UACเป้ารายได้ปีนี้แตะ1,500ล้านบาท เดินหน้าลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทน –เทรดดิ้ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

           บมจ. ยูเอซี โกลบอล หรือ UAC ตั้งเป้ารายได้ปี 58 แตะระดับ 1.5 พันล้านบาท หลังบุ๊ครายได้ APC 400 ล้านบาท ด้านประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “กิตติ ชีวะเกตุ” เผยตั้งงบลงทุนพลังงานทดแทนปีนี้ 1 พันล้านบาท ทั้งโรงไฟฟ้าชีวมวล โรงไฟฟ้าขยะ โรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส และโซลาร์รูฟ คาดเร็วๆนี้ได้ข้อสรุปเจรจาพันธมิตรใหม่ 
          นายกิตติ ชีวะเกตุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า ในปี 2558 บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตมากกว่า 1,500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่เคยตั้งไว้ คือ 1,200 – 1,300 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากการรับรู้รายได้ของบริษัท แอ๊ดวานซ์ โพลิเมอร์ แอนด์ เคมิคอล จำกัด หรือ APC เข้ามามากกว่า 400 ล้านบาทในปีนี้ และโรงงานที่ จ. เชียงใหม่ ที่สุโขทัย ขอนแก่น และ โซล่ารูป จะเดินหน้าผลิตได้เต็มที่ 
          สำหรับแผนในการขยายธุรกิจปีนี้ บริษัทฯตั้งงบลงทุนไว้ จำนวน 1,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นใช้ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส 6 โรง มีกำลังการผลิต 9 เมกะวัตต์ ประมาณ 300 ล้านบาท ,โครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ โซลาร์รูฟ กำลังการผลิต 2 เมกะวัตต์ ประมาณ 50 ล้านบาท และใช้ไปกับการซื้อ APC อีก 250 ล้านบาท 
          ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายการขยายธุรกิจด้านพลังงานทดแทนให้ได้ตามเป้า 30 เมกะวัตต์ และธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และใช้เพื่อการเจรจาซื้อกิจการ ซึ่งขณะนี้ ได้เจรจากับพันธมิตรธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลไว้แล้ว 2-3 รายมูลค่าการลงทุนที่ 600-700 ล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเร็ว ๆ นี้ จึงตั้งเป้า 3 ปีคาดว่าจะสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นให้ได้อย่างน้อยปีละ 5 โรงกำลังการผลิตรวม 7.5 เมกะวัตต์
ด้านการขยายธุรกิจด้านเคมีภัณฑ์ บริษัทฯ ก็มีแผนต่อยอดธุรกิจจากการควบกิจการกับทาง APC โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมเจรจาร่วมกับพันธมิตรจากประเทศยุโรปและญี่ปุ่น เพื่อร่วมทุนต่อยอดธุรกิจ นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนเตรียมส่งสินค้าไปจำหน่ายในประเทศ CLMV ได้แก่ ประเทศกัมพูชา ลาว พม่าและเวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปการเจรจาในเร็ว ๆ นี้ นอกจากนี้บริษัทฯ ก็ยังมีแผนที่จะนำบริษัทฯ ลูก คือ บริษัท แอ๊ดวานซ์ โพลิเมอร์ แอนด์ เคมิคอล จำกัด หรือ APC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการเตรียมความพร้อมต่าง ๆ 
          “ปีนี้บริษัทมีการขยายธุรกิจพลังงานทดแทนในแบบเชิงรุกมากขึ้น เพราะเล็งเห็นว่าธุรกิจด้านพลังงานทดแทนในอนาคตมีการเติบโตที่ดี และอีกประการหนึ่ง ภาครัฐก็ได้ให้ความชัดเจนแล้วในการให้การส่งเสริมด้านพลังงานทดแทนเพื่อความยั่งยืน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมองว่าบริษัทฯ มีศักยภาพที่จะขยายธุรกิจไปให้ได้มากขึ้น โดยตั้งเป้าขยายโรงไฟฟ้าชีวมวล หรือไบโอแก๊ส ประมาณ 10 แห่งต่อปี ซึ่ง 1 แห่งจะมีกำลังการผลิตที่ 1.5 เมกะวัตต์ ดังนั้นจึงคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ประมาณ 40 ล้านบาทต่อปี 10 แห่ง”นายกิตติ กล่าว
ส่วนความคืบหน้าการศึกษาความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการลงทุนทั้งการซื้อกิจการและการเข้าไปร่วมทุนกับพันธมิตรเพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปแผนการดำเนินธุรกิจได้ภายในต้นไตรมาส 2/2558 
          ด้านโรงไฟฟ้าชีวมวลตอนนี้กำลังศึกษารูปแบบการลงทุน ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งการจะเข้าซื้อกิจการ และการร่วมทุน ตอนนี้มีคุยกับเจ้าของโรงไฟฟ้าชีวมวลอยู่หลายแห่ง ถ้าเราเข้าซื้อจะสามารถบันทึกรายได้เข้ามาทันที แต่ถ้าเรารอสร้างใหม่ต้องรออีก 1-2 ปี แต่การลงทุนก็จะใช้เงินน้อยกว่าการซื้อกิจการ
