“คิมอูบิน” อ้อนให้ฟิน...ประเทศไทยเป็นประเทศที่รักและสนิทกันมากขึ้น พร้อมขอให้แฟนคลับไทยรักษาสุขภาพกันด้วย

          ไม่ได้มาเมืองไทยไม่ถึง 365 วัน แต่หัวใจของ “อูรีบิน” ก็พร่ำบอกว่าอยากเจอ “คิมอูบิน” นักแสดงนายแบบสูงยาวเข่าดี ที่ฮอตฮิตจากบทบาท “ชเวยองโด” จากซีรีส์เกาหลี The Heirs บริษัท อี-อินเทนน์ จำกัด (E-Intent Co., Ltd.) ผู้จัดแฟนมีตติ้ง E-INTENT PRESENTS 2014 KIM WOOBIN THE 1st FAN MEETING IN THAILAND ‘LOVE AT FIRST SIGHT’ เจ้าเก่าเมื่อปีก่อน ก็เลยคว้าตัวหนุ่มคนนี้ กลับคืนสู่อ้อมใจแฟนคลับชาวไทยอีกครั้ง ในงานแฟนมีตติ้งครั้งที่ 2 E-INTENT PRESENTS 2015 THE MOMENT OF KIM WOO BIN IN THAILAND “LET’S MAKE EYE CONTACT” ที่การันตีว่าฟินกว่าเดิม เพราะนอกจากจะได้สัมผัสมือ “ไฮทัช” แล้ว ยังได้สบตาปิ๊งๆ กับซุป’ตาร์เอเชียคนนี้อีกด้วย ... หลังจากเปิดแถลงข่าว ณ แกรนด์ฮอลล์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ชั้น 1 ไปเมื่อวันเสาร์ ที่ 7 มีนาคม ท่ามกลางเสียงตอบรับล้นหลามจากแฟนคลับที่ให้กำลังใจหลายพัน วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม 2558 เวลา 16.00 น. ก็ถึงดีเดย์ที่ช่วงเวลาแห่งความฟินของจริง คิมอูบิน จะเปลี่ยนธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ให้เป็นดินแดนแห่งความรักได้อย่างไร ต้องติดตาม
          “คิมอูบิน” เจ้าของงานปรากฏตัวพร้อมเสียงนุ่มๆ ในเพลง “Should we walk together” แฟนคลับต้อนรับอย่างอบอุ่น ด้วยกระดาษโปรเจ็คไดโนเสาร์ในทุ่งทานตะวัน ที่มีตัวหนังสือเขียนว่า “ยินดีที่ได้กลับมาเมืองไทยอีกครั้งนะ” ประโยคสั้นๆ ทว่าแทนความรู้สึกชาว “อูรีบินไทยแลนด์” ได้เป็นอย่างดี ไม่ได้เจอกันเกือบ 1 ปี มีความรู้สึกมากมายที่อยากสื่อสารถึงกัน
          แฟนมีตติ้งเริ่มต้นด้วยการพูดคุยผลงาน ตั้งแต่ซีรีส์ School 2013 จุดเริ่มต้นที่ทำให้นักแสดงหน้าใหม่ชื่อ “คิมอูบิน” เข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจผู้ชม พอพูดถึง School 2013 แล้วก็อดที่จะเม้าท์ถึงนักแสดงคู่หูอย่าง “อีจงซอก” ไม่ได้ อูบินเปิดใจอย่างอารมณ์ดีว่า อีจงซอกเป็น “คู่จิ้น” ที่เข้ากับเขาสุดๆ การแสดงของ จงซอก ยอดเยี่ยมกว่าเขาเสียอีก เพราะอย่างนี้จึงรู้สึกขอบคุณอยู่เสมอ ... พูดอย่างนี้ทีมงานก็เลยเปิด VTR ฉากจิ้นฟินเว่อร์ ระหว่าง “ปาร์คฮึงซู และ โคนัมซุน” ให้ดูอีกรอบ อูบินหัวเราะ แล้วเผยว่า “ดูกี่ครั้งก็เขินครับ”
