กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ดำเนินโครงการ “คลองสวย น้ำใส คนไทย มีความสุข” โดยร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจพื้นที่ เพื่อกำหนดเป้าหมายดำเนินโครงการฯ ประสานข้อมูลแหล่งน้ำที่มีปัญหาตื้นเขินและผักตบชวากีดขวางทางน้ำ รวมถึงสนับสนุนเครื่องจักรกลสำหรับปฏิบัติการขุดลอก ปรับปรุงแหล่งน้ำเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง อุทกภัยของประเทศไทยให้เป็นไปอย่างยั่งยืน รวมถึงเป็นการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบและครอบคลุมทุกมิติตามนโยบายรัฐบาล
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า อุทกภัยและภัยแล้งเป็นภัยพิบัติซ้ำซากที่หลายพื้นที่ของประเทศไทยมักประสบเป็นประจำทุกปี โดยมีสาเหตุจากความตื้นเขินของแม่น้ำ ลำคลอง แหล่งน้ำสาธารณะ และการเพิ่มขึ้นของปริมาณผักตบชวา วัชพืช และสิ่งกีดขวางทางไหลของน้ำ ทำให้ไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง และส่งผลต่อประสิทธิภาพการระบายน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก ซึ่งนับเป็นอุปสรรคสำคัญในการบริหารจัดการน้ำของประเทศ และจากการตรวจสอบพบว่า ในพื้นที่ 60 จังหวัด มีแหล่งน้ำที่ต้องกำจัดผักตบชวา 3,955 แห่ง พื้นที่ 78,207 ไร่ ปริมาณผักตบชวา 6,256,560 ตัน กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ดำเนินโครงการ “คลองสวย น้ำใส คนไทยมีความสุข”
ซึ่งถือเป็นนโยบายเน้นหนักของหน่วยงานที่มุ่งส่งเสริมการบริหารจัดการน้ำ การป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้ง อุทกภัย น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มอย่างเป็นระบบ โดยแบ่งพื้นที่เป้าหมายโครงการฯ เป็น 2 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 ดำเนินการในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลุ่มน้ำท่าจีน ลุ่มน้ำแม่กลอง ลุ่มน้ำป่าสัก ลุ่มน้ำบางปะกง บึงบอระเพ็ด และกว๊านพะเยา ระยะที่ 2
ดำเนินการในลุ่มน้ำพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ สำหรับผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2557 ดำเนินการใน 61 จังหวัด รวม 611 โครงการ กำจัดผักตบชวาและวัชพืชต่างๆ จำนวน 619,194.80 ตัน กับอีก 135,218.05 ลูกบาศก์เมตร
นายฉัตรชัย กล่าวต่อไปว่า โครงการคลองสวย น้ำใส คนไทยมีความสุข ดำเนินการในรูปแบบการบูรณาการทุกหน่วยงานในสังกัด ทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคขับเคลื่อนการดำเนินงาน โดยให้ทุกจังหวัดสำรวจร่วมกับกรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำดำเนินการสำรวจแหล่งน้ำในพื้นที่ เพื่อกำหนดพื้นที่เป้าหมายดำเนินโครงการฯ พร้อมระดมสรรพกำลัง ทั้งกำลังคนและเครื่องจักรกลจากทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทยดำเนินการกำจัดผักตบชวา วัชพืช และสิ่งกีดขวางทางน้ำ รวมถึงขุดลอก ปรับปรุงสภาพแหล่งน้ำ พร้อมกันนี้จะได้ส่งเสริมภาคประชาสังคม โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ลุ่มน้ำต่างๆ ให้ร่วมกันดูแลสภาพแวดล้อม รักษาระบบนิเวศน์ และอนุรักษ์แหล่งน้ำ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำอย่างคุ้มค่า มีน้ำใช้อุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอในทุกฤดูกาล ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งแล้ว ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากอีกด้วย
SME D Bank ออกมาตรการด่วนช่วยเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบพายุ "บัวลอย" 'พักชำระหนี้-เติมทุนฉุกเฉิน' ลดภาระทางการเงิน ฟื้นฟูธุรกิจกลับมาเดินหน้าเร็ววัน
NT หนุนพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแห่งชาติ "T-Alert" ยกระดับความปลอดภัยประชาชนทั่วประเทศ
เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา
SAM ห่วงใยลูกหนี้ ออกมาตรการเร่งด่วนครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งผู้ประสบสาธารณภัยพายุ "วิภา" พักเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 3 เดือน ส่วนผู้เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล จัดดอกเบี้ยต่ำ 3-5% ผ่อนยาว 10 ปี เพื่อส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทยเริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จับมือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงนามบันทึกความเข้าใจ ยกระดับ MOU ร่วมให้ความรู้
NT พร้อมแจ้งเตือนภัยผ่าน Cell Broadcast หลังการทดสอบประสบผลสำเร็จ ได้รับข้อความแจ้งเตือนภัยรวดเร็ว แม่นยำ
ชาวเชียงใหม่ อยุธยา อุดรฯ นครศรีฯ และกรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม!
NT ร่วม ปภ. ทดสอบระบบ Cell Broadcast ในพื้นที่ครั้งแรก แจ้งผลมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ครอบคลุม เสริมความพร้อมระบบเตือนภัยแห่งชาติ
NT ยืนยันความพร้อม ร่วมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ในพื้นที่จริง