สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) ประกาศความพร้อมจัดงาน “มหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 19 (Book Expo Thailand 2014)” ในระหว่างวันพุธที่ 15 ตุลาคม– วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2557 ( 12 วัน) เวลา 10.00 - 21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด “ก. เอ๋ย ก. ไก่ เรียนรู้อดีต มุ่งสู่อนาคต”
เชิญชมนิทรรศการ “ระลึกชาติในแบบเรียน” วิเคราะห์อดีตถึงปัจจุบันของกระบวนการสร้างชาติผ่านแบบเรียนไทยในแต่ละยุคสมัย เป็นการแลหน้าเพื่อก่อความหวัง แลหลังเพื่อแก้ความผิด ผ่านการนำเสนอด้วยรูปแบบสุดล้ำที่จะทำให้ลืมภาพนิทรรศการแบบเรียนเดิมๆ รวมถึงโซนหนังสือ Book Wonderland ซึ่งเปิดพื้นที่ให้วัยรุ่นได้แลกเปลี่ยนจินตนาการผ่านการอ่าน และนิทรรศการภาพถ่าย “Asian Smile” เสนอเรื่องราววิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณีของผู้คนจาก 10 ประเทศในมุมมองที่แตกต่างและหลากหลาย รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่มีประโยชน์อีกมากมายตลอด 12 วัน
นายจรัญ หอมเทียนทอง นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยว่ามหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 19 ถือเป็นงานแสดงหนังสือช่วงปลายปีที่ได้รับความสนใจและรอคอยจากบรรดาคนรักการอ่านมาโดยตลอด โดยในปีนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สวนกระแสเศรษฐกิจ และมีสำนักพิมพ์ทั่วประเทศตอบรับเข้าร่วมงานกว่า 435 สำนักพิมพ์ รวมทั้งสิ้น 923 บูท บนพื้นที่ประมาณ 21,000 ตารางเมตร
“ไฮไลท์สำคัญในงานครั้งนี้คือนิทรรศการ “ระลึกชาติในแบบเรียน” ซึ่งนำเสนอวิวัฒนาการของแบบเรียนไทยในอดีตถึงปัจจุบัน ที่ได้รับอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เศรษฐกิจ ตลอดจนการล่าอาณานิคมของชาติตะวันตก การสอดแทรกแนวคิดทางการเมืองในแต่ละยุคสมัยเข้าไปในแบบเรียนไทยตั้งแต่พ.ศ. 2411 ถึงปัจจุบัน จนอาจกล่าวได้ว่า แบบเรียนไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือของการอ่านออกเขียนได้เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือในการสร้างพลเมืองตามอุดมคติของสังคมในแต่ละยุคด้วย เน้นย้ำให้เห็นถึงการสร้างแบบเรียนในอดีตที่ผ่านมาว่าประสบความสำเร็จและล้มเหลวอย่างไร รวมถึงผลของการสร้างแบบเรียนเพื่อตอบโจทย์ฝ่ายการเมืองในอดีตที่ผ่านมา สามารถสร้างผลกระทบในระยะยาวของประเทศได้อย่างไร เป็นการแลหน้าเพื่อก่อความหวัง แลหลังเพื่อแก้ความผิด เพราะนี่คือหน้าที่ของทุกคนที่จะร่วมสร้างร่วมสะท้อนปัญหาและการแก้ไขไปพร้อม ๆ กัน เพื่อไม่ให้ปัญหาเก่าๆได้กลับมาอีก”
“ในด้านรูปแบบนิทรรศการ ได้รับการออกแบบที่โดดเด่น แตกต่างจากที่เคยทำมา แยกเป็นยุคๆรวม 6 ยุค โดยในแต่ละยุคกล่าวถึงหนังสือเล่มเด่นที่เป็นตัวแทนแนวคิดของยุคนั้นๆ เช่น แบบเรียนยุคแรก- ตาหวังหลังโก่ง แบบเรียนยุคชาติผู้ดี – พ่อหลีพี่หนูหล่อ แบบเรียนยุคประชาธิปไตย -ป้ากะปู่ กู้อีจู้ฯ เพื่อให้ผู้ชมได้เข้าใจถึงปัญหาและร่องรอยของพัฒนาการแบบเรียนไทย อันจะส่งผลต่ออนาคตของประเทศชาติและคนรุ่นต่อไป เพราะการศึกษาอดีตเพื่อแก้ไขความผิดในปัจจุบัน ย่อมสามารถสร้างความหวังในอนาคตได้ เมื่อเข้าใจถึงปัญหาต่างๆในอดีตแล้ว จะได้มองภาพอนาคตของประเทศชัดเจนขึ้น เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิรูปการศึกษาไทยใหม่อีกครั้ง และที่ขาดเสียไม่ได้ คือตัวอย่างหนังสือในแต่ละยุค ที่นำมาจัดแสดงให้คนรุ่นพ่อแม่ได้หวนรำลึก ขณะเดียวกันคนรุ่นปัจจุบันก็ได้สัมผัสมากมายหลายเล่ม”
