จุดกระแสอุปกรณ์สวมใส่อิเล็กทรอนิกส์หรือ Wearable devices ปี 2558: ปีที่สมาร์ทแกดเจ็ตไม่ใช่ของเล่นชิ้นใหม่ในตลาด

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          MKS ที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และข้อมูลในอุตสาหกรรมไอซีที ให้น้ำหนักแนวโน้มการเติบโตของอุปกรณ์สวมใส่อิเล็กทรอนิกส์หรือ Wearable devices จะเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีที่ทั้งผู้บริโภคและกลุ่มผู้ใช้งานเชิงธุรกิจสามารถเข้าถึงได้ นำไปประยุกต์ใช้งานในอุตสาหกรรมได้จริง เปลี่ยนภาพจากเดิมที่เป็นเพียงของเล่นไฮเทคในกลุ่มสมาร์ทดีไวซ์เท่านั้น
          เมื่อกล่าวถึงกระแสความนิยมของอุปกรณ์สวมใส่อิเล็กทรอนิกส์ หรือ Wearable devices (หรืออีกชื่อหนึ่งว่ากลุ่ม Smart gadgets) ในตลาดเทคโนโลยีของประเทศไทยนั้น จะเริ่มมีผลิตภัณฑ์ลงตลาดให้เลือกตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา ไม่ว่าจะเป็นสายรัดข้อมืออัจฉริยะ (Smart wristband) อุปกรณ์ติดตามส่วนบุคคล หรืออุปกรณ์เสริมในการช่วยเก็บข้อมูลเชิงสถิติของผู้ใช้งาน แต่สินค้ากลุ่มนี้ในอดีตกลับมีการเติบโตแบบไร้ทิศทางในขณะที่บางรายกลับหายไปจากตลาดเช่นกัน แต่ในปี 2558 นี้ นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมเชื่อว่า อุปกรณ์สวมใส่อิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวจะกลับมานิยมและเป็นที่รู้จักในตลาดมากขึ้น สามารถจุดกระแสการใช้งานเชิงประยุกต์ ต่อยอดจากผู้ใช้งานในกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปที่มีความคล่องตัวสูงในการใช้สมาร์ทดีไวซ์ประเภทต่าง ๆ และยังสร้างมูลค่าเพิ่มในเชิงธุรกิจกับกลุ่มลูกค้าองค์กรได้อย่างแท้จริง ในขณะเดียวกันผู้ผลิตเองต่างทยอยนำเสนอเทคโนโลยีและเซ็นเซอร์ที่ทันสมัยเข้าไปในอุปกรณ์พกพาประเภทดังกล่าวออกสู่ตลาดอย่างทันท่วงที แม้ว่าการจัดประเภท หมวดหมู่และความต้องการของอุปกรณ์เหล่านี้ยังไม่เด่นชัดเหมือนกับตลาดในต่างประเทศที่ตลาดมีการแบ่งหมวดหมู่ไว้ค่อนข้างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Smartwatch กลุ่มอุปกรณ์สวมใส่อิเล็กทรอนิกส์เพื่อประโยชน์เฉพาะด้าน อาทิ Sport Fitness and Healthcare หรือกลุ่ม Security and defense (อาทิ ข้อมือหรือกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว) ก็ตาม แต่ก็นับเป็นหนึ่งในกลุ่มสินค้าที่สามารถเพิ่มมูลค่าในระดับทุติยภูมิต่อเนื่องที่เป็นผลจากการเติบโตของสมาร์ทดีไวซ์ (Smartphones และ Tablets) ในประเทศไทย ที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ไม่เคยต่ำกว่าร้อยละ 35 ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน
          เอ็มเคเอส หรือ มัคคานซิส (MKS) ได้จัดให้อุปกรณ์สวมใส่อิเล็กทรอนิกส์หรือ Wearable devices เป็น 1 ใน 5 แนวโน้มทางเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อการเติบโตและพัฒนาการด้านการดำเนินธุรกิจไอซีทีของประเทศไทย (ICT Business Trends) จากการคาดการณ์มูลค่าตลาดของอุปกรณ์สวมใส่อิเล็กทรอนิกส์ในปี2558 นี้ (ของทุกประเภทแต่ไม่นับกลุ่ม Security and defense) จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 650 ล้านบาท และสามารถเติบโตได้สูงถึง 