เฮย์กรุ๊ป เผย 6 เมกะเทรนด์ นำองค์กรสู่อนาคตอย่างยั่งยืน
วันที่ 15 ตุลาคม บริษัท เฮย์กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารองค์กรระดับโลก ได้จัดงานสัมมนาประจำปี (Hay Group 2014 CEO Forum - Lead Your Company into the Future) “เผย 6 เมกะเทรนด์ นำองค์กรสู่อนาคตอย่างยั่งยืน” ขึ้นที่โรงแรมดิโอคุระ เพรสทีจ ภายในงานได้รับเกียรติจาก คุณอริยะ พนมยงค์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำ Google ประเทศไทย พร้อมทั้ง Ms. Yvonne Sell ผู้อำนวยการและผู้แต่งหนังสือ Leadership 2030 บริษัท เฮย์กรุ๊ป และ คุณเสถียร เทศทอง ผู้อำนวยการ บริษัท เฮย์กรุ๊ป ประเทศไทย ที่มาร่วมแบ่งปันแนวคิดและประสบการณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางธุรกิจ นวัตกรรม และภาวะความเป็นผู้นำ ให้แก่ผู้บริหารในองค์กรชั้นนำของประเทศไทย
ผลการวิจัยจากหนังสือ Leadership 2030 ของ บริษัท เฮย์กรุ๊ป ชี้ให้เห็นถึง Mega Trends หรือ แนวโน้มสำคัญ 6 ประการ ที่เป็นปัจจัยต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจของโลก และมีความสำคัญอย่างมากต่อองค์กรในการขับเคลื่อนธุรกิจให้อยู่รอดและเติบโตต่อไปได้ในปี 2030 รวมไปถึงการกำหนดทิศทางการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบ กลยุทธ์ และภูมิทัศน์ทางธุรกิจ อันได้แก่
1. กระแสโลกาภิวัฒน์ 2.0: เอเชียจะครองเศรษฐกิจโลก และการเพิ่มจำนวนของคนชนชั้นกลาง
2. วิกฤติสิ่งแวดล้อม: วิกฤติสิ่งแวดล้อมมีผลต่อธุรกิจ การพัฒนาอย่างยั่งยืนจึงถือเป็นความจำเป็นของธุรกิจ
3. คุณค่าของปัจเจกบุคคลและกลุ่มบุคคล: พนักงานมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น การมีอิสระในการเลือกจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงาน แต่ความจงรักภักดีต่อองค์กรจะลดน้อยลง
4. โลกแห่งดิจิตอล: สามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา จนแยกขอบเขตของชีวิตทำงานและชีวิตส่วนตัวไม่ออก
5. การเปลี่ยนแปลงด้านประชากร: ประชากรที่มีอายุมากเพิ่มจำนวนขึ้น ทำให้เกิดการแข่งขันด้านความสามารถในตลาดมากขึ้น
6. การบรรจบกันของเทคโนโลยี: เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆ ขึ้นมากมาย ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันเปลี่ยนแปลงไป
ท่ามกลางความซับซ้อนของภูมิทัศน์ทางธุรกิจ ผู้นำในอนาคตจะต้องมีความสามารถที่แตกต่างจากผู้นำในปัจจุบันอย่างมาก องค์กรจำเป็นต้องมี‘ผู้นำ Altrocentric’: ผู้นำที่ให้ความสำคัญกับความคิดเห็นหรือมุมมองของผู้อื่นมากกว่าตนเอง
องค์กรที่สามารถดำเนินธุรกิจก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในกว่าทศวรรษที่ผ่านมาได้อย่างประสบความสำเร็จนั้น พวกเขามีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ‘ชื่อเสียงขององค์กรที่แข็งแกร่ง’ ซึ่งสอดคล้องกับผลการวิจัยของบริษัท เฮย์กรุ๊ป ร่วมกับนิตยสารฟอร์จูน เรื่อง องค์กรที่น่าชื่นชมมากที่สุด (WMAC - World’s Most Admired Companies) 20 อันดับแรกของโลก อันได้แก่
1. Apple 11. American Express
2. Amazon.com 12. Costco Wholesale
3. Google 13. Nike
4. Berkshire Hathaway 14. BMW
5. Starbucks 15. Procter & Gamble
6. Coca-Cola 16. IBM
7. Walt Disney 17. Nordstrom
8. FedEx 18. Singapore Airlines
