ลมกรดหญิงทีมชาติวิ่งผลัด 4x100 ลั่นพร้อมลุย เพื่อแชมป์เหรียญทอง ในศึกเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17 มุ่งมั่นทำเพื่อชาติ เพื่อรอยยิ้มของคนไทยทั้งประเทศ

28 Sep 2014
ใกล้เข้ามาทุกทีกับการแข่งขันกีฬาระดับอาเซียนที่ทุกคนต่างรอคอย เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17 หรือ อินชอนเกมส์ ณ ประเทศเกาหลีใต้ ทีมงานตามติดความเคลื่อนไหวนักกรีฑาทีมชาติไทย และเจ้าหน้าที่สมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หนึ่งในสมาคมความหวังเหรียญทองของไทย ซึ่งเดินทางไปเก็บตัวฝึกซ้อมไกลถึงประเทศเยอรมัน ณ เมือง ไกเซอร์สเลาเทิร์น ตั้งแต่เมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ทีมงานมีโอกาสไปเยี่ยมชมการฝึกซ้อมของเหล่าลมกรด นำทัพโดย พลตำรวจตรีศุภวณัฎฐ์ อาริยะมงคล รองเลขาธิการสมาคมฯ ที่พานักกรีฑาไปเก็บตัว ฝึกซ้อมอยู่ภายในโรงเรียนฝึกตำรวจ และได้พูดคุยกับทีมวิ่งผลัดหญิง 4x100 ความหวังเหรียญทองของชาวไทย ประกอบด้วย ร.ต.หญิง ภัสสร จักษุนิลกร (ไม้ 1) ร.ท.หญิง ณีรนุช กล่อมดี (ไม้ 2) ร.ต.หญิง นงนุช แสนราช (ไม้ 4) และน.ส.ทัศพร วรรณกิจ น้องใหม่ที่มาร่วมทีมวิ่งในตำแหน่งไม้ 3 แทน ร.ต.ท.หญิง ลภัสภร ถาวรเจริญ ตามไปฟังคำสัมภาษณ์จากสาวลมกรดกันได้เลย

เดินทางมาเก็บตัวที่เยอรมันตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน การฝึกซ้อมและสภาพร่างกายเป็นอย่างไรกันบ้าง

ณีรนุช : ด้วยโปรแกรมที่มีทั้งการฝึกซ้อม บวกกับการได้ลงแข่งขันไปด้วย ส่วนตัวคิดว่าเราได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว การได้ลงแข่งขันบ่อยๆ ก็เหมือนกับการฝึกฝนจากประสบการณ์ก่อนจะแข่งขันจริงค่ะ

ภัสสร : เราพักอยู่ในโรงเรียนฝึกตำรวจ สะดวกสบายดีค่ะ

การฝึกซ้อมของแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง

ภัสสร : สำหรับไม้หนึ่ง หัวใจสำคัญ คือ สมาธิ เพื่อการออกบล็อกจากจุดสตาร์ท และการส่งไม้ให้ดีที่สุด

ครั้งนี้มีนักกรีฑารุ่นน้องมาร่วมเก็บตัวด้วย ในฐานะรุ่นพี่ช่วยเหลือรุ่นน้องอย่างไร

ภัสสร : ช่วยดูทั้งในเรื่องของเทคนิคการออกบล็อก ทักษะการวิ่งพื้นฐาน สร้างความมั่นใจให้กับน้องๆ ในทีม ในการรับส่งไม้ การทำสมาธิ และให้ความคิดเห็นเพื่อการพัฒนาของแต่ละคน

นงนุช : กว่าจะมาถึงจุดนี้ เป็นนักกีฬาทีมชาติเต็มตัวได้ ต้องใช้เวลา 2-3 ปี น้องๆ ที่มาร่วมเก็บตัวครั้งนี้ ถูกฝึกฝนและพัฒนามาแล้วเป็นเวลา 1-2 ปี คาดว่าการแข่งขันซีเกมส์ปีหน้า น่าจะขึ้นมาแทนกันได้

มาอยู่ไกลบ้านนานๆ อย่างนี้ ทำอย่างไรเมื่อคิดถึงบ้าน

นงนุช : ใช้สื่อสารผ่านทางโซเชียลมีเดีย แชท แอพลิเคชั่นต่างๆ ยอมรับว่าบางครั้งก็เหงา แต่ก็มีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ พูดคุยช่วยคลายเหงาไปได้บ้าง

มาอยู่ต่างประเทศ อาหารการกินเป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ คิดถึงเมนูอาหารไทยกันบ้างไหมค่ะ

ทางสมาคมฯ ยกครัวไทยมาไว้ที่นี้ค่ะ มีพ่อครัวคนไทยมาทำอาหารให้ แต่ก็อย่างว่า เพราะแต่ละคนก็มีเมนูที่ชอบไม่เหมือนกัน เราเลยพกหลากหลายเมนูของ โรซ่า พร้อม อย่างเมนูพะโล้ไก่ไข่นกกระทา ไก่ผัดเผ็ด น้ำพริก ห่อหมกทูน่า ที่ลืมไม่ได้ต้องแกงเขียวหวานทูน่า ที่เป็นกับข้าวพร้อมทานติดกระเป๋าเดินทางมาจากเมืองไทยกันเกือบทุกคนค่ะ

