CGIF ก่อตั้งในปี 2553 ภายใต้การริเริ่มของประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ร่วมกับประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลี และธนาคารพัฒนาเอเซีย โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ CGIF ทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการค้ำประกันความเสี่ยงด้านเครดิตแก่ผู้ออกตราสารหนี้ที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ผู้ออกตราสารหนี้สามารถระดมทุนผ่านตลาด
ตราสารหนี้ในภูมิภาคได้ด้วยสกุลเงินท้องถิ่นและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนและความไม่สมดุลของระยะเวลาเงินกู้โดยมีธนาคารพัฒนาเอเซียทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ (Trustee) และบริหารเงินกองทุนทั้งหมดของ CGIF ทั้งนี้ CGIF ดำเนินธุรกิจด้วยเงินกองทุนเท่านั้น โดยไม่สามารถกู้ยืมเงินจากแหล่งอื่น ๆ ได้ ยกเว้นเฉพาะเพื่อการบริหารสภาพคล่องเท่านั้น
ณ เดือนมิถุนายน 2557 CGIF มีความสามารถในการค้ำประกันหนี้สูงสุด (Maximum Guarantee Capacity) อยู่ที่ประมาณ 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยความสามารถในการค้ำประกันหนี้สูงสุดมาจากผลคูณระหว่าง (1) ทุนที่เรียกชำระแล้วของ CGIF บวกด้วยกำไรสะสม ลบด้วยทุนสำรองผลขาดทุนด้านเครดิต ทุนสำรองผลขาดทุนด้านอัตราแลกเปลี่ยน และเงินลงทุนในหลักทรัพย์สภาพคล่องต่ำ และ (2) อัตราส่วนการค้ำประกันสูงสุด (Maximum Leverage Ratio) ที่ 2.5 เท่า ทั้งนี้ ณ เดือนมิถุนายน 2557 CGIF ให้บริการค้ำประกันความเสี่ยงด้านเครดิตให้แก่ผู้ออกตราสารหนี้ 2 รายมูลค่ารวม 123 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7% ของความสามารถในการค้ำประกันสูงสุด
สถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของ CGIF สะท้อนถึงโครงสร้างทางธุรกิจที่เหมาะสมต่อการดำเนินธุรกิจภายใต้วัตถุประสงค์และหน้าที่ขององค์การ CGIF มีความได้เปรียบในการแข่งขันสำหรับการค้ำประกันตราสารหนี้ที่เสนอขายระหว่างประเทศ หรือเสนอขายในประเทศที่มีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจากความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit Spreads) ในระดับสูง
CGIF มีนโยบายค้ำประกันตราสารหนี้ที่มีอันดับเครดิตสากล (International-scale Ratings) ในช่วง “BB” ถึง “BBB” ซึ่งโดยเปรียบเทียบจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับอันดับเครดิตในระดับน่าลงทุน (Investment Grade) ของทริสเรทติ้ง นอกจากนี้ CGIF ยังมีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีอันดับเครดิตสากลมากกว่าระดับ “AA-” ขึ้นไปด้วย
กลุ่มผู้ร่วมทุนจัดตั้ง CGIF มีอันดับเครดิตสากลโดยเฉลี่ยตามสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ระดับ “AA-” ซึ่งอันดับเครดิตสากลที่ระดับ “AA-” ถือว่าสูงกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศ (National-scale Ratings) ระดับ “AAA” ที่จัดโดยทริสเรทติ้ง ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งมองว่าวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งและหน้าที่ของ CGIF มีบทบาทสำคัญในเชิงกลยุทธ์และสร้างผลประโยชน์ร่วมต่อกลุ่มประเทศ ASEAN+3 ทั้งในด้านการส่งเสริมธุรกรรมในตลาดตราสารหนี้และการสร้างเสถียรภาพให้แก่ตลาดตราสารหนี้ในภูมิภาค
