รมว.พม. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมนิคมสร้างตนเองเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่นเพื่อมอบหนังสือแสดงการทำประโยชน์แก่สมาชิกนิคม

30 Apr 2015
วันนี้ (๒๙ เม.ย.๕๘) เวลา ๑๓.๐๐ น. พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมนิคมสร้างตนเองเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เพื่อมอบหนังสือแสดงการทำประโยชน์ในที่ดิน (น.ค.๓) ให้แก่สมาชิกนิคม จำนวน ๑๐๐ ราย มอบโล่ประกาศ เกียรติคุณสมาชิกนิคมตัวอย่าง ที่ดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน ๗ ราย มอบเงินซ่อมแซมบ้านผู้สูงอายุ จำนวน ๒๘ ราย มอบวุฒิบัตรผู้แทนกลุ่ม จำนวน ๔ ราย ที่ผ่านการฝึกอาชีพโครงการสร้างชีวิตใหม่ ให้สตรีและครอบครัว ๔ หลักสูตร จำนวน ๑๒๐ ราย มอบรถโยกและวิลแชร์สำหรับผู้พิการ จำนวน ๑๖ คัน มอบเงินครอบครัวอุปถัมภ์ จำนวน ๖ ราย มอบเงินสงเคราะห์เด็ก จำนวน ๑๐๐ ราย มอบผ้าห่มสำหรับผู้สูงอายุ จำนวน ๔๐๐ ราย และมอบโล่เกียรติคุณแก่ บริษัทฟินิคซ พัลพ์ แอนด์ เพเพอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้การสนับสนุนการทำงานด้านการพัฒนาสังคม ณ นิคมสร้างตนเอง เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า นิคมสร้างตนเองเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๐๖ โดยกรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ดำเนินการจัดตั้ง เมื่อวันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๐๗ และมีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองเขื่อนอุบลรัตน์ เมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๒๘ เพื่อรับรองราษฎรที่ประสบปัญหาและได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน และราษฎรที่ไม่มีที่ทำกินเป็นของตนเอง ครอบคลุมในเขตพื้นที่ ๓ อำเภอ ประกอบด้วย อำเภออุบลรัตน์ อำเภอน้ำพอง และอำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น รวมเนื้อที่ ๓๗๐,๗๐๐ ไร่

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ได้ปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานใหม่ โดยเฉพาะงานนิคมสร้างตนเอง ได้มีแผนงานพัฒนานิคม จัดทำเป็น Road Map ซึ่งในปี ๒๕๕๘-๒๕๕๙ กำหนดให้นิคมสร้างตนเองมีการพัฒนาที่สำคัญ ได้แก่ การพัฒนาบุคลากร การพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ การจัดระบบการที่ดินและทรัพยากร การจัดทำห้องปฏิบัติการนิคม (War room) การจัดตั้งศูนย์เรียนรู้และการสาธิตด้านเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งในและนอกนิคม เพื่อให้สมาชิกนิคมได้เรียนรู้นำไปประยุกต์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและอาชีพในครอบครัว ซึ่งจะส่งผลให้สมาชิกนิคมมีความ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ต่อไป

ทั้งนี้ “การมอบเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ซึ่งเป็นหนังสือแสดงการทำประโยชน์ในที่ดิน หรือ น.ค.๓ และการช่วยเหลือด้านสวัสดิการแก่กลุ่มเป้าหมาย เด็ก สตรี คนพิการ และผู้สูงอายุ ในวันนี้ นับเป็นการตอบสนองต่อนโยบาย ของรัฐบาล และหวังว่าสมาชิกนิคม ผู้ได้รับ น.ค.๓ แล้ว จะมีความมั่นคงในด้านที่ดินถิ่นฐาน ขอให้รักษาเป็นมรดก แก่ลูกหลาน ส่วนกลุ่มเป้าหมายอื่น รัฐบาลจะเร่งให้มีการดำเนินการมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาคน ตลอด ช่วงชีวิต การพัฒนาผู้สูงอายุให้สมบูรณ์ เพื่อรองรับการเป็นสังคมของผู้สูงอายุ” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย