นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทสามารถบริหารกองทุนเปิดกรุงไทย5%ทริกเกอร์ฟันด์3( Trig5-3) โดยใช้ระยะเวลาเพียง 13 วันทำการ นับจากวันจดทะเบียนจัดตั้งกองทุนในวันที่ 8 สิงหาคม 2557 กองทุนดังกล่าวเปิดจำหน่าย เมื่อวันที่ 4 - 7 สิงหาคม 2557 อายุโครงการ 6 เดือน โดยบริษัทจะเลิกโครงการโดยอัตโนมัติเมื่อราคาหน่วยลงทุน จากราคาเริ่มต้นที่10.00 บาทต่อหน่วย ปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็น10.5555 ต่อหน่วย เป็นระยะเวลา 3 วันติดต่อกัน ทั้งนี้ บริษัทสามารถบริหารกองทุนให้ถึงเป้าหมายตามที่ได้กำหนดไว้ในโครงการแล้ว ในวันที่ 28 สิงหาคม 2557 จึงจะขอคืนเงินลงทุนพร้อมผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน โดยกองทุนจะโอนเงินของลูกค้าทั้งหมดเข้าไปไว้ในกองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์ ( KTSS ) และลูกค้าที่ต้องการใช้เงินสามารถขายคืนได้ตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2557 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.55% ในขณะที่บริษัทสามารถบริหารกองทุนโดยสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนได้ถึง5%ภายในระยะเวลาอันสั้น จากการที่บริษัทได้มองเห็นโอกาสการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่ปรับตัวลงมาจากปัจจัยภายนอก ในขณะที่ปัจจัยภายในประเทศต่าง ๆ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยมุ่งเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่ได้รับประโยชน์ จากการฟื้นตัวของความเชื่อมั่นของผู้บริโภค รวมถึงการลงทุนจากทางภาครัฐ และเอกชน ที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลังจนถึงปีหน้าจากนโยบายต่างๆ ที่ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้วางแนวทางไว้ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ นโยบายการปฏิรูปพลังงาน และการแปรรูปรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ล้วนเป็นส่วนช่วยสร้างผลตอบแทนให้กับกองทุนได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ บลจ. กรุงไทย พร้อมที่จะเสนอขายกองทุนในรูปแบบนี้อีก หากเห็นว่าสถานการณ์การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เอื้ออำนวย หรือมีการปรับตัวลดลงมาจากปัจจัยภายนอก ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบต่อปัจจัยภายในประเทศ เพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับประโยชน์สูงสุดจากการลงทุน
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์เอ็นแฮนซท์9 (KTSUPE9) เสนอขายวันที่3 -9 กันยายน 2557 อายุ3 เดือน มูลค่าโครงการ5,000 ล้านบาท เน้นลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ประเภทเงินฝากประจำ China Construction Bank , เงินฝากประจำ Akbank T.A.S , MTN ออกโดย Garanti Bank และ MTN ออกโดย IS Bank ในสัดส่วน 70% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในหุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน สถาบันการเงิน บริษัทเอกชน ผลตอบแทนประมาณ 2.50% ต่อปี ไม่เสียภาษี
ทั้งนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.55% ในขณะที่บริษัทสามารถบริหารกองทุนโดยสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนได้ถึง5%ภายในระยะเวลาอันสั้น จากการที่บริษัทได้มองเห็นโอกาสการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่ปรับตัวลงมาจากปัจจัยภายนอก ในขณะที่ปัจจัยภายในประเทศต่าง ๆ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยมุ่งเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่ได้รับประโยชน์ จากการฟื้นตัวของความเชื่อมั่นของผู้บริโภค รวมถึงการลงทุนจากทางภาครัฐ และเอกชน ที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลังจนถึงปีหน้าจากนโยบายต่างๆ ที่ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้วางแนวทางไว้ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ นโยบายการปฏิรูปพลังงาน และการแปรรูปรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ล้วนเป็นส่วนช่วยสร้างผลตอบแทนให้กับกองทุนได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ บลจ. กรุงไทย พร้อมที่จะเสนอขายกองทุนในรูปแบบนี้อีก หากเห็นว่าสถานการณ์การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เอื้ออำนวย หรือมีการปรับตัวลดลงมาจากปัจจัยภายนอก ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบต่อปัจจัยภายในประเทศ เพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับประโยชน์สูงสุดจากการลงทุน
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์เอ็นแฮนซท์9 (KTSUPE9) เสนอขายวันที่3 -9 กันยายน 2557 อายุ3 เดือน มูลค่าโครงการ5,000 ล้านบาท เน้นลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ประเภทเงินฝากประจำ China Construction Bank , เงินฝากประจำ Akbank T.A.S , MTN ออกโดย Garanti Bank และ MTN ออกโดย IS Bank ในสัดส่วน 70% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในหุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน สถาบันการเงิน บริษัทเอกชน ผลตอบแทนประมาณ 2.50% ต่อปี ไม่เสียภาษี
ประธานตลาดหลักทรัพย์ฯ เยี่ยมชมบูธ "กรุงไทย" ในงาน MONEY EXPO 2023
KTAM คว้าโอกาสจากภาวะดอกเบี้ยผันผวน เปิดขายกองทุน Inverse Floater
KTAM เปิดตัวกองทุนใหม่ KT-Luxury ลงทุน Premium Brands
สมัครแอป KTAM Smarttrade รับฟรีบัตรสตาร์บัค 100 บาท
ภาพข่าว: KTAM จัดสัมมนาแนวโน้มเศรษฐกิจปี 62 ให้กับทีมที่ปรึกษาการลงทุน
ภาพข่าว: ทอท.วางใจบลจ.กรุงไทยบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 3 ปี
ภาพข่าว: KTAM จัดงานสัมมนาพิเศษ
KTAM ขอเชิญร่วมงานสัมมนา “นโยบายการคลัง พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย ครึ่งปีหลัง”