ในมุมมองของทริสเรทติ้ง การประกอบธุรกิจของ CGIF น่าจะยังต้องเผชิญกับความท้าทายในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าภายใต้การเปลี่ยนแปลงของตลาดตราสารหนี้ท้องถิ่นที่ยังอยู่ในช่วงต้นของการร่วมพัฒนา และจากการแข่งขันในตลาดตราสารหนี้ท้องถิ่น นอกจากนี้ CGIF ยังคาดว่ามูลค่าการให้บริการค้ำประกันจะเพิ่มขึ้นจนถึงความสามารถในการค้ำประกันสูงสุดภายใน 3 ปีข้างหน้า โดยในปัจจุบันกลุ่มผู้ร่วมทุนยังไม่มีมติว่าจะเพิ่มทุนหรือปรับเพิ่มอัตราส่วนค้ำประกันสูงสุด หรืออาจชะลอขนาดธุรกิจของ CGIF ให้อยู่ในระดับดังกล่าวหรือไม่
จากประมาณการพื้นฐานของทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของ CGIF จะเพิ่มขึ้นจาก 8.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2556 มาอยู่ที่ประมาณ 20-22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2559 โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นคาดว่าจะมาจากมูลค่าการค้ำประกันที่เพิ่มสูงขึ้นจนถึงความสามารถในการค้ำประกันสูงสุดที่ 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2559
ภายใต้ประมาณการกรณีต่ำกว่าปกติ (Worst Case) ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนด้านความเพียงพอของเงินทุน (Capital Adequacy Ratio) ของ CGIF จะอยู่ที่ประมาณ 3-4 เท่า ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการชำระคืนหนี้ตราสารหนี้ที่มีการค้ำประกันในกรณีที่ผู้ออกตราสารผิดนัดชำระหนี้ ณ สิ้นปี 2556 หลักทรัพย์ที่ CGIF ลงทุนมีอายุสูงสุดอยู่ที่ 4 ปี และมีค่าเฉลี่ยของ Effective Duration อยู่ที่ 1.1 ปี ทั้งนี้ CGIF ประเมินว่าในกรณีที่อัตราดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้น 1% ตลอดเส้นอัตราผลตอบแทน (Yield Curve) ของหลักทรัพย์ที่ลงทุน ผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจะเพิ่มขึ้นประมาณ 7.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1% ของทุน ณ สิ้นปี 2556
CGIF มีสภาพคล่องที่แข็งแกร่งมากจากการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น รายได้จากเงินลงทุนและค่าธรรมเนียมการค้ำประกันคาดว่าจะเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ภายใต้ประมาณการกรณีต่ำกว่าปกติ หลักทรัพย์สภาพคล่องสูงของ CGIF คาดว่าจะมีเพียงพอต่อกระแสเงินสดที่ต้องชำระให้แก่ผู้ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีการค้ำประกันที่ออกโดยบริษัทที่ผิดนัดชำระหนี้ นอกจากนี้ CGIF ยังสามารถบริหารจัดการสภาพคล่องด้วยการทำธุรกรรมซื้อคืนหลักทรัพย์ (Repurchase Transactions) ได้ด้วย
Credit Guarantee and Investment Facility (CGIF)
อันดับเครดิตองค์กร: AAA
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
Growing Thailand's Blue Economy: Thai Union and ADB in Sustainable First for Seafood Industry in Thailand
Empowering a New Generation: AIT Welcomes 30 Outstanding Women Scholars from Pakistan
ยูนิฟาร์ส ระดมทุน 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พัฒนาเทคโนโลยีควบคุมแบคทีเรีย เพื่อการเกษตรที่ยั่งยืน
UniFAHS Raises USD 1.4 Million in Seed Funding to Scale Bacteriophage Technology for Sustainable Agriculture
EXIM BANK จับมือ ADB และ JICA สนับสนุนเงินกู้ร่วม 3,900 ลบ. ให้กลุ่มบริษัท EA จัดหารถโดยสารไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
EXIM Thailand Joins Hands with World Leading Financial Institutions in Financing Monsoon Wind Power for Construction of ASEAN Largest Wind Power Plant to Drive Green Economy