นายจรัญยังเผยอีกด้วยว่า นอกจากนิทรรศการดังกล่าวแล้ว ยังมีกิจกรรมในงานที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ นิทรรศการภาพถ่าย “Asian Smile” จากช่างภาพชื่อดัง ที่จะมาร่วมเสนอเรื่องราววิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณีของผู้คนจาก 10 ประเทศ ด้วยมุมมองที่แตกต่างและหลากหลาย โซนอ่านสนุกอย่าง “Book Wonderland” ในห้องบอลรูม ดินแดนที่จะทำให้คุณตื่นเต้นไปกับจินตนาการแห่งโลกหนังสือ พร้อมของรางวัลมากมายที่แจกไม่อั้นในทุกวัน นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ผู้เข้าชมงานมหกรรมหนังสือฯจะสามารถใช้Wi-Fi ได้ฟรีรวม 2 ชั่วโมงต่อวัน ในบริเวณพื้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผ่าน SSID @ QSNCC Free Wi-Fi โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัท เคิร์ซ จำกัด
ที่สำคัญอย่างยิ่งคือกิจกรรมส่งเสริมการอ่านอย่างมีคุณภาพ “โครงการ ๑ อ่าน ล้านตื่น” โดยปีนี้คึกคักเป็นพิเศษเพราะมีของที่ระลึก ซึ่งออกแบบโดย โตโต้-องอาจ ชัยชาญชีพ นักวาดภาพประกอบชื่อดัง ส่งคอลเลคชั่น “เจ้าหัวแตงโมรักอ่าน” ทั้งเสื้อ กระเป๋า สมุดโน้ต รอสมนาคุณผู้ใจบุญ เพราะเพียงบริจาคเงินเริ่มต้นที่ 40 บาท ก็จะได้รับของที่ระลึกน่ารักนอกเหนือไปจากการมีส่วนเป็นผู้สร้างทุนทางปัญญาแก่เด็กด้อยโอกาส หรือเพียงบริจาคเงิน 5 บาทสำหรับแผ่นพับผู้เข้าชม รายได้ก็จะนำเข้าโครงการ ๑ อ่าน ล้านตื่นเช่นกัน
“โครงการ ๑ อ่าน ล้านตื่น” ถือเป็นโครงการแรกที่ให้สิทธิ์ผู้รับบริจาคในการเลือกหนังสือได้ด้วยตนเอง โดย สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ จะจัดซื้อหนังสือตามการเลือกสรรจากผู้ดูแลศูนย์เด็กเล็กและตัวแทนชุมชนคนรักอ่าน ทั้งนี้รายการหนังสือดังกล่าว จะได้รับการพิจารณาจากผู้แทนของสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย เพื่อให้แน่ใจได้ว่าเป็นหนังสือคุณภาพ
นอกจากนี้ยังต่อยอดโครงการด้วยกิจกรรมพิเศษคือ “วัน ๑อ่าน ล้านตื่น” ซึ่งจะชวนเด็ก ๆ ด้อยโอกาสกว่า 400 คน ได้มาเลือกหนังสือที่ตัวเองอยากอ่านในมหกรรมหนังสือฯ อีกด้วย
“กิจกรรมในวัน ๑ อ่าน ล้านตื่น จะจัดขึ้นในวันพุธที่ 15 และ 22 ของเดือนตุลาคม เป็นกิจกรรมที่ยกระดับการส่งเสริมการอ่านที่คาดหวังในเชิงคุณภาพ เด็กที่ได้รับเชิญมาจะเป็นเด็กด้อยโอกาสที่รักการอ่าน ซึ่งจะรับสิทธ์เลือกหนังสือให้ตนเอง 1 เล่ม และเลือกหนังสือไปฝากเพื่อนในโรงเรียนหรือชุมชนที่เป็นต้นสังกัดในคูปองส่วนที่เหลือ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้รู้จักการแบ่งปัน เพราะต้องนำหนังสือที่เลือกกลับไปเข้าห้องสมุดของชุมชนหรือองค์กรของตน เพื่อให้เด็กอื่นๆได้มีโอกาสเข้าถึงหนังสือด้วย และถ้าโรงเรียนหรือองค์กรใดต้องการได้รับเชิญมาอีกในครั้งต่อไป เด็กๆจะต้องเขียนความประทับใจในหนังสือเล่มใดเล่มหนึ่งที่อ่านจบ ส่งกลับมายังสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ก็จะได้รับเชิญให้มาร่วมงานอีกในโอกาสต่อไป