9. Southwest Airlines 19. Johnson & Johnson
10. General Electric 20. Whole Foods Market
เฮย์กรุ๊ปเผยว่า การจัดการชื่อเสียงทั้งภายในและภายนอกองค์กรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ชื่อเสียงขององค์กรมีอิทธิพลต่อความสำเร็จในหลายๆ ด้าน เช่น การรักษาและดึงดูดลูกค้า การติดต่อต่อรองกับคู่ค้า และการไม่ทำให้หุ้นส่วนเกิดข้อกังวลท่ามกลางความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ชื่อเสียงยังถือเป็นปัจจัยที่สำคัญภายในองค์กร ที่จะช่วยดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถไว้ ซึ่ง 3 ใน 4 ของ WMACs หัวหน้าและพนักงานจะให้ความสำคัญกับชื่อเสียงขององค์กรเสมอ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม WMACs จึงสามารถทำผลงานได้ดีกว่าคู่แข่งคนอื่น ๆ
ในห้าปีที่ผ่านมา WMACs มองว่าชื่อเสียงขององค์กรถือเป็นทรัพย์สินที่สำคัญอย่างหนึ่ง นอกจากนี้เทคโนโลยีการสื่อสารใหม่ๆ และการส่งผ่านข้อมูลที่รวดเร็วขึ้น ยังมีส่วนช่วยให้ WMACs สามารถควบคุมชื่อเสียงขององค์กรได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ข้อควรรู้สำหรับผู้นำองค์กร
- บทบาทที่สำคัญของผู้นำ ผู้จัดการ และพนักงาน ในการสร้างชื่อเสียงให้กับองค์กร คือการให้ความสำคัญกับโปรแกรมการพัฒนาต่างๆ และการสื่อสารภายในองค์กรอยู่เสมอ
- ชื่อเสียงขององค์กรถือเป็นสิ่งสำคัญในการดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถไว้ และองค์ประกอบหลักที่ต้องพิจารณาคือ ค่าตอบแทนรวมเมื่อเทียบกับคุณค่าของพนักงาน
- การให้ค่าตอบแทนกับผู้บริหาร เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงขององค์กรได้
- แม้ว่าเครื่องมือสื่อออนไลน์จะเป็นกลไกที่ช่วยควบคุมชื่อเสียงขององค์กร แต่ชื่อเสียงก็สามารถถูกทำลายได้จากการคลิกเมาส์เพียงคลิกเดียว ดังนั้นการสร้างความจงรักภักดีภายในองค์กรจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก
การจะนำองค์กรของคุณไปสู่อนาคตได้อย่างยั่งยืนนั้น ผู้นำจำเป็นต้องพัฒนาตัวเองให้มีความสามารถ พร้อมเผชิญกับความท้าทายตาม Megatrends หรือแนวโน้มสำคัญ 6 ประการที่ได้กล่าวมาข้างต้น นอกจากนี้ การจัดการชื่อเสียงขององค์กร รวมถึงการดำเนินธุรกิจอย่างซื่อสัตย์สุจริตท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง เป็นสิ่งที่ผู้นำทุกคนจะต้องฝึกฝน เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจได้อย่างประสบความสำเร็จ
ติดต่อ: บริษัทเฮย์กรุ๊ป
T| +662 677 7515
ผลการวิจัยจากหนังสือ Leadership 2030 ของ บริษัท เฮย์กรุ๊ป ชี้ให้เห็นถึง Mega Trends หรือ แนวโน้มสำคัญ 6 ประการ ที่เป็นปัจจัยต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจของโลก และมีความสำคัญอย่างมากต่อองค์กรในการขับเคลื่อนธุรกิจให้อยู่รอดและเติบโตต่อไปได้ในปี 2030 รวมไปถึงการกำหนดทิศทางการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบ กลยุทธ์ และภูมิทัศน์ทางธุรกิจ อันได้แก่
1. กระแสโลกาภิวัฒน์ 2.0: เอเชียจะครองเศรษฐกิจโลก และการเพิ่มจำนวนของคนชนชั้นกลาง
2. วิกฤติสิ่งแวดล้อม: วิกฤติสิ่งแวดล้อมมีผลต่อธุรกิจ การพัฒนาอย่างยั่งยืนจึงถือเป็นความจำเป็นของธุรกิจ
3. คุณค่าของปัจเจกบุคคลและกลุ่มบุคคล: พนักงานมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น การมีอิสระในการเลือกจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงาน แต่ความจงรักภักดีต่อองค์กรจะลดน้อยลง