          VTR เรื่องถัดไปมาจากซีรีส์ The Heirs ที่กระแสยังฮอตฮิตติดลมบน แม้จะออนแอร์ไปนานกว่า 1 ปี “โบ ธนากร” พิธีกรของงานยังแอบแซวว่า แฟนสาวของเขาติดซีรีส์เรื่องนี้สุดๆ ถึงขนาดมองแต่ “ชเวยองโด” ไม่ยอมมองหน้าเขาเลย โดยบทคุณชายชเวยองโด ได้รับความรักจากแฟนๆ ทั่วเอเชีย เพราะมีทั้งความแบดบอยและน่ารักในเวลาเดียวกัน ซึ่งคิมอูบินก็ถ่อมตัวว่า “เป็นเพราะคนเขียนบทเขียนได้ดีมากน่ะครับ แค่ผมอ่านบทก็หลงรักตัวละครนี้แล้ว”
          ในงานยังมีการรวม VTR “บทพูดที่โด่งดังของชเวยองโด” คัดมาแต่ประโยคจี๊ดๆ เช่น “ดูเธอพูดเข้าสิ ผู้หญิงแบบนี้จะไม่ให้สนใจได้ไง” “ฉันแกล้งเธอไม่ได้แล้วล่ะ เพราะมันเจ็บที่หัวใจ เพราะฉะนั้นฉันจะไปรังควานคนอื่นที่ไม่ใช่เธอ” ได้ฟังอีกรอบ ก็กรี๊ดสลบเหมือดอีกรอบ อูบินเสริมว่า คนเขียนบทได้วางคาแรกเตอร์ ชเวยองโด ไว้อย่างละเอียดมาก ชีวิตคนทั่วไปอาจมีประสบการณ์แอบรักข้างเดียว และคงมีหัวใจที่รักคุณแม่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ซ่อนอยู่ในตัวละครชเวยองโดเช่นกัน ยองโด อาจเป็นคนที่แสดงออกความรักต่างจากคนอื่น แต่เขาก็พยายามบอกรักนางเอกอย่างไม่อ้อมค้อม
          ถัดมาเป็น VTR จากภาพยนตร์ทำเงิน เรื่อง Friend2 เป็นอีกเรื่องที่อูบิน รับบทดิบๆ เถื่อนๆ แต่เจ้าตัวเผยว่า บรรยากาศในกองถ่ายดำเนินไปอย่างสบายๆ มากกว่า หัวเราะเฮฮากับนักแสดงรุ่นพี่ ถ้าบรรยากาศดี งานที่ออกมาก็จะดี ส่วนตัวอูบิน ชอบตัวเองในมุมขี้เล่นเฟรนด์ลี่ มากกว่าเก๊กหล่อ ส่วนภาพยนตร์อีกเรื่อง Criminal Designer ที่คิมอูบิน รับบทนักจารกรรมคอมพิวเตอร์นั้น ก็ได้เสียงกรี๊ดสนั่นจากสาวๆ ไม่แพ้กัน เจ้าตัวเผยว่า ท่าทางเคล็ดลับที่มัดใจสาวๆ จะอยู่ที่ “นักแสดงคนอื่นเขาจะหล่อสวย เป็นกดมีนัมล่ะมั้งครับ ส่วนผมหน้าตาแปลกๆ เลยทำให้คนสนใจหรือเปล่า?” แต่ขอฟันเฟิร์มว่าฉากเด็ดของ คิมอูบิน ที่ทำให้หัวใจสาวๆ ทั่วเอเชียเต้นไม่เป็นส่ำ ก็คือ “ฉากอาบน้ำ” ซึ่งกว่าจะได้มากับบอดี้เซ็กซี่ๆแบบนี้มันไม่ง่ายเลย “บอกเลยครับว่าซีนอาบน้ำเล่นยากกว่าซีนแอ็กชั่นเสียอีก ก่อนถ่ายทำต้องเซ็ตวันไปออกกำลังกายเฟิร์มหุ่นตั้งหลายวัน พอถึงวันถ่ายจริง ระหว่างที่นักแสดงคนอื่นสาละวนกับการอ่านบท แต่มีผมคนเดียวที่ต้องออกกำลังกาย”
