ทั้งนี้ สัดส่วนของตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงที่มีผู้หญิงดำรงตำแหน่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 20 ซึ่งต่ำกว่าทั้งค่าเฉลี่ยทั่วโลก (ร้อยละ 22) และค่าเฉลี่ยระยะยาวของภูมิภาค (ร้อยละ 24) โดยเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วในภูมิภาคเดียวกัน ประเทศญี่ปุ่น (ร้อยละ 8) ซึ่งยังคงรั้งอันดับสุดท้ายในผลการสำรวจทั่วโลก สิงคโปร์ (ร้อยละ 23) และออสเตรเลีย (ร้อยละ 22) ที่มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ขณะที่นิวซีแลนด์มีผลการสำรวจลดลงอยู่ที่ร้อยละ 19 ในปีนี้ จากค่าเฉลี่ยในระยะยาวซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 28
อย่างไรก็ตาม ความผันผวนนั้นเห็นได้อย่างชัดเจนในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ โดยตัวเลขในประเทศจีนลดลงอยู่ที่ร้อยละ 25 จากค่าเฉลี่ยของทศวรรษที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 32 ส่วนประเทศไทยอยู่ที่ร้อยละ 27 (จากเดิมร้อยละ 37) มาเลเซียอยู่ที่ร้อยละ 22 (จากเดิมร้อยละ 27) และอินโดนีเซียอยู่ที่ร้อยละ 20 (จากเดิมร้อยละ 31) ส่วนอินเดียอยู่ในอันดับที่ 3 จากท้ายสุดในการจัดอันดับในทั่วโลก (ร้อยละ 15)
จุฬาภรณ์ นำชัยศิริ กรรมการผู้จัดการสายงานธุรกิจการเงินของแกรนท์ ธอนตัน ในประเทศไทย กล่าวว่า “กลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเคยได้รับประโยชน์จากการฝากฝังบุตรหลาน หรือให้เครือญาติที่อาศัยอยู่บ้านใกล้เรือนเคียงช่วยดูแล ถือเป็นสาธารณูปโภคทางด้านการดูแลบุตรหลานที่มีค่าใช้จ่ายต่ำ และช่วยส่งเสริมให้ผู้หญิงทำงานนอกบ้านได้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเข้าสู่สังคมเมืองที่กระจายตัวในวงกว้างเริ่มได้เริ่มที่จะกัดกร่อนระบบดังกล่าว ทั้งยังเสริมสร้างความทะเยอทะยานและเพิ่มโอกาสทางหน้าที่การงานให้กับผู้หญิง ซึ่งหมายความว่าผู้หญิงจำนวนมากเลือกที่จะมีบุตรเมื่ออายุมากขึ้น หรือไม่ก็เลือกที่จะไม่มีบุตรเลย”
“นอกจากนี้ ประเทศญี่ปุ่นและอินเดียอาจมีระดับของการพัฒนาที่แตกต่างกันมาก แต่สองประเทศนี้มีลักษณะทางวัฒนธรรมบางอย่างที่เหมือนกัน อาทิ มีระบบการปกครองโดยลำดับขั้นอย่างเข้มงวด และเป็นสังคมที่มีผู้ชายเป็นผู้นำ ซึ่งเป็นอุปสรรคขวางกั้นผู้หญิงจากการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นในโลกธุรกิจ”
จุฬาภรณ์กล่าวต่อว่า “สำหรับประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้เผยแพร่รายงานซึ่งระบุว่าในปี 2583 หรือในอีก 25 ปีข้างหน้า กำลังแรงงานทั้งหมดของประเทศไทยจะลดลงอยู่ที่ 35.2 ล้านคน จากจำนวน 39 - 40 ล้านคนในปัจจุบัน และเนื่องจากกำลังแรงงานทั้งหมดที่เริ่มลดลง ทำให้สมาชิกครอบครัวที่อ่อนวัยกว่าจากครอบครัวขยายจำเป็นต้องเข้าสู่การทำงาน ในขณะที่ประชากรไทยกำลังมีอายุสูงมากขึ้น ซึ่งรายงานดังกล่าวรายงานว่าจำนวนประชากรไทยที่มีอายุมากกว่า 60 ปีจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากจาก 6.4 ล้านคนในปัจจุบัน (ร้อยละ 9 ของจำนวนประชากร) เป็น 20.5 ล้านคนในปี 2583 (ร้อยละ 32 ของจำนวนประชากร) ซึ่งการที่มีประชากรที่อายุมากกว่า 60 ปีเพิ่มขึ้นถึงปีละ 564,000 คน หรือวันละ 1,545 คนนับเป็นเรื่องที่น่าตกใจ”
“ผลลัพธ์ที่เกิดจากปัจจัยเหล่านี้คือการที่ผู้บริหารหญิงระดับอาวุโสในประเทศไทย มีแนวโน้มที่จะเกษียณก่อนวัยสูงยิ่งขึ้น เนื่องจากมีฐานะการเงินเพียงพอที่จะดูแลสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบิดามารดาที่เข้าสู่วัยชรา อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่แท้จริง ก็คือการที่มีผู้หญิงในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงลดลง ซึ่งทำให้เกิดภาวะ “สมองไหล” ของผู้บริหารที่มีประสบการณ์และความสามารสูง โดยแนวโน้มดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไปในประเทศไทย”
สำหรับทั่วโลก ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงที่มีผู้หญิงเป็นผู้ดำรงตำแหน่งอยู่ที่ร้อยละ 22 ซึ่งมีจำนวนสูงขึ้นเล็กน้อยจากเมื่อปี 2547 (ร้อยละ 19) ทว่าลดลงจากปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 24 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่มีพัฒนาการในเรื่องนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ประเทศเยอรมนี (ร้อยละ 14) ยังได้รับการจัดอันดับอยู่ในตำแหน่งท้ายๆ ร่วมญี่ปุ่นและอินเดีย อย่างไรก็ตาม ยังมีพัฒนาการเล็กน้อยซึ่งก็คือร้อยละ 26 ของตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในสหภาพยุโรปปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งโดยผู้หญิง ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยตัวเลขดังกล่าวได้รับการสนับสนุนโดยประเทศฝรั่งเศส (ร้อยละ 33) สวีเดน (ร้อยละ 28) และกรีซ (ร้อยละ 27) ในขณะเดียวกัน ตัวเลขในประเทศแถบละตินอเมริกาลดลงอยู่ที่ร้อยละ 18 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในประวัติการณ์
จุฬาภรณ์กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราเคยได้ยินภาคธุรกิจกล่าวถึงความเสมอภาคทางเพศเป็นระยะเวลาหลายทศวรรษแล้ว แต่มีผู้คนเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่ทำเช่นนั้นได้จริง ดังนั้น นอกเหนือจากการให้กำลังใจเรื่องโอกาสที่เท่าเทียมกันสำหรับทุกคนแล้ว การที่กลุ่มผู้บริหารระดับสูงมีการผสมผสานทั้งผู้หญิงและผู้ชายจึงเป็นผลดีต่อภาคธุรกิจ เพราะหากว่ากลุ่มเศรษฐกิจจะใช้ประโยชน์จากเพียงครึ่งหนึ่งของบุคลากรที่มีประสิทธิภาพที่สุด โอกาสในการเติบโตย่อมถูกลดทอนลงในทันที”
“สิ่งนี้เป็นอุปสรรคที่แท้จริงไม่เพียงสำหรับภาคธุรกิจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงรัฐบาล สังคม และผู้หญิงเองอีกด้วย สังคมจึงควรปรับตัวและเปลี่ยนแปลงตามวิถีที่เราใช้ชีวิตและทำงาน ยกตัวอย่างความคิดที่ว่า การมองผู้ชายที่เลือกไม่ทำงานและอยู่บ้านเพื่อดูแลครอบครัวนั้นเป็นเรื่องไม่ดีจำต้องสิ้นสุดลง นอกจากนี้ รัฐบาลยังสามารถให้การสนับสนุนด้วยการอนุมัติให้ผู้ปกครองลาหยุดร่วมกันได้ รวมถึงสร้างสาธารณูปโภคที่ช่วยให้ผู้หญิงมีความก้าวหน้าในการทำงาน ซึ่งยกตัวอย่างเช่น การกำหนดโควต้าเพื่อสำรองที่นั่งในตำแหน่งบอร์ดผู้บริหารให้แก่ผู้หญิง เป็นต้น” จุฬาภรณ์กล่าวสรุป
                                                                                                                                        