4. โลกแห่งดิจิตอล: สามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา จนแยกขอบเขตของชีวิตทำงานและชีวิตส่วนตัวไม่ออก
5. การเปลี่ยนแปลงด้านประชากร: ประชากรที่มีอายุมากเพิ่มจำนวนขึ้น ทำให้เกิดการแข่งขันด้านความสามารถในตลาดมากขึ้น
6. การบรรจบกันของเทคโนโลยี: เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆ ขึ้นมากมาย ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันเปลี่ยนแปลงไป
ท่ามกลางความซับซ้อนของภูมิทัศน์ทางธุรกิจ ผู้นำในอนาคตจะต้องมีความสามารถที่แตกต่างจากผู้นำในปัจจุบันอย่างมาก องค์กรจำเป็นต้องมี‘ผู้นำ Altrocentric’: ผู้นำที่ให้ความสำคัญกับความคิดเห็นหรือมุมมองของผู้อื่นมากกว่าตนเอง
องค์กรที่สามารถดำเนินธุรกิจก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในกว่าทศวรรษที่ผ่านมาได้อย่างประสบความสำเร็จนั้น พวกเขามีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ‘ชื่อเสียงขององค์กรที่แข็งแกร่ง’ ซึ่งสอดคล้องกับผลการวิจัยของบริษัท เฮย์กรุ๊ป ร่วมกับนิตยสารฟอร์จูน เรื่อง องค์กรที่น่าชื่นชมมากที่สุด (WMAC - World’s Most Admired Companies) 20 อันดับแรกของโลก อันได้แก่
1. Apple 11. American Express
2. Amazon.com 12. Costco Wholesale
3. Google 13. Nike
4. Berkshire Hathaway 14. BMW
5. Starbucks 15. Procter & Gamble
6. Coca-Cola 16. IBM
7. Walt Disney 17. Nordstrom
8. FedEx 18. Singapore Airlines
9. Southwest Airlines 19. Johnson & Johnson
10. General Electric 20. Whole Foods Market
เฮย์กรุ๊ปเผยว่า การจัดการชื่อเสียงทั้งภายในและภายนอกองค์กรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ชื่อเสียงขององค์กรมีอิทธิพลต่อความสำเร็จในหลายๆ ด้าน เช่น การรักษาและดึงดูดลูกค้า การติดต่อต่อรองกับคู่ค้า และการไม่ทำให้หุ้นส่วนเกิดข้อกังวลท่ามกลางความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ชื่อเสียงยังถือเป็นปัจจัยที่สำคัญภายในองค์กร ที่จะช่วยดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถไว้ ซึ่ง 3 ใน 4 ของ WMACs หัวหน้าและพนักงานจะให้ความสำคัญกับชื่อเสียงขององค์กรเสมอ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม WMACs จึงสามารถทำผลงานได้ดีกว่าคู่แข่งคนอื่น ๆ
ในห้าปีที่ผ่านมา WMACs มองว่าชื่อเสียงขององค์กรถือเป็นทรัพย์สินที่สำคัญอย่างหนึ่ง นอกจากนี้เทคโนโลยีการสื่อสารใหม่ๆ และการส่งผ่านข้อมูลที่รวดเร็วขึ้น ยังมีส่วนช่วยให้ WMACs สามารถควบคุมชื่อเสียงขององค์กรได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ข้อควรรู้สำหรับผู้นำองค์กร
- บทบาทที่สำคัญของผู้นำ ผู้จัดการ และพนักงาน ในการสร้างชื่อเสียงให้กับองค์กร คือการให้ความสำคัญกับโปรแกรมการพัฒนาต่างๆ และการสื่อสารภายในองค์กรอยู่เสมอ
- ชื่อเสียงขององค์กรถือเป็นสิ่งสำคัญในการดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถไว้ และองค์ประกอบหลักที่ต้องพิจารณาคือ ค่าตอบแทนรวมเมื่อเทียบกับคุณค่าของพนักงาน
- การให้ค่าตอบแทนกับผู้บริหาร เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงขององค์กรได้
