นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2558 ว่า บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้จำนวน 18,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณเพื่อใช้ลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 90 เมกะวัตต์ใน จังหวัดพิษณุโลก มูลค่าลงทุนประมาณ 8,500 ล้านบาท ซึ่งวางแผนที่จะก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปลายปีนี้ และเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าได้ในช่วงต้นปี 2559 นอกจากนี้ ยังมีแผนการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานลม 3 โครงการ ขนาดรวม 126 เมกะวัตต์ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 2 โครงการ และสงขลาอีก 1 โครงการ มูลค่าลงทุนประมาณ 9,500 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถทะยอยเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าในเฟสแรกได้ตั้งแต่ต้นปี 2559 เป็นต้นไป
“เงินที่ใช้สำหรับการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมมูลค่า 1.8 หมื่นล้านบาท มาจากการกู้สถาบันการเงินและกระแสเงินสดของบริษัท โดยสถาบันการเงินพร้อมสนับสนุนสินเชื่ออย่างเต็มที่ เนื่องจากมีความมั่นใจในศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของบริษัท อันเป็นผลจากความสำเร็จในโครงการนครสวรรค์และลำปางที่พิสูจน์ความเชี่ยวชาญของทีมงานของบริษัทได้เป็นอย่างดี จนทำให้กระแสรายได้ของบริษัทมีความมั่นคงและสม่ำเสมอตามที่คาดการณ์ไว้มาโดยตลอด” นายอมรกล่าว
การลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 3 โครงการในภาคใต้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพลังงานลมที่บริษัทมีอยู่ทั้งหมด 8 โครงการ ซึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ครบทั้ง 8 โครงการแล้ว สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เหลืออีก 5 โครงการ ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ มีกำลังการผลิตรวม 260 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายในปี 2560 และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ในช่วงปี 2561
“ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จังหวัดลำปาง ขนาด 90 เมกะวัตต์ ได้ขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจากกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ บวกกับเทคโนโลยีในการติดตั้งระบบปรับทิศทางการรับแสงอาทิตย์ได้ จะส่งผลให้ EA มีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 1.9 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้ภาพรวมของรายได้และกำไรในปีนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยบริษัทจะมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจไฟฟ้ามากขึ้นเป็น 40% ของรายได้รวม ซึ่งจะมาจากกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้า 3 แห่ง รวม 188 เมกะวัตต์ จากเดิมในปี 2557 ที่มีรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าเพียง 30% ส่วนรายได้ธุรกิจไบโอดีเซลในปีนี้คาดว่าจะยังทรงตัวในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน อย่างไรก็ตาม กำไรของบริษัทจะมาจากธุรกิจไฟฟ้าเป็นหลักและมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 95%” นายอมรกล่าว
สำหรับผลประกอบการของปี 2557 เป็นไป ใกล้เคียงกับที่ได้คาดการณ์ไว้ กล่าวคือ มีกำไรสุทธิ 1,608 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 503% หรือ 5 เท่าจากปีก่อน และมีรายได้รวมทั้งสิ้นกว่า 7,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 90% ซึ่งโดยหลักเกิดจากการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้านครสวรรค์เต็มปีเป็นปีแรก และจากการเพิ่มปริมาณการจำหน่ายไบโอดีเซลได้มากขึ้นถึง 30% และเพิ่มปริมาณการจำหน่ายกลีเซอรีนบริสุทธิ์ได้ถึงร้อยละ 82
อีกก้าวแห่งความสำเร็จ! EGCO Group ลงทุน 49% โรงไฟฟ้าโซลาร์ "Wheatsborough Solar" สหรัฐฯ เสริมพอร์ตพลังงานสะอาดระดับโลก
TSE พร้อมรุกพลังงานสะอาด-ธุรกิจสุขภาพ สร้างการเติบโตยั่งยืน
TPCH เดินหน้า COD โครงการโซลาร์ฟาร์ม สปป.ลาว ปีนี้
TSE Q2/68 โชว์รายได้เติบโตมั่นคง รับแรงหนุนพลังงานสะอาด-สุขภาพ เดินหน้าโหมดเติบโตรอบใหม่ สร้าง New S-Curve
TPCH เปิดแผนธุรกิจครึ่งหลังปี 68 ลุย COD โครงการโซลาร์ฟาร์ม สปป.ลาว ภายใน Q4/68 เร่งก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 4 แห่ง ดันผลงานโตตามแผน
EGCO Group โชว์กำไรครึ่งปีแรกพุ่ง 88% แตะ 5,700 ลบ. เร่งเสริมพอร์ตปิดดีลโรงไฟฟ้าก๊าซฯ-พลังงานหมุนเวียน
SPCG ตอกย้ำความสำเร็จร่วมลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น ร่วมเปิดโครงการ Kagoshima Oura Mega Solar กำลังการผลิต 8.02 MW เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศ
BCPG รุกคืบไต้หวัน ลุยพัฒนาโซลาร์ฟาร์มกว่า 108 เมกะวัตต์ เดินหน้าผู้นำพลังงานหมุนเวียนในภูมิภาคเอเชีย
บี.กริม เพาเวอร์ ลงทุนโครงการ Caronsi โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 65 เมกะวัตต์ ในฟิลิปปินส์ ลุยขยายพอร์ท "พลังงานทดแทน" พร้อมกดปุ่ม COD ไตรมาสแรกปี 2570