950 ล้านบาทเมื่อผนวกเข้ากับมูลค่าเพิ่มที่เกิดจากโซลูชั่นที่เกี่ยวข้องในเชิงธุรกิจ ซึ่งในปี 2558 นี้ กระแสความนิยมจะเกิดขึ้นในลักษณะหัวกลับคือความนิยมและการเข้าถึงจะเริ่มจากกลุ่มผู้บริโภคหรือผู้ใช้งานทั่วไปก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นจะมีภาคธุรกิจอุตสาหกรรมที่มองเห็นอุปกรณ์เหล่านี้เป็นอุปกรณ์ปลายทางที่สามารถใช้เป็นช่องทางเพื่อเก็บ ติดตาม และประมวลผลข้อมูลเบื้องต้นก่อนที่จะผนวกข้อมูลดังกล่าวเสนอเป็นโซลูชั่นต่อไป โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีภาพแนวโน้มนำไปพัฒนาเป็นโซลูชั่นด้านธุรกิจคงไม่พ้นอุตสาหกรรมบริการสุขภาพ (Healthcare services) อุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ (Transportation and logistics) โดยเฉพาะภาพของการประยุกต์ใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการสุขภาพนั้น มีแนวโน้มความเป็นจริงค่อนข้างสูงในอีกไม่ช้า
นายอรรถพล สาธิตคณิตกุล –ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และธุรกิจไอซีที กล่าวว่า “ขอยกตัวอย่างในปีนี้ ถ้าให้น้ำหนักกับอุตสาหกรรมบริการสุขภาพที่มีการนำประโยชน์ของเทคโนโลยีดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ เราอาจจะได้เห็นการทำงานของอุปกรณ์ถูกผนวกเข้ากับโซลูชั่นทางธุรกิจ ที่จะเข้ามาช่วยในการเก็บรวมรวมข้อมูล รวมถึงติดตามการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ป่วย อันจะเป็นประโยชน์ในการใช้เป็นข้อมูลก่อนการวินิจฉัย ติดตามโรค ประเมินผลเบื้องต้น และเป็นประโยชน์ต่อบุคลากรทางการแพทย์ในการร่วมกันวางแผนการรักษาที่ดีและแม่นยำขึ้น ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลสถิติอัตราการเต้นของหัวใจ ชีพจร ระดับน้ำตาลและเวลาเตือนการฉีดอินซูลินในผู้ป่วยโรคเบาหวาน การคำนวณการเผาผลาญพลังงานเฉลี่ยต่อวัน หรือแม้กระทั่งใช้เฝ้าติดตามปริมาณการใช้ยา และสถานที่ที่ผู้ป่วยเสี่ยงต่ออาการภูมิแพ้ต่อระบบทางเดินหายใจ (เช่น โรคหอบ-หืด)ในเชิงระบาดวิทยา เป็นต้น”
          อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของการเข้าถึงการใช้งานของอุปกรณ์เหล่านี้ยังมีปัจจัยด้าน “ราคา” ที่ถือเป็นหนึ่งในอุปสรรคและความท้าทายในปัจจุบัน ที่อาจจะถูกจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีในระยะแรก รวมถึงความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์จากการใช้งานสูงสุด มากกว่าการที่นักพัฒนาจะมุ่งพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่ออ่านค่าเซ็นเซอร์เพียงเท่านั้น โดยถือว่าเป็นหนึ่งในอุปสรรคของการเติบโตของตลาดสำหรับปีนี้เช่นกัน
          “เมื่ออุปกรณ์สวมใส่อิเล็กทรอนิกส์มีการใช้งานอย่างหลากหลายแล้ว เราคงได้เห็นการสร้างมูลค่าเพิ่มระหว่างตัวอุปกรณ์ โซลูชั่นทางธุรกิจ และองค์ความรู้จากวิชาชีพในอุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน อันจะก่อให้เกิดระบบนิเวศน์ (Business ecosystem) ทางธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มในเชิงเศรษฐศาสตร์ให้กับอุตสาหกรรมนั้น ๆ อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับแนวคิดของยุคดิจิตอลอิโคโนมี่นั่นเอง” –นายอรรถพล กล่าวเสริม.

