SENA ผุด 11 โครงการใหม่มูลค่าหมื่นล้าน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ มองแนวโน้มอสังหาฯปี”58 สดใส อานิสงส์ดอกเบี้ยขาลง

          SENA ผุด 11 โครงการใหม่มูลค่าหมื่นล้าน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ มองแนวโน้มอสังหาฯปี”58 สดใส อานิสงส์ดอกเบี้ยขาลง ตั้งเป้ากวาดยอดขาย 4.5 พันล้านบาท ภายใต้กลยุทธ์ “ไฟนีออน” ส่องสว่างชัดเจน
          บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) มองแนวโน้มอสังหาฯปี58 สดใส หลังแบงก์ชาติหั่นดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% กระตุ้นเศรษฐกิจ คาดปลุกกำลังซื้ออสังหาฯให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ด้านผู้บริหาร“เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์”ประกาศเปิดโครงการมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท ในปี”58 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตั้งเป้ากวาดรายได้ 3 พันล้านบาท จากยอดขาย 4.5 พันล้านบาท ชูกลยุทธ์ " ไฟนีออน" ส่องสว่างชัดเจน และเปิด-ปิด รวดเร็ว ทันสถานการณ์ พร้อมขยายฐานลูกค้าไปยัง กลุ่ม “B+”
          ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ คาดว่าจะ ขยายตัวต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยได้รับปัจจัยหนุนจากแนวโน้มดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาลง และที่สำคัญการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จากเดิม 2% เหลือ 1.75% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เชื่อว่าจะส่งผลดีกับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และช่วยกระ ตุ้นกำลังซื้อ ทำให้คนที่คิดจะกู้ซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัย หรือซื้อบ้านเพื่อลงทุนตัดสินใจได้ ง่ายขึ้น เนื่องจากดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ
          อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่น่าเป็นห่วงสำหรับธุรกิจอสังหาฯในปีนี้จะเป็นเรื่องของหนี้สินครัวเรือนที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะกลุ่มคนรายได้น้อย ถึงรายได้ปานกลาง เป็นผลให้เกิดการชะลอการตัดสินใจซื้อหรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้ง ราคาที่ดินที่ปรับตัวสูง และความไม่แน่นอนด้านนโยบายที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นอีกตัวแปรหนึ่งที่ส่งผลกระทบในเชิงลบกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
          สำหรับแผนการดำเนินในปี 2558 บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่ 11 โครงการ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะเดียวกันยังเตรียมขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มที่มีระดับรายได้ประมาณ 100,000 บาท (กลุ่มลูกค้า B+) และพัฒนาโครงการในเขตกรุงเทพฯฝั่งตะวันตกมากขึ้น อีกทั้งยังขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจ Recurring Income และทำโซลาร์รูฟท็อปในโครงการ เพื่อเพิ่มฐานที่มาของรายได้ ซึ่งจะ ทำให้ธุรกิจของบริษัทเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
          นอกจากนี้ ยังเตรียมงบประมาณไว้สำหรับการจัดซื้อที่ดินจำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อที่ดินใหม่ ขณะที่ Backlog ของบริษัทในปัจจุบันอยู่ที่ 1,500 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึงปี 2559
          "เราได้มีการเตรียมแผนการระดมทุนเพื่อรองรับการขยายการลงทุนไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการออกหุ้นกู้ หรือการระดมทุนในรูปแบบอื่นผ่านช่องทางตลาดทุน ซึ่งล่าสุดในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีการออกหุ้นกู้ 1,200 ล้านบาท ขายให้กับนักลงทุนสถาบัน ซึ่งกระแสตอบรับดีมาก สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท และเป็นครั้งแรกของ SENA ที่มีการระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้" ผศ.ดร.เกษรากล่าว
          ผศ.ดร.กล่าวต่อว่า แผนการดำเนินงานในปี 2558 บริษัทตั้งเป้ารายได้ 3,000 ล้านบาท และยอดขายอยู่ที่ 4,500 บาท โดยเตรียมเปิดโครงการมูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ภายใต้ กลยุทธ์ "ไฟนีออน" ที่ส่องสว่างชัดเจน “เปิด-ปิด” ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที โดยบริษัทจะเน้นไปที่ความชัดเจนทั้งในเรื่องของ Branding และ Segmentation รวมไปถึงบริการหลังการขาย 360 องศา
          สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2557 ที่ผ่านมา แม้เศรษฐกิจไทยจะมีความผันผวนจากปัญหาการเมือง แต่ในแง่ของรายได้และกำไรของบริษัทยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 2,739 ล้านบาท ยอดขาย 2,200 ล้านบาท กำไรสุทธิ 435 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 163 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 60% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 272 ล้านบาท
          “สาเหตุที่รายได้และกำไรในปีที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากมีการจัดระเบียบเพื่อพัฒนาคุณภาพของบริษัทโดยพัฒนาธุรกิจ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ และเหมาะสมกับสภาวะตลาด อีกทั้งมีการนำระบบการผลิตแบบ Pre-Cast มาใช้ในการพัฒนาโครงการ ขณะเดียวกันยังเน้นกลยุทธ์ความยืดหยุ่น (Flexibility) เพื่อสอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งทำให้ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาออกมาดี”ผศ.ดร.เกษรา กล่าวในที่สุด
          อนึ่ง คณะกรรมการของบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากงวดผลการ ดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม-31ธันวาคม 2557 โดยจ่ายปันผลเป็นหุ้นใน อัตรา 7 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ และปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.01587301588 บาทต่อหุ้น โดยให้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์รับเงินปันผล วันที่ 6 พฤษภาคม 2558 โดยปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 7 พฤษภาคม 2558 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 พฤษภาคม 2558 ซึ่งการให้สิทธิดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากต้องนำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2558 เพื่ออนุมัติต่อไป