          สำหรับโรงไฟฟ้าจากขยะ ต้องรอดูนโยบายการรับซื้อไฟฟ้าจากทางภาครัฐก่อน แล้วบริษัทฯ จะดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินธุรกิจต่อไป ทั้งนี้อยู่ระหว่างเจรจาร่วมกับพันธมิตรอยู่ 2-3 ราย คาดว่าจะเห็นได้ชัดเจนในไตรมาส 2/2558 บริษัทฯ คาดเห็นชัดเจนและดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวะมวลเป็นอันดับแรก เนื่องจากเป็นธุรกิจที่สามารถดำเนินการได้ง่ายกว่าโรงไฟฟ้าขยะ ปัจจุบันวัตถุดิบในโครงการ หรือโรงงานส่วนใหญ่มาจากหญ้าเนเปียร์ จะมีเพียงแต่ที่โรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่ใช้วัตถุดิบจาก Associated gas เท่านั้น และมีพลังงานแสงอาทิตย์ ในโครงการโซลาร์รูฟ อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ก็กำลังศึกษาและหาทางที่จะนำวัตถุดิบอื่น ๆ มาใช้ในการขยายธุรกิจด้านพลังงานทดแทนอีกด้วย จึงโดยมั่นใจว่าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงาน 50% และธุรกิจเคมีภัณฑ์ 50% ภายในปี 2560 ได้ 
          ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ยูเอซี โกลบอล (UAC ) กล่าวเพิ่มถึงแผนการดำเนินการขยายธุรกิจด้านเคมีภัณฑ์ ปัจจุบันว่า บริษัทฯมีการดำเนินการต่อยอดธุรกิจจากการควบกิจการกับทาง APC ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจผู้ผลิตและจำหน่ายเคมีภัณฑ์ โดยมีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เคมีภัณฑ์ประเภทลาเท็กซ์อิมัลชั่น (โพลิเมอร์อิมัลชั่น และโพลิเมอร์โซลูชั่น) ที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้แก่ อุตสาหกรรมสีและอุตสาหกรรมก่อสร้าง การเคลือบอุตสาหกรรมหมึกพิมพ์ อุตสาหกรรมผลิตวัสดุจากใยสังเคราะห์ เพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม กาว เทปกาว กระดาษและบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น 
          โดยมีแผนจะพัฒนาโปรดักส์ ใหม่ร่วมกับพันธมิตร โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมเจรจาร่วมกับพันธมิตรจากประเทศยุโรป และญี่ปุ่น เพื่อร่วมทุนต่อยอดธุรกิจ นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนเตรียมส่งสินค้าไปจำหน่ายในประเทศ CLMV ได้แก่ ประเทศกัมพูชา ลาว พม่าและเวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปการเจรจาในเร็ว ๆ นี้ สำหรับ ถือเป็นการขยายธุรกิจไปสู่การเป็นผู้ผลิตในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์เพิ่มเติมจากการเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ 
          นอกจากนี้บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและชุมชน เพื่อความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ โดยบริษัทฯ ได้ส่งเสริมให้เกษตรกรในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงโรงงานหรือผู้ที่สนใจเรื่องการปลูกหญ้า เนเปียร์ โดยบริษัทฯมีทีมงานเข้าไปให้ความรู้ วิธีการปลูก คำแนะนำในการปลูก และการเก็บเกี่ยว 
          ขณะเดียวกันบริษัทฯ ก็จะรับซื้อหญ้าเนเปียร์ทั้งหมดในราคาหน้าโรงงาน ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้เกษตรมีรายได้อีกทางหนึ่ง และเนื่องจากบริษัทฯ มีโรงงานที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ก็มีความต้องการวัตถุดิบดังกล่าวเป็นจำนวนมากเช่นกัน เช่น ที่ จ. เชียงใหม่ บริษัทฯ มีโรงงาน 2 แห่ง มีความต้องการหญ้าที่จะใช้เข้าไปในระบบการผลิตทุกวัน นอกจากนี้ยังมีโรงงานอื่น ๆ อีกหลายแห่งที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง เช่น โรงงานที่ จ. ขอนแก่น เราก็ต้องการวัตถุดิบดังกล่าวเป็นจำนวนมากเช่น กัน โดยวิธีการส่งเสริม เราใช้แนวทางหรือหลักการเดียวกัน คือ ส่งทีมเข้าไปให้ความรู้ ความเข้าใจ เรื่องวิธีการปลูก การดูแลรักษาและการเก็บเกี่ยว เป็นต้น 
          อย่างไรก็ดีมองว่าแนวโน้มด้านธุรกิจพลังงานทดแทนในปีนี้และอีก 2-3 ปีข้างหน้าจะยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เนื่องจากจะเห็นได้ว่า รัฐบาลมีนโยบายที่ค่อนข้างชัดเจนที่จะส่งเสริมให้เกิดการใช้พลังงานทดแทนในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยแผนพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก 20 ปี (ปี 2558-2579) ได้เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนเป็น 22-25% จากปัจจุบันอยู่ที่ 11% รองรับปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตตามคาดการณ์ ซึ่งให้ความสำคัญกับการใช้เชื้อเพลิงทางเลือกในการผลิตไฟฟ้า 3 ประเภทคือ พลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาเซลล์) ขยะ และชีวมวล ชีวภาพ โดยในส่วนโซลาร์เซลล์ มีแผนจะเปิดรับซื้อไฟฟ้าเพิ่มอีกเท่าตัวหรือประมาณ 3,000 เมกะวัตต์ จากปัจจุบัน ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาโครงการค้างท่อจำนวน 1,013 เมกะวัตต์ ตลอดจนโครงการติดตั้งโซลาเซลล์บนหลังคา 200 เมกะวัตต์ และโครงการโซลาร์เซลล์สหกรณ์-หน่วยงานราชการ 800 เมกะวัตต์ รวม 3,000 เมกะวัตต์ 
          นอกจากนี้ การส่งเสริมโรงไฟฟ้าขยะ และชีวะมวล มีแนวคิดเปิดรับซื้อไฟฟ้าแบบไม่มีโควตา ซึ่งผู้สนใจที่มีความพร้อมและอยู่ในเงื่อนไขหลักเกณฑ์ที่กำหนด ก็จะได้รับการพิจารณาด้วยอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ Feed-in Tariff หรือ FiT
 