          เกี่ยวกับเอ็มเคเอส หรือมัคคานซิส (มัค-คาน-ซิส / MKS): บริษัท มัคคานซิส (ประเทศไทย) จำกัด หรือชื่อในอุตสาหกรรมคือ “MKS” เป็นบริษัทที่ให้บริการงานที่ปรึกษาและคำแนะนำด้านกลยุทธ์การเข้าถึงตลาดเทคโนโลยี (Go-to-market) การให้บริการงานที่ปรึกษารวมถึง บริการคำปรึกษา ความเชี่ยวชาญทางธุรกิจไอที งานวิเคราะห์ด้านแนวโน้มเทคโนโลยีและข้อมูลทางการตลาดสารสนเทศ การพัฒนาและประเมินแบบจำลองทางธุรกิจ นอกจากนี้ MKS ยังให้บริการงานวิจัยพื้นฐานด้านลูกค้าสัมพันธ์ ความพึงพอใจในการใช้บริการ รวมถึงบริการฝึกอบรมเชิงกลยุทธ์และการจัดการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารและโทรคมนาคม


ข่าวอุตสาหกรรมไอซีที+อิเล็กทรอนิกส์วันนี้

หัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ เปิดตัวโซลูชันโรงไฟฟ้าเสมือนอัจฉริยะ ในการประชุมสุดยอดว่าด้วยประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอุตสาหกรรมไอซีทีระดับโลก

การประชุมสุดยอดว่าด้วยประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอุตสาหกรรมไอซีทีระดับโลก (Global ICT Energy Efficiency Summit) ครั้งที่ 7 ภายใต้แนวคิด "ไซต์สีเขียว อนาคตสดใส" (Green Site, Brighter Future) ได้เปิดฉากขึ้นที่เมืองบอร์โด ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมชั้นนำ ผู้จำหน่ายเสาสัญญาณ สถาบันวิจัย องค์กรกำหนดมาตรฐาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรายสำคัญอื่น ๆ จากทั่วโลก มาร่วมแลกเปลี่ยนทรรศนะเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม โดยมี

หัวเว่ย (Huawei) ประกาศแผนเปิดตัวอุปกรณ์เ... หัวเว่ยเตรียมเปิดตัวอุปกรณ์เครือข่าย 5.5G เชิงพาณิชย์ครบชุดในปี 2567 — หัวเว่ย (Huawei) ประกาศแผนเปิดตัวอุปกรณ์เครือข่าย 5.5G เชิงพาณิชย์ครบชุดในปี 2567 ณ...

หัวเว่ย รุกสำรวจแนวปฏิบัติในการพัฒนาเครือข่าย F5G มุ่งเพิ่มผลิตภาพในอุตสาหกรรม

ในงานหัวเว่ย คอนเนกต์ ประจำปี 2565 หรือ HUAWEI CONNECT 2022 คุณคิม จิน (Kim Jin) รองประธานกลุ่มธุรกิจออปติคอลของหัวเว่ย (Huawei Optical Business Product Line) ได้กล่าวสุนทรพจน์หลักในหัวข้อ "วิวัฒนาการของเครือข่าย F5G พลิก...

งาน "หัวเว่ย คอนเนกต์" ประจำปี 2565 เปิดฉากแล้วที่กรุงเทพฯ พร้อมพาปลดปล่อยพลังแห่งดิจิทัล

งานหัวเว่ย คอนเนกต์ ประจำปี 2565 หรือ HUAWEI CONNECT 2022 งานใหญ่ประจำปีของหัวเว่ยที่จัดขึ้นเพื่ออุตสาหกรรมไอซีทีทั่วโลก เปิดฉากแล้ววันนี้ที่กรุงเทพฯ ปีนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม "Unleash Digital" (ปลดปล่อยพลัง...

Huawei Connect (หัวเว่ย คอนเนกต์) งานใหญ่... จับตามหกรรมเทคโนโลยี "Huawei Connect 2022" จัดครั้งแรกในไทยที่กรุงเทพฯ — Huawei Connect (หัวเว่ย คอนเนกต์) งานใหญ่ประจำปีของหัวเว่ยที่จัดขึ้นเพื่ออุตสาหกร...