          ไม่เพียงแต่ผลงานเก่าๆ ที่ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี เพราะเมื่อเปิด VTR ภาพยนตร์เรื่อง Twenty ที่ยังไม่เข้าฉาย ก็ได้รับเสียงกรี๊ดกระหึ่มเช่นกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแนวคอมาดี้ เรื่องราวฮาๆ ของผู้ชายวัย 20 สามคน ซึ่งคิมอูบิน ได้ร่วมงานกับ อีจุนโฮ วง 2PM และ คังฮานึล โดยเจ้าตัวการันตีว่าจะได้เห็นเขาในมาดฮาหลุดโลก แบบที่ไม่เคยเห็นจากที่ไหนมาก่อน ... ส่วนจะมี “ฉากอาบน้ำ” ที่ทุกคนรอคอยไหม? ต้องลุ้นกันในโรง
          หลังพูดคุยให้หายคิดถึง ช่วงเวลาของลักกี้แฟนก็เริ่มต้นขึ้น ที่เกาหลี คิมอูบิน เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กาแฟสำเร็จรูปยี่ห้อหนึ่ง จึงถือโอกาสนี้ จับรายชื่อแฟนคลับผู้โชคดีขึ้นมาจิบกาแฟบนเวทีเสียเลย อูบิน ลงมือชงกาแฟด้วยตัวเอง แก้วสีเหลืองเป็นของแฟนคลับ ส่วนแก้วสีขาวสำหรับตัวเขา นอกจากจะได้นั่งจิบกาแฟมองตากัน ให้คนทั้งฮอลล์อิจฉาเล่น อูบิน ยังเปิดโอกาสให้แฟนคลับได้ถามคำถามเป็นเวลา 60 วินาทีอีกด้วย งานนี้ก็ทำเอาลักกี้แฟน 2 คนออกอาการเขินสุดๆ จนถามคำถามไม่ถูกจึงปล่อยให้เวลาหมดไปอย่างน่าเสียดาย แต่อูบินก็ไม่ยอมปล่อยให้ช่วงเวลานี้หายไปจากความทรงจำ เขาก็บรรจงเซ็นแก้วกาแฟ พร้อมถ้อยคำซึ้งๆ จากใจอย่าง “ ผมจะจำวันนี้ไปตลอดชีวิต” และ “ครั้งหน้าเราเจอกันอีกนะ”
          จบจากช่วงอิจฉาตาร้อน อูบิน ก็เข้าไปแปลงโฉมใหม่ และกลับมาในมาดลำลอง สวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงินและกางเกงขายาวสีขาว ง่ายๆ แต่น่ารักละลายใจ ก่อนจะเข้าสู่ช่วง “โชว์ภาพถ่าย” จากฝีมือของเขาเอง มีทั้งรูปเซลฟี่อิริยาบถน่ารักๆ ระหว่างพักกอง , รูปกองเปลือกถั่ว ที่เจ้าตัวบอกว่าในเทศกาลพระจันทร์เต็มดวง คนเกาหลีจะกินถั่วถือเคล็ด เพื่อความโชคดี ปิดท้ายด้วยรูปแสงอาทิตย์อัสดง จากชายหาดซานต้าโมนิก้า สหรัฐอเมริกา
