วันที่ ๑๗ เม.ย.๕๘ เวลา ๑๓.๓๐ น. ที่ห้องรับรองชั้น ๙ อาคารใหม่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า จากการที่กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นเจ้าภาพหลักในการส่งแรงงานประมงไทยกลับจากเกาะอัมบน สาธารณรัฐอินโดนีเซีย และกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดระบบการรับแรงงานประมงไทยเมื่อเดินทางถึงประเทศไทย โดยสำนักงานตรวจ
คนเข้าเมืองได้อำนวยความสะดวกเกี่ยวกับเอกสารและวิธีการผ่านคนเข้าเมือง ต่อจากนั้นแรงงานประมงไทยได้เข้าสู่ระบบการช่วยเหลือเยียวยา ซึ่งได้จัดไว้ ๗ ฐาน คือ 
          ๑) สนับสนุนสิ่งของเบื้องต้น ได้แก่ กระเป๋าบรรจุสิ่งของเครื่องใช้ เสื้อผ้า อาหารและเครื่องดื่มฯลฯ 
          ๒) ตรวจสุขภาพเบื้องต้น โดยทีมแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ 
          ๓) แจ้งสิทธิและเงินช่วยเหลือ จากแต่ละหน่วยงานที่พึงได้รับ เช่น ค่าเดินทางกลับภูมิลำเนา ค่าจ้างค่าแรง เงินสงเคราะห์ 
          ๔) สัมภาษณ์ข้อมูลแรงงานประมงไทยในเบื้องต้น 
          ๕) จุดพักรอเพื่อเดินทาง 
          ๖) จุดพบญาติและสื่อมวลชน 
          ๗) จุดขึ้นรถไปสถานที่พักพิงชั่วคราวที่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ 
          ได้จัดเตรียมไว้รองรับ และมีทีมสหวิชาชีพร่วมกันคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ในวันรุ่งขึ้นนั้น นับเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันของหลายหน่วยงาน ที่เห็นผลเป็นรูปธรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จึงเชิญทีมงานชุดเฉพาะกิจ มาพบปะพูดคุยและให้ข้อเสนอแนะเพื่อถอดบทเรียน ผลการปฏิบัติงาน สำหรับการจัดทำเป็นรายงานเสนอรัฐบาลต่อไป
          พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีความตั้งใจ ที่จะช่วยเหลือแรงงานประมงไทยที่ประสบปัญหาทุกคน และจะติดตามช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันมิให้แรงงานประมงไทยถูกหลอกลวงและเสี่ยงต่อการเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ แก่เจ้าหน้าที่ กระทรวงฯ จึงถือโอกาสเลี้ยงขอบคุณทีมชุดเฉพาะกิจ ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย โดยทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำงาน จนสามารถช่วยเหลือแรงงานประมงไทยให้กลับมาประเทศไทยได้ในเวลาอันรวดเร็ว 
          “ประชาชนท่านใดที่ประสงค์จะสอบถามหรือขอความช่วยเหลือตามหาญาติ สามารถโทรมาสอบถามได้ที่ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC โทร ๑๓๐๐ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย
                    
                            
                            การเคหะแห่งชาติร่วมมือมูลนิธินายช่างไทยใจอาสา เร่งตรวจสอบอาคารที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว เผยผลสำรวจ 926 อาคาร มั่นคง แข็งแรง ปลอดภัย
                        
                            สธ.ยกระดับสถานประกอบการด้านอาหาร จังหวัดร้อยเอ็ด ผ่านมาตรฐานสุขาภิบาลอาหาร "SAN"และ "SAN Plus" "สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน" กว่า 436 แห่ง
                        
                            กรมกิจการผู้สูงอายุ-สวทช. สานพลังฝ่าวิกฤติสังคมผู้สูงอายุ พัฒนาระบบ 'นิรันดร์' นวัตกรรมเพื่อสังคม หนุน 'ผู้บริบาล' ติดตาม-ดูแล ผู้สูงอายุในชุมชน
                        
                            การเคหะแห่งชาติจัดโปรเด็ด ขนอาคารเช่า 30 โครงการทั่วประเทศ รวม 3,339 หน่วย หั่นค่าเช่าลง 200 - 500 บาท หวังลดภาระค่าใช้จ่าย ผู้มีรายได้น้อย ดีเดย์ 1 กรกฎาคมนี้
                        
                            การเคหะแห่งชาติรุกอัดแคมเปญ "ฉลองครึ่งปีทองกับการเคหะแห่งชาติ 2568"
                        
                            การเคหะฯร่วมมหาวิทยาลัยราชพฤกษ์ สร้างบัณฑิตคุณภาพสู่ตลาดแรงงาน
                        
                            "วราวุธ" รมว.พม. ชวนสืบสานภูมิปัญญาชาวเล-มานิ มรดกแห่งชาติพันธุ์
                        
                            การเคหะแห่งชาติร่วมพันธมิตรยกระดับชุมชน-สร้างอาชีพ-ลดความเหลื่อมล้ำทั่วไทย
                        
                            "วราวุธ" ติดตามความคืบหน้าโครงการเคหะชุมชนฯ สุพรรณฯ อู่ยา 1