                                                            
                                                                                                                            
                                                                                        
                            
                            ดิ เอราวัณ กรุ๊ป คว้าคะแนนเต็ม AGM Checklist ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน จากสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย
                        
                            ไทยร่วมการประชุมระดับหัวหน้าสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญา จีน - อาเซียน ครั้งที่ 16 ยกระดับความร่วมมือเพื่อสร้างแต้มต่อให้ภาคธุรกิจด้วยทรัพย์สินทางปัญญา
                        
                            บางกอกแอร์เวย์ส พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมใหญ่สมาคมสายการบินแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (AAPA) ครั้งที่ 69 ณ กรุงเทพมหานคร
                        
                            SAPPE เข้าร่วมเวที "CSCAP - Climate and Sustainability Capital Forum @United Nations" ร่วมขับเคลื่อนเป้าหมายการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน ณ สหประชาชาติ กรุงเทพฯ
                        
                            "มิตรผล" จับมือ "SCGC" พัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน เร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน ส่งเสริมการทำ Closed-Loop นำพลาสติกใช้แล้วสู่การรีไซเคิล มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
                        
                            สยามพารากอน ยืนหนึ่งแลนด์มาร์กระดับโลก คว้ารางวัล ICONIC THAI BRAND AWARD จาก Tatler Asia
                        
                            ซีบีอาร์อีเผยตลาด Branded Residence ในไทย ก้าวสู่ผู้นำในเอเชียแปซิฟิก
                        
                            แอนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดตัว WorldFirst โซลูชันบัญชีเดียว ครบทุกธุรกรรมทั่วโลก ในประเทศไทยเพื่อร่วมยกระดับ SME ไทย
                        
                            KBTG คว้ารางวัล The Innovators 2025 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน