ปตท. แจ้งข่าวดี โรงแยกก๊าซฯ หน่วยที่ 5 เดินเครื่องได้ตามปกติแล้ว

10 Oct 2014
นายชาครีย์ บูรณกานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท . จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่โรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 5 จำเป็นต้องหยุดเดินเครื่องจากอุบัติเหตุฟ้าผ่าที่อุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อนจากไอเสียเครื่องยนต์ (Waste Heat Recovery Unit, WHRU) เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมานั้น โดย ปตท. ได้ติดตั้งอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อนชุดสำรอง ณ โรงแยกก๊าซฯ หน่วยที่ 5 ในเดือนเมษายน 2557 ทำให้กลับมาเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต ลดผลกระทบในการผลิตและนำเข้าก๊าซแอลพีจี รองรับความต้องการใช้ของผู้ใช้พลังงาน และล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2557 ปตท. ได้ทำการติดตั้งอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อนจากไอเสียเครื่องยนต์ชุดใหม่เสร็จสมบูรณ์ ทำให้สามารถเดินเครื่องได้ตามปกติ รวมทั้งได้ผ่านช่วงระยะเวลาทดสอบประสิทธิภาพการเดินเครื่องเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งได้ออกแบบและปรับปรุงระบบป้องกันเหตุเพิ่มเติมอีกด้วย

ทั้งนี้ โรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 5 มีความสามารถในการผลิตก๊าซธรรมชาติในปริมาณ 570 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันโดยมีกำลังการผลิตก๊าซแอลพีจีสูงสุดที่ 2,500 ตันต่อวันเพื่อจ่ายก๊าซธรรมชาติและก๊าซแอลพีจีเป็นเชื้อเพลิงให้แก่โรงไฟฟ้า ภาคธุรกิจอุตสาหกรรม และภาคปิโตรเคมี ซึ่งในช่วงที่ดำเนินการซ่อมแซม ปตท . ได้บริหารจัดการปริมาณก๊าซแอลพีจีเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศ โดยลดการจ่ายก๊าซแอลพีจีในภาคอุตสาหกรรมและภาคปิโตรเคมี เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาคครัวเรือนผู้ใช้พลังงาน

“จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ปตท. ได้ทบทวนและปรับปรุงอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อป้องกันและเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ โดยเฉพาะการคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้พลังงาน ซึ่งเป็นพันธกิจสำคัญที่ ปตท. มุ่งมั่นตลอดมาทั้งในวันนี้และในอนาคต” นายชาครีย์ กล่าวเสริมในตอนท้าย