ทั้งนี้ โรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 5 มีความสามารถในการผลิตก๊าซธรรมชาติในปริมาณ 570 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันโดยมีกำลังการผลิตก๊าซแอลพีจีสูงสุดที่ 2,500 ตันต่อวันเพื่อจ่ายก๊าซธรรมชาติและก๊าซแอลพีจีเป็นเชื้อเพลิงให้แก่โรงไฟฟ้า ภาคธุรกิจอุตสาหกรรม และภาคปิโตรเคมี ซึ่งในช่วงที่ดำเนินการซ่อมแซม ปตท. ได้บริหารจัดการปริมาณก๊าซแอลพีจีเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศ โดยลดการจ่ายก๊าซแอลพีจีในภาคอุตสาหกรรมและภาคปิโตรเคมี เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาคครัวเรือนผู้ใช้พลังงาน
“จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ปตท. ได้ทบทวนและปรับปรุงอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อป้องกันและเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ โดยเฉพาะการคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้พลังงาน ซึ่งเป็นพันธกิจสำคัญที่ ปตท. มุ่งมั่นตลอดมาทั้งในวันนี้และในอนาคต” นายชาครีย์ กล่าวเสริมในตอนท้าย
                            
                            ภาพข่าว: ปตท. รับรางวัล อุตสาหกรรมดีเด่น ประจำปี 2557
                        
                            ปตท. จับมือ โออาร์ ศึกษาและพัฒนาตลาดโซเดียมไบคาร์บอเนต ใช้ประโยชน์จากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ รักษาสิ่งแวดล้อม
                        
                            ไปรษณีย์ไทย-ปตท. ขยายพื้นที่รับกล่อง - ซอง ไม่ใช้แล้ว ณ สถานีบริการเอ็นจีวี 48 แห่ง ทั่วประเทศ
                        
                            ปตท. เผยมาตรการความปลอดภัย ป้องกันโควิด-19 พื้นที่ปฏิบัติการ จ.ระยอง