- แม้ว่าเครื่องมือสื่อออนไลน์จะเป็นกลไกที่ช่วยควบคุมชื่อเสียงขององค์กร แต่ชื่อเสียงก็สามารถถูกทำลายได้จากการคลิกเมาส์เพียงคลิกเดียว ดังนั้นการสร้างความจงรักภักดีภายในองค์กรจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก
การจะนำองค์กรของคุณไปสู่อนาคตได้อย่างยั่งยืนนั้น ผู้นำจำเป็นต้องพัฒนาตัวเองให้มีความสามารถ พร้อมเผชิญกับความท้าทายตาม Megatrends หรือแนวโน้มสำคัญ 6 ประการที่ได้กล่าวมาข้างต้น นอกจากนี้ การจัดการชื่อเสียงขององค์กร รวมถึงการดำเนินธุรกิจอย่างซื่อสัตย์สุจริตท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง เป็นสิ่งที่ผู้นำทุกคนจะต้องฝึกฝน เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจได้อย่างประสบความสำเร็จ
ติดต่อ: บริษัทเฮย์กรุ๊ป
T| +662 677 7515
ข่าวเฮย์กรุ๊ป ประเทศไทย+บริษัท เฮย์กรุ๊ปวันนี้
เฮย์กรุ๊ป เผยหลักขับเคลื่อนองค์กร เพื่อเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง
วันที่ 11 กันยายน บริษัท เฮย์กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารองค์กรระดับโลก ได้จัดงานสัมมนา “ขับเคลื่อนองค์กร เตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง” (Riding the Wave of Change) ขึ้นที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ภายในงาน คุณบัณฑิต จำรัสธรางกูล ที่ปรึกษาอาวุโส บริษัท เฮย์กรุ๊ป ประเทศไทย พร้อมด้วยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ กัปตัน วรเนติ หล้าพระบาง กรรมการผู้จัดการหน่วยธุรกิจการบินไทยสมายล์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ คุณสุมาลี พรหมบุรี ผู้อำนวยการสายการบริหารทรัพยากรบุคคลกลาง บริษัท กรุงเทพดุสิต
บริษัท เฮย์กรุ๊ป เผยปัจจัยการสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้นำและองค์กรญี่ปุ่น
บริษัท เฮย์กรุ๊ป ประเทศไทย ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกด้านการบริหารจัดการและพัฒนาองค์กร จัดงานสัมมนาสำหรับองค์กรญี่ปุ่นขึ้นที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และ บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ภายในงานมีการบรรยาย...บริษัท เฮย์กรุ๊ป ร่วมกับนิตยสารฟอร์จูนจัดอันดับบริษัทที่ได้รับการชื่นชมมากที่สุดของโลก
ความสามารถในการปรับตัวเป็นกุญแจสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2554 บริษัท เฮย์กรุ๊ป ประเทศไทย, บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกด้านการบริหารจัดการและพัฒนาองค์กร ...
เฮย์กรุ๊ป เผยผลสำรวจ บริษัทที่เป็นเลิศด้านความเป็นผู้นำ ปีที่ 9
—
เฮย์กรุ๊ป (Hay Group) บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการองค์กรระดับโลก เผยผลสำรวจ 20 อัน...
3เอ็ม คว้า TOP 10 องค์กรที่ดีที่สุดจาก 2 สถาบันยักษ์ใหญ่ระดับโลก
บริษัท 3เอ็ม องค์กรผู้นำระดับโลกด้านการวิจัย พัฒนาผลิตสินค้าและนวัตกรรมเพื่อใช้งานในหลากหลายธุรกิจและอุตสาหกรรม ประสบความสำเร็จติด 1 ใน 10 จากการจัดอันดับบริษัทที่ดีที่สุดจาก 2 สถาบันจัดอับองค์กรดีเด่นระดับโลก โดยในปี 2557 3เอ็ม...
เฮย์กรุ๊ป จัดงานสัมมนาองค์กรญี่ปุ่น ประจำปี 2557 ในหัวข้อเรื่อง “ปัญหาต่างๆ ที่ HR ขององค์กรกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน”
—
บริษัท เฮย์กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่...