          ต้องบอกว่าแฟนมีตติ้ง E-INTENT PRESENTS 2015 THE MOMENT OF KIM WOO BININ THAILAND “LET’S MAKE EYE CONTACT” ไม่ได้มีแต่หนุ่มหล่อขวัญใจชาวเอเชียอย่าง คิมอูบิน เท่านั้น เพราะยังมี “เพื่อน” ชาวไทยอีก 2 คนมาเป็นแขกรับเชิญ ซึ่งทั้งคู่ก็เป็นที่รู้จักในระดับเอเชียเช่นกัน นั่นคือ “สน ยุกต์” และ “ติ๊นา ศุภนาฎ” ทั้งคู่เตรียมเพลง “หัวใจผูกกัน” มาเซอร์ไพรส์เพื่อนรักจากแดนไกล คิมอูบิน บอกว่า รู้จัก “สน” ตอนมาแฟนมีตติ้งเมื่อปีก่อน ส่วน “ติ๊นา” เคยร่วมงานกันที่ประเทศจีน เห็นอย่างนี้ความเท่ของ อูบิน ก็ทำเอาสาวหล่อ “ติ๊นา” ใจสั่นไปหลายระลอก
          ในเมื่อจะผูกมิตรกันทั้งที แฟนมีตติ้งนี้ก็เลยมีกิจกรรมทดสอบความเป็นเพื่อนมาให้ “สน” และ “ติ๊นา” ได้เล่นด้วย มีทั้งคำถามเบสิกๆ เรื่องวันเกิด , เบอร์รองเท้า, ท่าประจำจากซีรีส์ The Heirs , ไปจนถึงคำถามทายใจว่า อูบิน อยาก “ขี่” อะไรที่เมืองไทย มีให้เลือกตั้งแต่ ตุ๊กตุ๊ก ช้าง มอเตอร์ไซค์วิน และรถม้า .... ผลปรากฏว่านักแสดงผู้รับบทแบดบอยแว้นซ์มอเตอร์ไซค์โชกโชนอย่างเขา กลับเลือก “ขี่ช้าง” โดยให้เหตุผลว่า ขี่มอเตอร์ไซค์อันตรายจะตายไป นอกจากบทบาทการแสดงแล้วก็ไม่กล้า ส่วนอาหาร/เครื่องดื่มไทย ที่อูบิน โปรดปราน ยกให้ “น้ำแตงโมปั่น” เจ้าตัวบอกว่า ที่เกาหลีก็มีแตงโมเหมือนกัน แต่ไม่ยักอร่อยเท่าที่ประเทศไทย ถ้าเข้าร้านอาหารไทยไม่ว่าจะที่ไหน ต้องสั่งเบิ้ล 2 แก้วทุกที อร่อยจนอยากเอากลับประเทศไปด้วยเลย ... สรุปเกมทดสอบความเป็นเพื่อน “สน ยุกต์” คว้าชัยชนะไปจาก Guest คนพิเศษ ก็กลับมาที่ช่วงเวลากี้แฟนอีกรอบ คิมอูบิน จับฉลากลักกี้แฟน 4 คน ขึ้นมาโพสท่าถ่ายรูปเลียนแบบ มีทั้งฉากชาอึนซังจะตกน้ำ แล้วชเวยองโดเข้าไปประคอง จากซีรีส์ The Heirs , ฉากชู 2 นิ้วคู่สู้ตายของปาร์คฮึงซูและโคนัมซุน ในซีรีส์ School 2013 , ช็อตโคอาราเอานิ้วจิ้มแก้มอูบิน ในโฆษณาพิซซ่า , และฉากกอดด้านหลัง เพิ่มความอบอุ่นให้อีนายอง ในโฆษณาเสื้อกันหนาว ... ขอบอกว่าทุกช็อต ทุกฉาก ที่คัดมาล้วนแต่ฟินเว่อรรร์... จนมีการเรียกร้องให้เพิ่มจำนวนผู้โชคดี ... ซึ่งหนุ่มขายาวบนเวทีเขาก็ไม่ปฏิเสธ จับฉลากขึ้นมาอีก 5 คน มารับของรางวัลสุดพิเศษจากเจ้าตัว แต่ว่า!!! ของรางวัลที่เตรียมมาเป็นถุง กลับมีแค่ 3 เสียนี่?? คิมอูบิน จึงลงทุนถอดสร้อยคอที่ใส่อยู่ มอบให้กับลักกี้แฟน 2 คนสุดท้ายเสียเลย แต่กว่าจะถอดออกมาคล้องให้แฟนๆ ได้ ก็ทุลักทุเลเอาการเพราะสร้อยมันพันกัน