เราตั้งใจทำอย่างนี้เพื่อส่งเสริมการอ่านให้เกิดขึ้นจริงๆ ให้เด็กๆได้อ่านหนังสือที่ตนเองเลือกเอง ไม่ใช่เก็บไว้เฉยๆในห้องสมุด และเด็กที่รักการอ่านจะเป็นเชื้อไฟอย่างดีที่จะชวนเพื่อนเด็กด้วยกันอ่าน เพราะหนังสือที่มีคุณค่าคือหนังสือที่มีคนอ่าน”
งานใหญ่เช่นนี้ยังไม่หมดกิจกรรมดี ๆ “Thai Book Society” เว็บไซต์ชุมชนคนทำหนังสือจัดกิจกรรมต้อนรับสมาชิกด้วย “คาราวานวาดสด” พบศิลปินนักวาดภาพประกอบชื่อดังได้ทุกวันบริเวณฮอลล์ เอ พร้อมรับวาดภาพเหมือน การ์ตูนล้อ ให้ได้เก็บเป็นที่ระลึกในราคาพิเศษที่นี่ที่เดียว โดยรายได้ส่วนหนึ่งสมทบทุนโครงการ๑ อ่าน ล้านตื่นเช่นกัน
ในส่วนของความคาดหวังนั้น นายจรัญกล่าวว่านอกจากในส่วนของเศรษฐกิจที่สำนักพิมพ์ทุกแห่งหวังว่างานครั้งนี้น่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายได้ในระดับหนึ่ง หลังจากที่ผ่านมาภาพรวมของธุรกิจหนังสือค่อนข้างซบเซาแล้วนั้น ความคาดหวังสูงสุดของสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯคือ งานที่เกี่ยวกับหนังสือในทุกครั้งจะมีส่วนช่วยกระตุ้นและจูงใจให้คนที่รักการอ่านหรือคนที่เริ่มจะอ่านมาร่วมกิจกรรมการอ่านการเขียนต่างๆมากขึ้น แม้กำลังซื้อจะลดลงบ้างตามสภาพเศรษฐกิจก็ตาม
เตรียมตัวให้พร้อม ช้อปความสุข พกความรู้กลับบ้านในงาน “มหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 19 (Book Expo Thailand 2014)” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันพุธที่ 15 ตุลาคม– วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2557 ( 12 วัน) เวลา 10.00 - 21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
นักอ่านต้อนรับงานมหกรรมหนังสือครั้งที่ 27 กลับบ้าน ด้วยยอดขาย 347 ล้านบาท 12 วันผู้เข้าชมงาน 1.3 ล้านคน
"นักอ่านเตรียมพร้อมลุย Booktopia ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27"
ฟังเหล่าพลเมืองนักอ่าน…หนังสือเล่มไหนจุดประกายความเป็นนักสร้าง
PUBAT จัดงานมหกรรมหนังสือฯ ครั้งที่ 27 BOOKTOPIA: อ่าน-สร้าง-เมือง ชวนนักอ่านต้อนรับงานหนังสือกลับบ้าน ศูนย์ฯ สิริกิติ์ 12 - 23 ตุลาคม นี้
เก็บตกสัปดาห์หนังสือฯ เปิดข้อมูลที่น่าสนใจ #งานหนังสือที่บางซื่อ ต้อนรับการกลับมาของมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เดือนตุลาคมนี้!
บรรยากาศคึกคัก เหล่านักอ่านพร้อมใจช้อปหนังสือ งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 23
สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ชวนหนอนหนังสือบุก มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 23 และเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 12
ปิดฉากงานมหกรรมหนังสือครั้งที่ 22 หนังสือพระราชนิพนธ์ พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รวมถึงความรู้เกี่ยวกับพระเมรุมาศ ได้รับความสนใจสูงสุดจากประชาชน รวม 12 วันมีผู้เข้าชมงานกว่า 1.8 ล้านคน
สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ เตรียมจัดมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 22 น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร” ที่มีต่อวงการหนังสือไทย ด้วยนิทรรศการ “ความทรงจำ”