ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายและแถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2557 เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำของสังคมโดยให้มีระบบการกู้ยืมที่เป็นธรรม กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยจึงได้ร่วมกันจัดทำมาตรการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนรายย่อย (สินเชื่อ Nano-Finance) โดยการอนุญาตให้มีผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยประเภทใหม่ในระบบสถาบันการเงินไทยเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับผู้ประกอบอาชีพรายย่อยและกำหนดแนวทางการประกอบธุรกิจสินเชื่อดังกล่าวให้มีความเป็นธรรม ไม่เอาเปรียบผู้บริโภคและแก้ไขปัญหาภาระดอกเบี้ยจากการกู้ยืมเงินนอกระบบที่สูงเกินควร
กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกประกาศจำนวน 3 ฉบับ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการประกอบธุรกิจสินเชื่อ Nano-Finance โดยผู้ประสงค์จะประกอบธุรกิจ Nano-Finance สามารถยื่นคำขอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังผ่านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท. ) ได้ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2558 เป็นต้นไป และในขณะนี้มีผู้สนใจยื่นคำขออนุญาตเป็นผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับหรือสินเชื่อ Nano-Finance แล้ว ทั้งหมดจำนวน 20 ราย และมีผู้สนใจยื่นขอเอกสารเพื่อประกอบธุรกิจดังกล่าว แต่ยังไม่ได้ยื่นขออนุญาตอีกประมาณ 70 ราย ทั้งนี้ ใน 20 รายที่ยื่นขออนุญาตกับธนาคารแห่งประเทศไทยแล้วนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ 1) ผู้ยื่นคำขออนุญาตจำนวน 15 ราย อยู่ระหว่างการจัดส่งเอกสารให้ ธปท. เพิ่มเติม 2) ผู้ยื่นคำขออนุญาต 1 ราย ที่จัดส่งเอกสารให้ธนาคารแห่งประเทศไทยครบถ้วนแล้ว และธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ระหว่างส่งคำขออนุญาตให้กระทรวงการคลัง และ 3) ผู้ยื่นคำขออนุญาตจำนวน 4 รายที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้ว
ในวันนี้ กระทรวงการคลังได้จัดพิธีมอบใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อ Nano-Finance จำนวน 4 ราย ได้แก่ 1) บริษัทเงินสดทันใจ จำกัด 2) บริษัทไทยเอซ แคปปิตอล จำกัด 3) บริษัทแมคคาเล กรุ๊พ จำกัด (มหาชน) 4) บริษัทสหไพบูลย์ (2558) จำกัด ทั้งนี้ บริษัททั้ง 4 แห่ง จะเริ่มทำการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ Nano-Finance ทันที และคาดว่าจะสามารถเริ่มให้สินเชื่อ Nano-Finance ได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2558
มาตรการสินเชื่อ Nano-Finance ดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนและธุรกิจ โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยที่ใช้บริการหนี้นอกระบบ 6 แสนครัวเรือน และที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการสินเชื่อจากสถาบันการเงินใด ๆ เลยเป็นจำนวน 1.3 ล้านครัวเรือน ซึ่งถือเป็นการเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ และการลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอันเนื่องมาจากการใช้บริการหนี้นอกระบบ เนื่องจากมีหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยที่เป็นธรรมและไม่เอาเปรียบผู้บริโภค
สานต่องานใหญ่! "สุธัช เรืองสุทธิภาพ" นั่งเก้าอี้นายกสมาคมสินเชื่อทะเบียนรถ ต่อเนื่องวาระที่ 2
สมาคมสินเชื่อทะเบียนรถฯ พร้อมร่วมสนับสนุนรัฐบาลแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ร่วมนำหนี้นอกระบบเข้าสู่ระบบ เพื่อลดภาระให้กับประชาชนและสร้างอนาคตให้กับประเทศไทย
Opn จับมืออีซี่บายเสริมความแข็งแกร่ง เดินหน้ารุกตลาดดิจิทัล เปิดช่องทางบริการเบิกถอนเงินช่องทางใหม่ "DREAMwallet" แก่ลูกค้าบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส
สมาชิกสมาคมสินเชื่อทะเบียนรถฯ รวมพลังส่งเสริมความรู้ทางการเงินต่อเนื่องในโครงการ "เรื่องเงินเรื่องสนุก ความสุขยั่งยืน" ให้กับชุมชนบ้านสันเก้ากอม จ.ตาก
MTC ผนึก VTLA ให้ความรู้โครงการ "เรื่องเงินเรื่องสนุก ความสุขยั่งยืน"
สมาชิกสมาคมสินเชื่อทะเบียนรถฯ รวมพลังส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้กับประชาชน ในโครงการ "เรื่องเงินเรื่องสนุก ความสุขยั่งยืน" จ.ลพบุรี
ส.สินเชื่อทะเบียนรถฯ (VTLA) ลงมติเลือก นายสุธัช เรืองสุทธิภาพ นั่งแท่นนายกสมาคม สานต่อภารกิจยกระดับธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ ช่วยลดการพึ่งพาเงินกู้นอกระบบ
เงินติดล้อ เปิดบ้านต้อนรับคณะผู้บริหารจากกลุ่มบริษัท F88 ประเทศเวียดนาม เพื่อแบ่งปันแนวทางการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
สมาคมสินเชื่อทะเบียนรถฯ จัดบรรยายพิเศษ หัวข้อ การดำเนินธุรกิจภายใต้ข้อกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมทวงถามหนี้