สคร.7 เผย กิน“ปลาร้าดิบ”นอกจากเสี่ยงโรคพยาธิใบไม้ตับและโรคมะเร็งท่อน้ำดีแล้วยังเสี่ยงโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          สคร.7 เผย กิน“ปลาร้าดิบ”นอกจากเสี่ยงโรคพยาธิใบไม้ตับและโรคมะเร็งท่อน้ำดีแล้ว ยังเสี่ยงป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือโรคเหน็บชา ในกลุ่มนักโทษเกือบร้อยราย คาดเกิดจากกินแต่ข้าวขาว หรือปลาร้าดิบบ่อยเกินไป ชี้เป็นอาหารที่มีสารทำลายวิตามินบี 1
          นพ.ศรายุธ อุตตมางคพงศ์ ผู้อำนวยสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 (สคร.7) เปิดเผยว่า การรับประทานอาหารประเภทปลาน้ำจืดปรุงดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ ที่มีตัวอ่อนของพยาธิปนเปื้อน เช่น ปลาร้า ก้อยปลา ปลาหมกไฟ ฯลฯ เป็นสาเหตุที่ทำให้ประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือป่วยด้วยโรคพยาธิใบไม้ตับ และโรคมะเร็งท่อน้ำดีเสียชีวิตเป็นจำนวนมากต่อปี ล่าสุดในการประชุม DDC Forum ของกรมควบคุมโรค เรื่อง"โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงจากการขาดวิตามินบี1" พบรายงานผู้ป่วยอาการแขนขาอ่อนแรง ชาตามปลายมือ ปลายเท้า และชาตามร่างกาย 78 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 2 ราย วินิจฉัยพบว่า เกิดจากการติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งผู้ป่วยทั้งหมดอยู่ในเรือนจำแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากการสอบสวนโรคพบว่า ผู้ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงจากการขาดวิตามินบี 1 หรือภาวะเป็นโรคเหน็บชา โดยเกิดอาการหลังจากการระบาดของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ที่นับเป็นปัจจัยกระตุ้นที่สำคัญมากในการทำให้ผู้ที่มีภาวะ ปริ่มๆ ขาดวิตามินบี 1 กลายเป็นการขาดวิตามินบี 1 จนแสดงอาการออกมา
          นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุม DDC Forum ว่า โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงจากการขาดวิตามินบี 1 หรือภาวะเป็นโรคเหน็บชา ส่วนใหญ่มักมีอาการอ่อนแรงและชา ที่แขนและขา ปลายมือ ปลายเท้า บวม แดง ส่วนการขาดวิตามินบี 1 เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีวิตามินไม่เพียงพอ เช่น การรับประทานแต่ข้าวขาวที่ผ่านการขัดสี หรืออาหารที่มีสารทำลายวิตามินบี 1 ได้แก่ ปลาน้ำจืดดิบ หอยลายดิบ ปลาร้า ใบชา ใบเมี่ยง หมากพลู ปลาส้มดิบ แหนมดิบ เป็นต้น กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่ดื่มสุราประจำ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์/ให้นมบุตร เด็กวัยเจริญเติบโต ผู้ที่รับประทานอาหารที่ไม่มีวิตามินบี 1 ผู้ต้องขังในเรือนจำ และชาวประมงที่ออกทะเลนานๆ
          “ในการป้องกันโรคประชาชนควรรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ และหลากหลาย ได้แก่ เนื้อสัตว์ ไข่ นม ข้าวซ้อมมือหรือข้าวกล้อง ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองและถั่วเมล็ดแห้ง รวมทั้งผักใบเขียว ที่สำคัญต้องหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีตัวทำลายวิตาบินบี 1 หากต้องการรับประทานควรปรุงด้วยความร้อนจนสุก ส่วนในโรงเรียน เรือนจำ สถานกักกัน และสถานรับเลี้ยงเด็ก คนชรา ควรจัดหาข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือให้รับประทาน ปรับรายการอาหารให้ครบ 5 หมู่ และมีความหลากหลาย สด ใหม่หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422" นายแพทย์โสภณ กล่าว



ข่าวสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่+สำนักงานป้องกันควบคุมโรควันนี้

ลุยน้ำ ย่ำโคลน เสี่ยง เลปโตสไปโรสิส (โรคไข้ฉี่หนู) สคร. 12 สงขลา เตือน มีไข้ ปวดน่อง อย่าซื้อยาทานเอง ให้รีบพบแพทย์

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) เตือนประชาชน ระวัง โรคเลปโตสไปโรสิส (โรคไข้ฉี่หนู) โดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วมขัง หลังน้ำลด ไม่ควรเดินลุยน้ำ ย่ำดินโคลน พื้นที่ชื้นแฉะด้วยเท้าเปล่า หรือแช่น้ำเป็นเวลานาน แนะสวมรองเท้าบูททุกครั้ง หากมีไข้เฉียบพลันหลังลุยน้ำ 1-2 สัปดาห์ มีอาการปวดศีรษะ ปวดน่องและกล้ามเนื้อโคนขา อย่าซื้อยากินเอง ให้รีบไปพบแพทย์ทันที โรคเลปโตสไปโรสิส (Leptospirosis) หรือโรคไข้ฉี่หนู เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย "เลปโตสไปร่า" (Leptospira) เข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงข... สคร.12 สงขลา เตือน ระวังป่วยโรค มือ เท้า ปาก พบบ่อยในเด็กเล็ก — สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) เตือนระวังเด็กเล็กป่วยโรคมือ เท...

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงข... สคร.12 สงขลา เตือน ระวังป่วยโรคเมลิออยโดสิส เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต — สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) เตือนประชาชนในพื้นที่ภาคใต้...