รศ.ดร.มนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต (MPA) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) แนะว่า การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล จำเป็นต้องให้ตอบโจทย์เป้าหมายทางเศรษฐกิจ 3 เรื่องเป็นหลัก คือ เศรษฐกิจเติบโตในอัตราสูง ซึ่งจะก่อเกิดการจ้างงาน ประชาชนมีรายได้ เป้าที่ 2 คือ กระจายรายได้เท่าเทียม นั่นคือประชาชนทุกคนได้ประโยชน์จากความเจริญและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ทั่วถึง และเป้าสุดท้าย คือ การรักษาเสถียรภาพระดับราคาและค่าเงิน ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยที่พึ่งพาภาคต่างประเทศ 72% และพึ่งพาภายในประเทศ 28% โดยต้องดำเนินการให้เกิดความผันผวนของค่าเงินน้อยที่สุดในระดับที่ผู้ประกอบการรับได้ และเป็นประโยชน์ต่อผู้ส่งออกและธุรกิจภาคการท่องเที่ยว ส่วนเงินเฟ้อหรือระดับราคานั้น ควรกำกับให้อยู่ในกรอบ
ทั้งนี้ ตามกรอบเป้าหมายทางเศรษฐกิจนั้น บางเรื่องสามารถดำเนินการได้ในระยะสั้น บางเรื่องต้องใช้ระยะเวลานานถึงจะสัมฤทธิ์ผล อย่างเช่น ในส่วนของเป้าหมายที่ 2 เรื่องการกระจายรายได้เท่าเทียมนั้น ต้องใช้ระยะเวลานานในการดำเนินการ ซึ่งในส่วนนี้ภาครัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บรรลุผล อาทิ การแก้ปัญหาในภาคเกษตรกร ควรจะดำเนินมาตรการเพื่อการเพิ่มผลผลิตในภาคการเกษตร เพราะนอกจากจะเป็นการลดต้นทุนแล้ว ยังเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลก่อเกิดประโยชน์อย่างยั่งยืน และยังตอบโจทย์เป้าหมายการกระจายรายได้ไปพร้อมกันด้วย
อย่างไรก็ตาม ภายใต้สภาวการณ์เศรษฐกิจประเทศไทยในตอนนี้ ภาครัฐต้องทำหน้าที่กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณค้างท่อปี 57 โดยเฉพาะในส่วนของงบลงทุนและงบประมาณปี 58 ส่วนแรก ซึ่งรวมกันกว่า 400,000 ล้านบาท ส่วนในเรื่องของมาตรการภาษีนั้น แม้จะตอบโจทย์เรื่องความเป็นธรรม แต่เป็นมาตรการที่ต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินงาน นอกจากนี้ ในระยะสั้นนั้น ภาครัฐบาลต้องสนับสนุนการลงทุนภาคเอกชน ปลดล็อค รง.4 ซึ่งเป็นโรงงานที่สร้างแล้วเสร็จรอการเปิดกว่า 800 โรง และเป็นบรรยากาศที่เอื้อต่อการลงทุน ตลอดจนดำเนินการต่อเนื่องไปถึงในส่วนของ เอส เอ็ม อี ซึ่งอาจจัดให้เป็นมาตรการระยะกลางซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้ นอกจากนี้ ต้องใช้โอกาสช่วงไฮซีซั่นเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยอำนวยความสะดวกสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว เน้นเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เนื่องจากบริษัทประกันไม่คุ้มครองให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศที่มีการประกาศกฎอัยการศึก ดังนั้นหากรัฐบาลเร่งรัดปลดล็อคแก้ไขในส่วนนี้ได้อย่างเร่งด่วน จะเป็นการช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวที่ก่อเกิดรายได้ให้กับประเทศได้มากขึ้น
“การประสานของหน่วยงานเป็นเรื่องที่สำคัญภายใต้ทรัพยากรที่จำกัด กรอบระยะเวลาที่มีกำหนด การประสานงานที่ดีจะช่วยลดต้นทุน ลดความซ้ำซ้อนเกิดอรรถประโยชน์ได้สูงสุด เพราะการที่จะบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจได้นั้นจำเป็นต้องใช้การดำเนินการร่วมกันระหว่างกระทรวง เพื่อขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกันนั้น ดังนั้นการเร่งดำเนินมาตรการเพื่อบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจ โดยมุ่งแก้ไขปากท้องประชาชนและปัญหาทางเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้น กลาง ยาวแล้ว การบริหารงานให้ก่อเกิดการประสานงานระหว่างกัน จึงนับเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่รัฐบาลต้องใส่ใจ” ดร.มนตรี กล่าว
เด็กหัวเฉียวสุดปังคว้ารางวัลชนะเลิศเวทีนานาชาติ
โทเคน เอกซ์ จับมือ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) โดย คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ ลงนาม MOU เสริมทักษะนักศึกษา เชื่อมเครือข่ายอุดมศึกษา-อุตสาหกรรม
จากวิสัยทัศน์สู่การลงมือจริง ผู้บริหารบางจากฯ จุดประกายแนวคิด Feasibility Study แก่นักศึกษาปริญญาโทนิด้า
NIDA จับมือรัฐ-เอกชน-ภาคการศึกษา เปิดหลักสูตร "Gen AI x Low-Carbon Tourism" เสริมศักยภาพท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำด้วย AI
เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล ผนึก NIDA เปิดการอบรมหลักสูตร "ผู้บริหารระดับสูงด้านเศรษฐกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม"
กสิกรไทยร่วม COP29 ผลักดันความมุ่งมั่นด้านสภาพภูมิอากาศของไทย หนุนใช้นวัตกรรมการเงินและการจัดการคาร์บอน
บางจากฯ แบ่งปันแนวคิดการจัดการงานสื่อสาร แนวคิดการบริหารธุรกิจอย่างมีสมดุล เพื่อความยั่งยืน
สอวช. จับมือ NIDA ปลุกปั้น Festival ไทยให้รู้จักไปทั่วโลก ยกประเพณีสงกรานต์ 67 เป็นกรณีศึกษา หลังเงินสะพัด 1.4 แสนล้าน
โบลท์ (Bolt) เผยสถิติ คนไทยมีแนวโน้มหันมาเลือกการเดินทางแบบปลอดมลพิษมากขึ้น