที่ในภาคกลาง และภาคตะวันออกอยู่ที่ประมาณ 89% สูงกว่าทำเลอื่นๆ แม้ว่าทั้ง 2 ทำเลดังกล่าวจะมีสัดส่วนมากที่สุดในตลาดนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทย นิคมอุตสาหกรรมใหม่ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใน 2 ทำเลนี้ โดยเฉพาะในจังหวัดชลบุรี และระยอง โดยราคาขายเฉลี่ยของที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมในช่วงครึ่งแรกปีพ.ศ.2557 ยังคงใกล้เคียงกับช่วงครึ่งหลังปีพ.ศ.2556 ผู้ประกอบการส่วนใหญ่พยายามที่จะดึงดูดนักลงทุนในช่วงที่มีปัญหาการเมืองโดยการคงราคาขายเท่ากับปลายปีที่ผ่านมาหรือปรับเพิ่มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ในส่วนของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่ผ่านการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนมีมูลค่ารวม ณ สิ้นเดือนมิถุนายน พ.ศ.2557 อยู่ที่ประมาณ 185,000 ล้านบาท ลดลงประมาณ 59% จากช่วงเดียวกันของปีพ.ศ.2556 เนื่องจากปัญหาการเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพในประเทศไทยมีผลลบต่อบรรยากาศการลงทุน เพราะนักลงทุนชาวต่างชาติชะลอการตัดสินใจที่จะลงทุนในประเทศไทย หรือเลือกที่จะไปลงทุนยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค นอกจากนี้นักธุรกิจต่างชาติหลายรายยกเลิกคำสั่งซื้อ หรือคำสั่งจ้างผลิตสินค้ากับหลายโรงงานในประเทศไทย เนื่องจากความวิตกกังวลเรื่องปัญหาการเมืองที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการผลิต และการขนส่งสินค้า
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) มีแผนที่จะพัฒนานิคมอุตสาหกรรมใหม่ในจังหวัดชายแดนเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปีพ.ศ.2558 โดยเฉพาะในจังหวัดกาญจนบุรี และเชียงราย อีกทั้งยังมีแผนที่จะพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอีก 8 แห่งในบางจังหวัดตามแนวเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก – ตะวันตก นอกจากนี้การนิคมอุตสาหกรรมยังต้องการพันธมิตรจากภาคเอกชนที่จะเข้ามาร่วมพัฒนานิคมอุตสาหกรรมขนาดเล็กเพื่อรองรับอุตสาหกรรมขนาด SME.
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จะปรับเปลี่ยนนโยบายการส่งเสริมการลงทุนเป็นรูปแบบใหม่ในปีพ.ศ.2558 เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ซึ่งทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียนออกมาตรการ และสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนต่างชาติยังคงมีความกังวลต่อเรื่องการแบ่งเขตการลงทุนตามนโยบายส่งเสริมการลงทุนรูปแบบใหม่นี้ เพราะว่าบางพื้นที่ในประเทศไทยยังคงขาดความพร้อมในเรื่องของระบบสาธารณูปโภคเพื่อรองรับอุตสาหกรรม ดังนั้นรัฐบาลควรพัฒนาปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อรองรับการลงทุน
คสช. มีแผนจะพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทั่วประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดตามแนวชายแดนที่เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านโดยสะพานมิตรภาพ โดยเขตเศรษฐกิจพิเศษทุกแห่งจะประกอบไปด้วยพื้นที่พาณิชยกรรม ที่อยู่อาศัย และอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อตลาดนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยในปีพ.ศ.2558 และในอนาคต
"JAS" เข้าร่วมงานเปิดตัว "พรีเมียร์ลีก" ประเทศเวียดนาม "FPT Play" จัดยิ่งใหญ่ประกาศความพร้อมการถ่ายทอดสด
"ฮอนด้า วันเมคเรซ แชมเปี้ยนส์ อวอร์ดส์ 2025" มอบแชมป์ประจำปีสุดยิ่งใหญ่ "ประพจน์-ทัศไนย" ครองบัลลังก์โอเวอร์ออลล์ "หทัย-ปิยะวดี-สิรภพ" ผงาด ฮอนด้าคลับ
"HANN" จับธุรกิจแพทย์เฉพาะด้าน เตรียมเปิดคลินิกสุขภาพผู้ชาย แห่งแรกของอีสาน
มูลนิธิ อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส เผยแพร่รายงานฉบับใหม่ เตือนความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจากสภาพอากาศสุดขั้วและภัยธรรมชาติ
"JAS" คว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด "พรีเมียร์ลีก" ประเทศเวียดนาม ปิดดีลใหญ่ลงนามความร่วมมือ "FPT Play" ต่อยอดสร้างรายได้จากคอนเทนต์กีฬาระดับโลกระยะยาว
ผู้บริหารกลุ่ม KTIS เปิดหลายปัจจัยบวกหนุนผลการดำเนินงานปี 2569
Amazing Thailand Souped Up Grand Prix ตอกย้ำตำนานงานแดร็กไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดปีที่ 18 ปิดฉากสุดเดือด 132 คันซัดเต็มพิกัด คนดูล้นสนามกว่า 1.6 หมื่นคน
"ดี เจอร์ราร์ด" เตรียมโชว์ไฟลุกบุกหาดพัทยา "JAS-Monomax" ยกขบวนความบันเทิงอัดแน่น 27 ธ.ค. นี้!!
ออริจิ้น โฮเทล จับมือ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ พัฒนาโรงแรมกลุ่ม ออริจิ้น โฮเทล