          ช่วงเวลาแห่งความสุขดำเนินมาถึงตอนท้าย “อูรีบินไทย” ทำ VTR 336 วันที่รอคอย มาเซอร์ไพรส์ เผยให้เห็นอิริยาบถต่างๆ ของอูบิน ลงท้ายด้วยคำขอบคุณที่เขาไม่ทิ้งความฝัน และทำงานหนักเพื่อแฟนๆซึ่งก็ทำเอาอูบินซาบซึ้งถึงกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ และเมื่ออูบินหันมาก็พบกับโปรเจ็คกระดาษเขียนคำว่า “เราจะคิดถึงคุณ และรอคุณอยู่ที่นี่ กลับมาเมืองไทยอีกนะ” นอกจากนี้แฟนคลับยังมีเค้กฉลองแฟนมีตติ้งครั้งที่ 2 เป็นรูปไดโนเสาร์ คิมอูบินถือดาว ท่ามกลางทุ่งดอกทานตะวัน และของขวัญสุดกิ๊บเก๋มาแบบครบเซ็ทชุดนักเรียนไทย รวมถุงเท้าและรองเท้าด้วย โดยที่หน้าอกปักชื่อภาษาไทย “อูบิน คิม” ชื่อโรงเรียน ซ.ด. ย่อมาจาก “ไซดัส” ชื่อเอเยนซี่ต้นสังกัดของเขา ส่วนรหัสนักเรียน ก็คือตัวเลขวันเดือนปีเกิด อูบิน บอกว่ารับบทนักเรียนมาเยอะและเก็บชุดนักเรียนที่ใช้เข้าฉากทุกชุดไว้ที่บ้าน ชุดนี้ก็จะเก็บไว้ด้วยกัน
          เซอร์ไพรส์ของแฟนคลับไทย ประทับใจอูบินอย่างมาก ถึงกับขอให้ผู้จัดการหยิบมือถือส่วนตัว มาถ่ายรูปเซลฟี่ร่วมกับแฟนๆ หลายมุมจนทั่วทั้งฮอลล์ (อูบิน แซวว่าผู้จัดการคนนี้ฝันอยากเข้าวงการบันเทิง หากเดบิวต์เมื่อไหร่ อย่าลืมสนับสนุนเขาด้วย) ส่งท้ายด้วยความในใจ ว่าปีที่แล้วบอกว่าจะกลับมาให้เร็วที่สุด แต่เอาเข้าจริงกลับใช้เวลาเกือบ 1 ปี ถ้าเป็นไปได้ สัญญาว่าครั้งหน้าจะมาหาให้เร็วกว่านี้ ซึ่งเร็วๆ นี้ภาพยนตร์ Twenty จะเข้าฉายในโรงเกาหลี หลังจากนั้นอาจจะพิจารณาซีรีส์เรื่องใหม่ และต้องขอขอบคุณแฟนๆ ที่แม้ซีรีส์ The Heirs จะอำลาจอไปเป็นปี แต่ทุกคนก็ยังรักและรอคอย ชเวยองโด กันอยู่ สำหรับประเทศไทย...จากที่เป็นประเทศที่ไม่เคยรู้จัก ในตอนนี้ก็พบว่ากลายเป็นประเทศที่รักและสนิทกันมากขึ้น สิ่งเดียวที่อยากขอแฟนคลับไทย ก็คือ ขอให้รักษาสุขภาพกันด้วย ... คิมอูบินกล่าวความในใจจบก็ถามกลับว่า เขาพูดยาวเกินไปหรือเปล่า เพราะสิ่งที่อยากพูดมันเยอะมากเลย ....
          อำลางานแฟนมีตติ้งครั้งที่ 2 E-INTENT PRESENTS 2015 THE MOMENT OF KIM WOO BININ THAILAND “LET’S MAKE EYE CONTACT” ที่จะติดตรึงอยู่ในหัวใจแฟนคลับอีกครั้ง ด้วยเสียงนุ่มๆ จากอูบิน ในเพลง “Pain” ก่อนจะส่งแฟนคลับกลับบ้านนอนหลับฝันดี ด้วยกิจกรรมไฮทัช ที่ได้ประสานตา Eye Contact กันโดยถ้วนทั่วสมชื่องาน ... อูบิน ปลื้มเมืองไทย ส่วนแฟนไทยก็รักอูบินมากขนาดนี้ ...แฟนมีตติ้งครั้งที่ 3 คงอีกไม่นานเกินรอ

ข่าวซีรีส์เกาหลี+แฟนมีตติ้งวันนี้