 

ข่าวธุรกิจพลังงานทดแทน+โรงไฟฟ้าไบโอแก๊สวันนี้

TEGHสุดสตรอง! แย้มครึ่งปีหลังโตแกร่ง รับผลดียอดขายยางแท่ง EUDR หนุน เล็งส่งยานลูก TEBP เข้า mai ปีนี้ ตั้งเป้ารายได้ปี 68 แตะ 22,000 ล้านบาท

บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) ส่งซิกแนวโน้มงานครึ่งหลังปี 68 โตแกร่ง! ยอดขายยางแท่ง EUDR หนุน-ปาล์ม turn around ธุรกิจพลังงานทดแทน โต ฟากแม่ทัพหญิง "สินีนุช โกกนุทาภรณ์"ระบุมั่นใจรายได้ปีนี้ แตะ 22,000 ล้านบาท เปิดเกมรุกนำบริษัทย่อย "ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์" (TEBP) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ปลายปี 68 นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (TEGH) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งหลังของปีนี้ ยังมีทิศทางที่สดใส และราย

บมจ. เชาว์ ไบรท์ เวนเจอร์ส โฮลดิ้งส์ หรือ... CHOW โชว์พลัง! เสริมทัพธุรกิจเหล็ก-พลังงาน ตอกย้ำศักยภาพสู่อนาคตในงาน mai FORUM 2025 — บมจ. เชาว์ ไบรท์ เวนเจอร์ส โฮลดิ้งส์ หรือ CHOW เดินหน้าสร้างความเชื...

คุณกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี (กลาง) ประธานคณ... TPCH ลุยพัฒนาธุรกิจพลังงานทดแทนใน-ตปท. — คุณกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี (กลาง) ประธานคณะกรรมการบริหาร, คุณเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล (ที่ 2 จากซ้าย)...