พูดถึงความพร้อมในการสู้ศึกเอเชี่ยนเกมส์ ที่อินชอนคราวนี้ มีความรู้สึกอย่างไรบ้าง

นงนุช : จากครั้งที่แล้วเราได้เหรียญทองที่กว่างโจว ในครั้งนี้ถือเป็นการป้องกันแชมป์ ซึ่งยากยิ่งกว่า แต่เราจะไม่สร้างความกดดันให้ตัวเอง เราคิดแค่ต้องทำให้เต็มที่ ให้ดีที่สุด เราอยากให้รอยยิ้มกับคนไทย เพราะมันเป็นเหมือนแรงผลักดันให้เราก้าวต่อไป การแข่งครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายของใครบางคนในทีม เราจะทำอย่างเต็มที่ค่ะ

ทางด้านโค้ชแฝดเล็ก พลตำรวจตรีศุภวณัฎฐ์ อาริยะมงคล รองเลขาธิการสมาคมฯ เปิดเผยรายละเอียดการฝึกซ้อม รวมถึงความฟิตของทีมกรีฑาไทยว่า “ทางสมาคมพานักกรีฑามาเก็บตัว ณ เมืองไกเซอร์สเลาเทิร์น แห่งนี้มาโดยตลอด เพราะมีการจัดรายการแข่งขันเยอะมาก ช่วยกระตุ้นนักกรีฑาให้พร้อมเสมอ ในเมืองไทยหารายการแข่งยาก ประเทศในเอเชียนักกรีฑาไทยก็เคยลงแข่งรู้ฝีมือกันหมดแล้ว มาที่นี้ได้เจอคู่แข่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยเจอ ทำให้นักกรีฑาได้ประสบการณ์ใหม่ๆ

เป้าหมายที่ทางสมาคมวางเอาไว้สำหรับการเก็บตัวครั้งนี้ มีความคาดหวังในรายการใดบ้าง

เรามุ่งเป้าหมายที่ทีมวิ่งผลัด 4x100 ทั้งหญิงและชาย ในระดับเอเชีย เราอยู่ลำดับที่ 1 ถึง 3 มาโดยตลอด เอเชี่ยนเกมส์ที่ผ่านมา นักกรีฑาหญิงวิ่งผลัด 4x100 ได้ที่ 1 มาครอง ทีมชายเราได้เหรียญทองแดง ขณะนี้เหลือเวลาประมาณ 2 เดือน แม้จะมีนักกีฬาทีมหญิงที่ได้รับบาดเจ็บ จากนอกสนามซึ่งไม่เกี่ยวกับการแข่งขัน คือ ร.ต.ท.หญิง ลภัสภร ถาวรเจริญ (กอบ) แต่ทางสมาคมฯ ก็ได้น้องใหม่มาวิ่งแทนคือ น.ส.ทัศพร วรรณกิจ (ก้อย)

นักกรีฑารุ่นใหม่ ที่ขึ้นมาแทนคนเก่าๆ มีฟอร์มการเล่น และความฟิตดีแค่ไหน

นักกรีฑาชายเป็นกลุ่มเยาวชนเอเชียเมื่อ 2 ปีก่อน มีความพร้อมพอสมควร แต่จะพร้อมเต็มที่ในอีกปีครึ่ง ซึ่งประกอบไปด้วย นายจีระพงศ์ มีนาพระ นายอภิสิทธิ์ พรมแก้ว นายศุภชัย ฉิมดี นายกฤษฎา นามสุวรรณ์ นายรัตนพล โสวัน นายจรัญ สะเทิงรัมย์ ทั้งหมดนี้คือพลังหลัก ทุกคนเป็นเพชร ที่กำลังรอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น สมาคมฯ จะไม่ตั้งเป้าหมายจนทำให้

นักกรีฑาเกิดความกดดัน สมาคมฯ หวัง 1 ใน 3 ทั้งหญิงและชาย ไว้อย่างน้อยเหรียญเงิน สู้กับคาซัสสถาน สำหรับจีน และญี่ปุ่น สมาคมฯ ไม่กลัว นอกจากนี้ยังมีประเภทลานฟอร์มของทีม ซึ่งมีการพัฒนาที่ดีขึ้น

ในฐานะที่รับหน้าที่โค้ชมาหลายสิบปีอะไรคือหัวใจสำคัญที่สอนให้กับนักกีฬา

สิ่งสำคัญคือ การบอกน้องๆ นักกรีฑาว่า การที่ฝึกซ้อมมาขนาดนี้ สิ่งสำคัญก่อนลงแข่งขันคือ ต้องมีสมาธิตลอดเวลา ตลอดการแข่งขัน ต้องมีสติ ซึ่งจะช่วยควบคุมตัวเอง และสามารถสร้างผลงานในสิ่งที่เราไม่คิดว่าจะสร้างได้ เมื่อเริ่มวอร์มจะนิ่งไม่คุยกัน ตั้งสมาธิอยู่กับภารกิจเพื่อวอร์มร่างกายให้พร้อมก่อนลงแข่งแต่ละรายการ

ความมุ่งมั่น ความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจของนักกรีฑา ประสานกับความใส่ใจทุ่มเทจากโค้ชผู้มากด้วยประสบการณ์ พร้อมทีมเจ้าหน้าที่ของสมาคมฯ เพื่อสร้างผลงานแห่งความภาคภูมิใจให้กับประวัติศาสตร์ชาติไทยอีกครั้งในศึก “อินชอนเกมส์” ครั้งที่ 17 ณ ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่19 กันยายน ถึง 4 ตุลาคม พวกเราทุกคนขอส่งแรงใจร่วมเชียร์ทัพนักกรีฑาไทยในการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17 นี้